"นายกฯตู่" เปิดกิจกรรม "ข้าวรักษ์โลก" สวมเสื้อม่อฮ่อม พบชาวนาสิงห์บุรี แห่ให้กำลังใจตะโกนรักลุงตู่ (ภาพชุด)

วันที่ 6 ม.ค. 66 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมการตรวจเยี่ยม ซึ่งนายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และประชาชนมารอให้การต้อนรับ

เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงพื้นที่โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนน้ำตาล บริเวณวัดโฆสิทธาราม พร้อมเข้าสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อแป้นเพื่อความเป็นสิริมงคล และเข้าทักทายประชาชนที่รอให้การต้อนรับ พร้อมกับรับฟังความคืบหน้าและตรวจเยี่ยมพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนน้ำตาล ระยะที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2566 มีความยาวตลอดแนวคันกั้นน้ำ 3,461 เมตร พื้นที่ป้องกันอุทกภัย 2.20 ตารางกิโลเมตร มีระดับป้องกันน้ำ 15.35 เมตร ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น ร้อยละ 82.40 หากเสร็จสิ้นจะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงเวลาน้ำหลาก ที่จะกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรม แหล่งเศรษฐกิจ และบ้านเรือนของประชาชน

นายกรัฐมนตรีได้รับทราบถึงความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนน้ำตาล ระยะที่ 2 พร้อมกำชับให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้โดยเร็ว เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนน้ำตาล พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไป ปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้แม่น้ำมีระดับน้ำสูงขึ้นจนเกิดน้ำท่วมบางพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลพยายามเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนเข้าใจการแก้ไขปัญหาไม่สามารถสำเร็จได้ภายในปีเดียว บางครั้งอาจต้องใช้เวลานานหลายปี เพราะงบประมาณต้องมีการจัดสรรไปแก้ไขปัญหาในหลายส่วน จึงต้องมีการจัดสรรงบประมาณให้ดี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เลือกปฏิบัติ เพราะเราทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายกรัฐมนตรียังได้พูดคุยและให้ข้อคิดกับนักเรียนประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 โรงเรียนวัดโฆสิทธาราม พร้อมถ่ายภาพร่วมกับเด็กนักเรียน ก่อนออกเดินทางไปยังบริเวณพื้นที่นานำร่อง หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” ต่อไป

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังพื้นที่นานำร่อง หมู่ที่ 1 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” โดยนายกรัฐมนตรีขับรถดำนาปลูกข้าว ร่วมกับชาวนา พร้อมกับปล่อยปลา ร่วมกับเกษตรกร โดยระหว่างทำกิจกรรมได้มีชาวบ้านมาผูกขาวม้าให้การต้อนรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมข้าวรักษ์โลก พร้อมรับฟังรายงานผลการดำเนินงาน โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model (สิงห์บุรีโมเดล)จากนายภณ ทัพพินท์กร นายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก ก่อนพบปะเกษตรกร เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ

โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขณะเปิดงานว่า เป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีไม่ได้ดูว่าเป็นของใคร ทุกจังหวัดคือคนไทยหรือไม่ ต้องดูแลคนไทยทั้งประเทศมากบ้างน้อยบ้างตามแผนงานโครงการที่ขอขึ้นมา แต่ต้องมีการตรวจสอบ ไม่เลือกปฏิบัติขึ้นอยู่กับความต้องการว่าเร่งด่วนมากน้อยแค่ไหน เกิดประโยชน์กับคนเท่าไหร่ หากจำเป็นก็ต้องทำให้เขา ขออย่างเดียวอย่าทุจริต ตนมีหน้าที่ในการกำกับดูแลอนุมัติอนุญาต แต่ตนจะสั่งไว้เสมอว่าจะต้องโปร่งใส สุจริต และเป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ ทุกอย่างถ้าไม่เห็นชอบก็จะไม่อนุมัติ

ทั้งนี้ หลังจากกล่าวเปิดงานเสร็จ นายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ ตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว พร้อมกับมีเสียงตะโกนรักลุงตู่ – ลุงตู่สู้ๆ และมีเกษตรกรมาถามราคาข้าว ขอแพงกว่านี้ได้ไหม พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า ก็เป็นไปตามกติกา รัฐบาลพร้อมช่วยเหลืออยู่แล้ว ส่วนเรื่องราคาปุ๋ยที่ขอให้ถูกลงกว่านี้ได้ ถ้าไปดูตลาดข้างนอกราคาปุ๋ยขึ้นกันหมด อยากให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพ เพราะจะช่วยลดต้นทุน

“มาสิงห์บุรีก็ดีใจ ไม่เคยรักประชาชนน้อยกว่าที่ประชาชนรัก”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้นั่งล้อมวงกินข้างบนกองฟาง ร่วมกับตัวแทนชุมชน พร้อมกล่าวว่า เมนูบนโต๊ะเป็นของโปรดตัวเอง โดยเฉพาะแกงไก่ใส่หน่อไม้ จากนั้นก็รับประทานอาหารอย่างชื่นมื่น ขณะที่บรรยากาศการลงพื้นที่ครั้งนี้ ชาวสิงห์บุรี ต่างปรบมือดีใจ ซึ่งการมาจังหวัดสิงห์บุรี ถือเป็นครั้งที่แรกของปีนี้

สำหรับโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ตั้งขึ้นเพื่อให้ชาวนาทำนาใหม่ ยกคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตร ทำการย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ให้กลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติ เพิ่มธาตุสารอาหารที่สำคัญให้กับพืช และยังส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีการเกษตร และส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ โครงการดังกล่าวทำให้ได้ผลผลิตข้าวดีมีคุณภาพ ปลอดสารพิษ ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเป็นการส่งเสริมแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ส่งเสริมการทำนาสู่ความยั่งยืนตามแนวทางของรัฐบาล ในการยกระดับคุณภาพข้าวไทยออกสู่เวทีโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตข้าวที่มีคุณภาพต่อระบบเศรษฐกิจและระบบการเกษตรของโลกในรูปแบบ BCG

นายกฯตู่, ข้าวรักษ์โลก, ชาวนาสิงห์บุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง