ราชกิจจาฯ ประกาศข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉ.30 มาตรการ 11 ข้อคุมโควิด

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉ.30 มาตรการ 11 ข้อคุมโควิด

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30)

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ ๑๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น

โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ยังคงทวีความรุนแรง โดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์ชนิดสายพันธุ์เดลตาที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายและติดต่อโรคกันได้โดยง่าย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อร่ายใหม่ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยฝ่ายสาธารณสุขได้รายงานผลการประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ที่แสดงผลว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูงเพิ่มมากขึ้นหากมิได้ดำเนินมาตรการควบคุม และจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางและการรวมกลุ่มของบุคคลอย่างรัดกุม มีประสิทธิภาพเพียงพอแม้ปรากฏว่าผู้ติดเชื้อที่หายป่วย หรืออาการดีขึ้นจนออกจากโรงพยาบาลได้ในแต่ละวันมีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วยก็ตาม ด้วยเหตุผลตังกล่าว จึงจำเป็นต้องบังตับใช้บรรตามาตรการ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติต่าง ๆ อย่างเข้มงวดกวดขันเพื่อการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องออกไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง และยกระดับบางมาตรการเพื่อให้การควบคุมการระบาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันมิให้การระบาดเพิ่มความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อน โดยปิดสถานที่ก่อสร้างและบริเวณที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงาน ตลอดจนได้มีการกำหนดมาตรการปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงบางกรณีเพื่อประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งผลการดำเนินการในช่วงเวลาที่ผ่านมาปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและผู้รับผิดชอบในการปรับปรุงสถานที่พักคนงาน และการสุขาภิบาลให้ถูกสุขลักษณะ การปรับปรุงสถานประกอบกิจการและเตรียมมาตรการ ด้านป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งการกำกับติดตามให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสมควรปรับการบังคับใช้บางมาตรการต่อกลุ่มบุตคล สถานที่ และกิจการ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนทั้งด้านเรษฐกิจและสังคม แต่ยังคงให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและกำกับติดตามการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ศบค.) ดังต่อไปนี้

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กปภ. เปิดสถานีน้ำดื่มสะอาด Mini Station น้ำประปาดื่มได้บริการประชาชนชาว จ.ระยอง ในราคาประหยัด มุ่งลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยช่วงระยะเริ่มแรกนี้ จะจ่ายน้ำให้ฟรีไปจนถึงปลายปีนี้
“สุพิศ” ปัดบ้านใหญ่ปชป. หนุนชิงนายกอบจ.สงขลา
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เตรียม สู่ ขอ น้องหมูมะนาว จากโคราช ให้ น้องหมูตุ๋น หวังพัฒนาสายพันธุ์ ฮิปโปแคระ
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 เผยสถติสุดสยอง พบคนกิน "หมูดิบ" เสียชีวิตแล้วนับสิบราย
"อนุทิน" ย้ำน้ำท่วมภาคใต้ ผู้ว่าฯยังรับมือได้ สถานการณ์ต่างจากภาคเหนือ
“ทนายเดชา” พูดแล้ว ใช่-ไม่ใช่ หลัง “ทนายบอสมิน” ปูดข่าวมีคนโดนหมายจับ
“โจทก์เมียบิ๊กโจ๊ก” โวยลั่นโรงพัก! ถูกออกหมายจับ-โดนสะกดรอยตาม
สั่นสะเทือนแน่ ทีมสจ.กว่า 20 เสียง หนุน "ถาวร" ลงชิงนายกอบจ.สงขลา
“คารม” เผย ธอส. สนับสนุนผู้สูงวัย มีบ้านก่อนสิ้นปี อัดโปรชุดใหญ่ จัดสินเชื่อ 4 โครงการ
“ภูมิธรรม” เยี่ยมชมนิทรรศการวิจัยยุทโธปกรณ์ ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลก 3 แผนงาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น