นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ว่า ชาวกรุงเทพฯ จะต้องเลือกผู้แทนจากพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่ง และเรามั่นใจว่าจะปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ จะส่งให้ครบ 400 เขตทั่วประเทศ ภาคอีสาน 90 เขต กรุงเทพฯ 33 เขต แต่ต้องรอการแบ่งเขตจาก กกต. ทุกอย่างมีความเตรียมพร้อม รวมทั้งนโยบายภาพรวม เราจะต้องสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สร้างนโยบายของกรุงเทพฯ จนต่อยอดเป็นนโยบายประเทศ
“ผลโพลที่ออกมาทำให้เป็นห่วงในเรื่องของทุจริตคอรัปชั่น เป็นภารกิจหลักที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน รวมทั้งฝ่ายการเมืองและประชาชนต้องไม่สนับสนุนธุรกิจการเมือง เป็นต้นตอของการถอนทุนคืนและทุจริตคอรัปชั่น ใครที่ขายตัวหรือลงทุนซื้อตัวดูดผู้แทน สุดท้ายก็ไปจบที่การถอนทุนคืน พรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น เดินหน้าประชาธิปไตยสุจริตเป็นแนวทางและนโยบายสำคัญของเรา”
เมื่อถามว่า รอบนี้พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ เผยว่า “คนเป็นหัวหน้าพรรคต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี” ถ้าหากมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทันที
ส่วนจะส่งแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 คนหรือไม่ ต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา แต่ผู้สมัครเลือกตั้งครบ 400 เขต ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยกรอบนโยบาย สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ และนโยบายเชิงลึกที่กำลังจะเปิดต่อไปในอนาคต
เมื่อถามว่า ตอนนี้การเมืองแบ่งเป็น 2 ขั้ว ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ถ้าต้องเลือกจะร่วมรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์อยากจะร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือพรรคพลังประชารัฐ นายจุรินทร์ ตอบว่า ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบ เพราะเราเป็นประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
“หลักสำคัญใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็จะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล นี่คือหลักสำคัญ ใครจะรวมเสียงข้างมากได้ต้องอยู่ว่าพรรคไหนได้เท่าไหร่ คนที่จะบอกได้ก็คือประชาชน ต้องรอผลการเลือกตั้งเท่านั้น”
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปเปิดตัวในนามแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ ย้ำว่า ตนไม่ขอออกความคิดเห็น