สำนักข่าว CNN ได้มีการนำเสนอบทความ ที่อ้างอิงถึงแหล่งข่าวรายหนึ่ง ที่มีความคุ้นเคยกับหน่วยข่าวกรองตะวันตกว่า สงครามในยูเครนเปิดโอกาสให้สหรัฐและพันธมิตร ได้ศึกษาว่าระบบอาวุธของพวกเขาทำงานอย่างไร อาวุธยุทโธปกรณ์ชนิดใดที่ทั้งสองฝ่ายใช้ เพื่อให้ได้รับชัยชนะในสงครามยุคใหม่ ยูเครนถือเป็นห้องปฏิบัติการอาวุธอย่างแท้จริงในทุกแง่มุม เพราะไม่เคยมีการใช้ยุทโธปกรณ์เหล่านี้จริง ในสงครามระหว่าง 2 ประเทศที่มีการพัฒนาทางอุตสาหกรรมแล้ว นี่คือการทดสอบการต่อสู้ในโลกแห่งความเป็นจริง
บทความรายงานต่อว่า แหล่งข่าวชี้ว่า สำหรับฝ่ายกลาโหมของสหรัฐ ความขัดแย้งของยูเครนได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลอันมหาศาลเกี่ยวกับระบบของสหรัฐ โดยระบบยุทโธปกรณ์บางส่วนที่มอบให้ยูเครนนั้น เช่น โดรนสวิตช์เบลด 300 (Switchblade 300) ซึ่งเป็นโดรนที่สามารถควบคุมได้จากระยะไกลถึง 10 กิโลเมตร แต่ใช้งานได้เพียง 10 นาทีเท่านั้นหรือขีปนาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายไปที่ระบบเรดาร์ของศัตรู ทางกลาโหมก็ได้พบว่า ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ มีประสิทธิภาพในสนามรบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ส่วน M777 ฮาววิตเซอร์ ปืนครกใหญ่ เมื่อใช้งานบ่อยครั้ง ก็จะมีการเสื่อมสภาพหนักจนสูญเสียความแม่นยำ รวมถึงยังยากต่อการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยิงกลับ ยากต่อการซ่อน และอาจจะไม่มีการใช้อีกต่อไป
อย่างไรก็ดี ทางกลาโหมก็ได้พบว่า ขีปนาวุธระบบไฮมาร์ส หรือ ระบบยิงจรวดด้วยปืนใหญ่เคลื่อนที่คล่องตัวสูง M142 สามารถสร้างความสำเร็จอย่างยิ่งสำหรับยูเครน แต่ก็ได้เรียนรู้เพิ่มเติมถึงอัตราการบำรุงรักษาซ่อมแซมระบบ ภายใต้การใช้งานหนักในสงครามเช่นกัน ซึ่งทางกลาโหมจะทำการศึกษากันต่อไป และคาดว่าจะใช้เวลาหลายปี