แจกพิกัด 9 สถานที่ ไหว้พระ ศาลเจ้า ในเทศกาล "ตรุษจีน 2566" เสริมแต้มบุญรับปีกระต่ายทอง พร้อมแจกเคล็ดลับขอพรยังไงให้ปังตลอดปี 2566
ข่าวที่น่าสนใจ
วัน “ตรุษจีน 2566” ทั้งทีปีนี้ต้องปังกว่าเดิม ใครที่ยังไม่รู้จะไปแก้ชง ขอพรที่ไหนดี TOP News จัดให้แล้ว กับ 9 พิกัด ไหว้พระ ศาลเจ้า เสริมปังความเพิ่มแต้มบุญรับปีกระต่ายทอง เปิดรับความเฮงตลอดปี 2566 จะมีที่ไหนบ้าง ติดตามชมได้เลยค่า
1. ศาลเจ้าจุนเสียงโจซือ
- ศาลเจ้าขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกหัวเม็ด ใกล้สะพานหัน ถนนจักรวรรดิ โครงสร้างอาคารร้อยกว่าปี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวจีนฮกเกี้ยน
- โดดเด่นด้วยศิลปะฉบับจีนฮกเกี้ยนผสมผสานแต้จิ๋ว ตัวผังศาลเจ้ามีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ผังกง)
- ภายในประดิษฐานเทพประธานหลี่ตงปิน (จุนเสียงโจซือ) แกะสลักด้วยไม้ เป็นเทพองค์ที่ 3 ใน 8 เซียน ตระกูลโป๊ยเซียน ตามประวัติเป็นเทพที่มีความรู้ความสามารถมากในสมัยราชวงศ์ถัง คู่กายพร้อมด้วยอาวุธกระบี่วิเศษคู่ มือจรดพู่กัน สัญลักษณ์แห่งการศึกษาเล่าเรียน
- นอกจากนี้ ภายในยังมีเทพเจ้าลีเซียงซือกง องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม รวมถึงเครื่องสังเค็ดในงานพระบรมศพของรัชกาลที่ 5 กระถางธูปพระราชทานสลักพระปรมาภิไธย จปร. เบื้องหน้าเทพประทานของศาลแห่งนี้ด้วย
การขอพร : ความสำเร็จด้านการงาน การศึกษา
พิกัด : คลิกที่นี่
2. ศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน)
- ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3
- ในสมัยก่อนบริเวณนี้เป็นแหล่งเทียบท่าของเรือสำเภาจีนในสมัยนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของศาลเจ้าพ่อกวนอู
- ภายในศาลมีการประดิษฐานองค์ เทพเจ้ากวนอู ด้วยกันทั้งหมด 3 องค์ ที่มีขนาดแตกต่างกันไป คือ องค์เล็ก องค์กลาง และองค์ใหญ่
- ในช่วงแรกมีชาวฮกเกี้ยนได้อัญเชิญรูปปั้นเทพเจ้ากวนอูองค์เล็กสุดเข้ามาประทับในเก๋งจีนนี้ เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ บูชาขอพร
การขอพร : ขอพรเกี่ยวกับการงาน การประกอบกิจการ ให้มีความก้าวหน้า
พิกัด : คลิกที่นี่
3. โรงเจเตียชูหั่ง (โรงเจบุญสมาคม)
- โรงเจแห่งแรกในย่านสัมพันธวงศ์ และเก่าแก่ที่สุดในย่านเยาวราช
- เป็นโรงเจที่ได้รับพระราชทานป้ายชื่อจากรัชกาลที่ 5 จากชื่อเดิม โรงเจตรอกไกร (ตามชื่อซอย) เป็นชื่อ โรงเจบุญสมาคม
- สร้างโดยพ่อค้าและคหบดีชาวจีนสมัยรัชกาลที่ 5 ใช้เป็นพื้นที่ประกอบอาหารเลี้ยงและบริจาคทานแก่ประชาชน ต่อมาได้บูรณะอาคารใหม่ทับโรงเจเดิม
- จากข้อสันนิษฐานด้านวิชาการ สถาปัตยกรรมโรงเจแห่งนี้ออกแบบด้วยฝีมือช่างชาวจีนถ่ายทอดเอกลักษณ์งานศิลปะจีนฮกเกี้ยนที่เน้นลวดลายเส้นโค้ง ตกแต่งด้วยงานแกะสลักซับซ้อนรูปสัตว์ ผลไม้มงคล และเสาแกะสลักมังกร
- นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งด้วยเทคนิคเชี่ยนฉือ คือ การตัดกระเบื้องเป็นชิ้นเล็ก มาประกอบกันเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ละเอียดงดงามมากถือเป็นไฮไลต์ของโรงเจแห่งนี้
- ด้านในสุดประดิษฐาน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม(องค์กลาง) และขุนพล 9 องค์ (กิ่วอ๊วง) ซึ่งเป็นเทพที่คอยดูแลคุณงามความดี บันทึกความดีถือเเผ่นไม้ ในกรอบไม้แกะสลักภาพวรรณกรรมจีนสามก๊ก กรอบเถาองุ่น สะท้อนการเข้ามาของศิลปะตะวันตก
- ด้านซ้ายและขวาของอาคาร ปรากฎประตูแปดเหลี่ยม สถานที่เก็บแผ่นป้ายสถิตดวงวิญญาณของบรรพบุรุษชาวจีนผู้มีคุณูปการต่อโรงเจหรือผู้ยากไร้
พิกัด : คลิกที่นี่
4. ศาลเจ้าอาเนี้ย
- ศาลเจ้าในตรอกย่านสำเพ็ง ถนนทรงวาด ศูนย์รวมจิตใจและมีความสำคัญในแง่มุมประวัติศาสตร์ชุมชนครั้งท่าน้ำราชวงศ์ ซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯ
- ย่านนี้จึงมีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่นและมีบ้านเรือนสร้างด้วยไม้อยู่ติดกันจำนวนมาก ทำให้เกิดเพลิงไหม้อยู่บ่อยครั้ง
- ชาวจีนในแถบนี้จึงร่วมกันสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้น ด้านในประดิษฐาน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพรบนแท่นดอกบัว หรือ อาเนี้ย ซึ่งเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่นิยมใช้เรียก เจ้าแม่กวนอิม ช่วยปัดเป่าภัยพิบัติ ปกป้องคุ้มครองชุมชน
- และที่เป็นข้อสังเกตของศาลเจ้าแห่งนี้ ชาวบ้านแก้เคล็ดด้วยการนำผ้าแดงมาพันกระถางธูปไว้ เปลี่ยนด้านหน้าเป็นด้านหลัง ให้ด้านหน้ากระถางธูปหันหน้าไปทางชุมชนเพื่อให้องค์เจ้าแม่กวนอิมปกป้องชุมชนจากเหตุเพลิงไหม้หรือภัยพิบัติต่าง ๆ นั่นเอง
พิกัด : คลิกที่นี่
5. วัดกุศลสมาคร
- วัดญวนแบบอนัมนิกาย บนถนนราชวงศ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพ่อค้าเชื้อสายญวน และได้รับชื่อพระราชทานจากรัชกาลที่ 5
- ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน ภายในอุโบสถก่ออิฐถือปูนประดับลายปูนปั้นรูปมังกรดั้นเมฆ ประดิษฐานประธานองค์เดียว พระศรีศากยมุนีปางสมาธิ พระพักตร์อวบอิ่ม
- พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้าย-ขวา แบบมหายานด้านขวาของอุโบสถเป็นเจดีย์หกชั้น สร้างโดยพระยาโชฎึกราชเศรษฐี
พิกัด : คลิกที่นี่
6. ศาลเจ้ากว๋องสิว หรือ ศาลเจ้ากวางตุ้ง
- สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมาคมกว๋องสิว สมาคมชาวจีนกวางตุ้ง ได้รวมเงินกันซื้อที่ดินบนถนนเจริญกรุง ในปี พ.ศ.2420
- เริ่มจากการสร้างเป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารของชาวจีนในย่านนี้และต่อมาสร้างศาลเจ้าตามความเชื่อนิกายมหายาน ตกแต่งด้วยวัสดุจากเมืองจีน
- โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารแบบสามเรือนล้อมลาน หรือ ซาน เห่อ ย่วน
- ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ ตัวอักษรคำว่า ฟู่ แปลว่า โชควาสนา ล้อมด้วยค้างคาว 4 ตัวบนบานประตู เปรียบเสมือนคำอวยพรแก่ผู้เข้ามาสักการะในศาลแห่งนี้
- ภายในประดิษฐาน ซำป้อหุกโจ้ว และองค์พระแม่กวนอิมปางประธานพร ก่อนพระประธานพระอวโลกิเตศวร พระพุทธเจ้า 3 พระองค์ตามความเชื่อจีนโบราณ เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เทพเจ้าเสือ จี้กง กวนอู โลวป๊าน เหล่าจื้อ ให้ผู้ศรัทธาเข้ามาไหว้ขอพร เสริมสิริมงคล
- ไม่เพียงเท่านั้น ศาลกว๋องสิวแห่งนี้ยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอีกด้วย
พิกัด : คลิกที่นี่
7. ศาลเจ้าฉื่อปุยเนียเนี้ย
- ศาลเจ้าเล็ก ๆ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 บนถนนพาดสาย แต่เดิมบริเวณนี้เป็นแหล่งเสื่อมโทรม รกร้าง เป็นกองขยะมาก่อน
- เล่ากันว่ามีการอัญเชิญองค์เจ้าแม่กวนอิมขึ้นเกี้ยวมาจากเมืองจีน เพื่อไปขึ้นประดิษฐานที่ใดที่หนึ่ง ขบวนอัญเชิญได้เดินทางผ่านถนนเส้นนี้ แต่เกี้ยวมีน้ำหนักมาก ยกต่อไม่ไหว ต้องมาพักอยู่ที่กองขยะบริเวณนี้
- เชื่อว่า องค์เจ้าแม่กวนอิมต้องการประดิษฐานอยู่บริเวณนี้ จึงมีการพัฒนาปรับภูมิทัศน์และสร้างศาลเจ้าขึ้นด้วยอิทธิพลของศิลปะจีนแต้จิ๋วยุคปลายราชวงศ์ชิง ศิลปะของสถาปัตยกรรมไม่หวือหวาหรือมีลวดลายมากนัก
- องค์เจ้าแม่กวนอิมในศาลเจ้าแห่งนี้มีขนาดเล็ก สลักจากไม้ มีใบหน้ากลมเอิบอิ่ม ยื่นหน้าออกมามององค์สักการะ
- ชาวจีนเชื่อว่าเมื่อได้เข้ามากราบองค์เจ้าแม่กวนอิมนี้เหมือนได้ชำระจิตใจที่ยุ่งเหยิงเหมือนกองขยะให้สงบและสะอาดขึ้น
- ด้านขวามีไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าโชคลาภ 2 องค์ ได้แก่ องค์ศิลปะแบบจีน และองค์ศิลปะแบบทิเบต ใบหน้าดุดัน อุดมสมบูรณ์ หาชมได้ยากมีอายุต้นแบบมากกว่า 1,300 ปี
การขอพร : ความสำเร็จด้านธุรกิจ การงาน
พิกัด : คลิกที่นี่
8. ศาลเจ้าเซียงกง
- ศาลเจ้าคุณทวดเทวดา ศาลเก่าแก่ของชาวจีนฮกเกี้ยนที่สร้างขึ้นในราวรัชกาลที่ 3
- ซึ่งคำว่าเซียงกง หลายคนได้ยินแล้วคงนึกถึงย่านอะไหล่รถมือสองในแถบเยาวราช แต่จริง ๆ แล้วเซียงกง หมายถึง ทวดเทวดา
- เป็นเทพเจ้าประจำท้องถิ่นที่คอยปกป้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน ให้อยู่เย็นเป็นสุข
การขอพร : ป้องคุ้มครองอำนวยพรให้ปลอดภัย มีโชคลาภ
พืกัด : คลิกที่นี่
9. ศาลเจ้าหลี่ตี่เมี่ยว
- “ตรุษจีน 2566” นี้ ปิดท้ายด้วยศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ใกล้แยกแปลงนาม ถนนพลับพลาชัย เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ทรงอาคารสมัยปลายรัชกาลที่ 5
- สร้างแบบผสมผสานระหว่างศาลเจ้าและพระราชวัง มีบันไดสูงขึ้นสู่ตัวอาคารด้านบน
- ภายในมีองค์เทพหลีไทตี้ เป็นเทพประธานดูแลความเป็นอยู่ทุกข์สุขให้แก่ผู้คน
- นิยมมาไหว้ขอความรัก คู่ครองที่ดี การครองรักที่มีความสุข และสำหรับผู้ที่มีคู่ครองแล้ว นิยมมาไหว้ขอบุตรสืบสกุล
- มุมซ้ายภายในศาลเจ้า มีมุมเสี่ยงเซียมซียา แก่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพสามารถมาเสี่ยงทายเซียมซี แบ่งเป็นกระบอกเซียมซียาสตรียาบุรุษ ยากุมาร โดยแนะนำให้อธิษฐานจิตแก่เทพประธาน ตั้งสมาธิและเสี่ยงเซียมซี
- เมื่อได้หมายเลขและใบเซียมซี ก็นำใบเซียมซีนั้นไปให้หมอยาที่ศาลเจ้าจัดยาสมุนไพรจีน เพื่อไปต้มรักษาอาการป่วย ตามความเชื่อของศาลแห่งนี้
การขอพร : ขอพรด้านความรัก การครองคู่ และบุตร
พิกัด : คลิกที่นี่
ข้อมูล : ข่าวสารท่องเที่ยว ททท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง