วันนี้ (24 ม.ค.) ที่รัฐสภาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภาฯ และประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การศึกษาแห่งชาติ หลังจากกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว และจำนวนสมาชิกรัฐสภาลงชื่อ 340 คน เกินกึ่งหนึ่งถือว่าครบองค์ประชุม จึงขอเปิดประชุมตามระเบียบวาระ
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. ได้ลุกขึ้นอภิปรายปัญหา สภาฯ ล่ม เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ตนไม่มีสิทธิก้าวล่วง แต่มีหลายครั้งที่ประชุมร่วม ส.ว.-ส.ส. ทำให้เสียเกียรติศักดิ์ และเสียภาพลักษณ์ ตนอับอายและคับข้องใจไม่น้อยกว่าประชาชน ประชุมร่วมรัฐสภา ส.ว. มาเกินครึ่งทุกครั้ง
“สภาฯ ล่ม จึงไม่ได้เกิดจาก ส.ว. จึงอยากแสดงความรู้สึกผ่านไปยังประชาชน เพื่อให้สมาชิกตระหนักในความรับผิดชอบ และตระหนักในเกียรติของสภาฯ และ ส.ว. ทำไปด้วยความรับผิดชอบ”
ด้าน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นแย้งว่า ส.ว. พูดเหมือนกับว่า ส.ส. ทำสภาฯ ล่ม และ ส.ว. ไม่เคยมาต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง เป็นการพูดเอาดีใส่ตัวโยนชั่วใส่ผู้อื่น ตนคิดว่าไม่ควรพูดแบบนี้ เพราะ ส.ส. มีภารกิจมาก ต้องลงพื้นที่ และประชุมกรรมาธิการ
“ส.ว. ไม่มีภารกิจอะไร เอาหลักฐานมากางเลยว่า สภาฯ ล่มได้อย่างไร ท่านเป็นผู้ใหญ่ การพูดแบบนี้ไม่ดี และไม่สร้างสรรค์ จึงอยากให้ถอนคำพูด”
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นหารือ ว่า ประเด็นที่หารือวันนี้มีความสำคัญ เพราะ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้นัดวาระพิเศษเพื่อให้มาพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. การศึกษาฯ คนคาดหวังว่าจะได้นำไปดำเนินการประกาศเป็นกฎหมาย เราอย่าไปโทษใครเลย เพราะวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) เป็นวาระพิเศษเกี่ยวข้อตกลงระหว่างประเทศ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องตระหนักสำนึกว่าเราต้องร่วมมือกันในการลงมติ หลังจากนี้ถ้าเราร่วมมือกัน ใครมาก็มา ใครไม่มาก็ปรากฏชัดเจน เรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐสภา ตนไม่อยากให้ใครเอาความคิดเห็นข้างนอกเข้ามาพูด เมื่อครบองค์ประชุมแล้วอยากให้ใช้เวลาพิจาณากฎหมายตามลำดับ คาดว่าหลังมาตรา 20 ไปแล้ว ก็จะพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะเสร็จภายในคืนนี้ได้