ชาวเมืองอู่ฮั่นของจีนแห่กันไปที่วัดกุ้ยหยวน หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอู่ฮั่น เพื่อสวดมนต์ ไหว้เทพเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีตรุษจีน นับเป็นการเปิดวัดช่วงตรุษจีนครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากมีเมืองถูกปิดไปเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นเมืองเริ่มต้นของโควิด-19 ที่ทำการระบาดไปทั่วโลก นอกจากนี้ ชาวเมืองยังออกไปตลาดกับครอบครัว และมีการจับกลุ่มกัน บางคนก็ไม่ใส่หน้ากากอนามัยอีกด้วย
ทั้งนี้ ชาวเมืองอู่ฮั่นได้กล่าวว่า พวกเขามีความหวังสำหรับอนาคต และไม่กลัวโควิด-19 อีกต่อไป พวกเขารู้สึกดีใจที่ชีวิตกลับมาเป็นปกติ แม้ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ผู้คนเริ่มติดเชื้ออย่างกว้างขวาง หลังจากเปิดใหม่ แต่พวกเขาก็มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และตอนนี้ร้านค้ากลับมาเปิดให้บริการ ความกังวลหลายอย่าง ค่อยๆ คลี่คลายลง นี่เป็นครั้งแรกที่ชาวจีนได้พบกับเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ ผู้คนบนโลกออนไลน์กำลังพูดถึงเรื่องนี้มาก กับการครบรอบ 3 ปี และตอนนี้ประเทศก็ได้เปิดแล้ว ทุกคนได้กลับไปเป็นเหมือนเมื่อ 3 ปีที่แล้วในที่สุด
ขณะเดียวกันที่มาเก๊า ถนนหนทางในมาเก๊าต่างเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงตรุษจีน หลังจากการควบคุมโรคระบาดถูกยกเลิก อย่างไรก็ดี แม้จะมีความพลุกพล่านเกิดขึ้น แต่ก็ยังถือว่าห่างไกลจากการดำเนินธุรกิจช่วงปกติ โดยปีที่แล้ว มาเก๊ามีรายได้จากคาสิโนลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่รัฐบาลสั่งปิดกิจการส่วนใหญ่ ในช่วงที่การระบาดอยู่ในระดับที่สูง และในปีนี้ ทางการตั้งเป้าที่จะรักษาแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ จึงได้มีการจัดการฉลองตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่เป็น 2 เท่า ทำให้โรงแรมระดับไฮเอนด์ถูกจองเต็มตลอดช่วงเทศกาล จำนวนผู้มาเยือนช่วงสุดสัปดาห์ก็ฟื้นตัวขึ้น สู่ระดับประมาณครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
ด้านนายซูลู ซู อดีตส.ส. ของมาเก๊าได้กล่าวว่า ก่อนเกิดโรคระบาด มาเก๊ามีนักท่องเที่ยวสูงสุดเกือบ 40 ล้านคนต่อปี โดยเฉลี่ยแล้วมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1 แสนคนต่อวัน สำหรับตอนนี้ มาเก๊ามีนักท่องเที่ยวประมาณ 5 หมื่นถึง 6 หมื่นคน ซึ่งสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดี ทั้งนี้ ตนไม่ได้กังวลในช่วงเทศกาลตรุษจีนเลย แต่หลังจากตรุษจีนไปแล้ว เราจะได้เห็นสถานการณ์ทางธุรกิจที่แท้จริง จำนวนนักท่องเที่ยวจะสามารถขึ้นสูงถึงครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนเกิดโรคระบาดหรือไม่ ถ้าตัวเลขไม่ถึงระดับนั้น เราก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างเศรษฐกิจของมาเก๊า