“อดีตทูตนริศโรจน์” ย้อนวีรกรรมสื่อประเทศเพื่อนบ้าน เคยโวยเจ้าภาพไทยไม่ให้เกียรติ พาดพิงเขียนข่าวเสียหาย แต่ถนัดเคลมผลงาน

"อดีตทูตนริศโรจน์" ย้อนวีรกรรมสื่อประเทศเพื่อนบ้าน เคยโวยเจ้าภาพไทยไม่ให้เกียรติ พาดพิงเขียนข่าวเสียหาย แต่ถนัดเคลมผลงาน

หลังจากที่กลายเป็นประเด็นเดือดระดับประเทศ เมื่อประเทศกัมพูชา ที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ 2023 ประกาศว่า ไม่มีการแข่งขันกีฬา “มวย” (มวยไทย) ตามที่เจอจัดกันมา แต่เปลี่ยนเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของตน ชื่อ “กุน ขแมร์” พร้อมกับระบุว่า ชาติสมาชิกสหพันธ์ซีเกมส์ ยินดีส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครบ 4 ชาติ ตามกติกาของการแข่งขันซีเกมส์ทุกประการ

อีกทั้งยังไม่สนใจคำประกาศของสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ที่ประกาศแบนชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ และมีคำยืนยันว่า ประเทศไทย จะไม่ส่งนักกีฬามวยไทยเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ 2023

ก่อนที่ วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งกัมพูชา จะระบุว่า ไม่สนใจที่จะโดนแบนจากองค์กรมวยจากประเทศไทย และพร้อมจะตอบโต้ด้วยการไม่ส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขัน “มวยไทย” ในซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเช่นกัน

ขณะที่ในโลกออนไลน์ แฟนกีฬาชาวกัมพูชา มีการนำภาพตัดต่อการต่อสู้ที่อ้างว่าเป็นการต่อสู้ BOKATOR ศิลปะการต่อสู้โบราณของชาติตน ก่อนโดนแหกว่าภาพดังกล่าวดั้งเดิมเป็นการต่อสู้ของ “มวยไทย”

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน, ผู้คนกำลังยืน, ช้าง, กลางแจ้ง และ ข้อความ

 

ต่อมามีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ของไทย มีบุคคลในภาพนั้นออกมายืนยันว่าตนเป็นชาวไทย และศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ก็เป็น “มวยไทย” ซึ่งเจ้าตัวมีดีกรีเป็นอดีตนักมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย และเป็นครูมวยไทยที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้องอีกด้วย

“สวัสดีครับประเทศเพื่อนบ้าน ผม นายภานุพงศ์ ตั้นจัด ผมเป็นคนไทยครับ เชืัอชาติไทย สัญชาติไทย พูดภาษาไทย อาศัยอยู่ที่ประเทศไทย เป็นอดีตนักมวยไทยอาชีพ เป็นอดีตนักกีฬามวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย เป็นครูมวยไทยที่ผ่านการอบรมครูมวยไทย ของสำนักงานคณะกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทย”

“ไม่มีญาติ พี่ น้อง หรือเพื่อน ทางเพื่อนบ้าน ไม่เคยศึกษาเรียนรู้ BOKATOR ไม่เคยศึกษาเรียนรู้ กุน ขแมร์ แต่ ในรูปนี้ก็คือผมกับน้องชายถ่ายที่หมูบ้านช้าง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ประเทศไทย กราบสวัสดี”

พร้อมกันนี้ยังติดแฮชแท็กทิ้งท้ายว่า “#อย่าก๊อป #ไม่รู้อย่าอ้าง #อยากมีให้สร้าง #ไม่ใช่ของตัวเองอย่าอยากได้ ” ทำเอาเรื่องราวมาแรงบนโลกออนไลน์อย่างมาก

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางด้านนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ระบุดังนี้ว่า “สมัยที่ผมทำงานดูแลสื่อต่างประเทศอยู่ที่กรมสารนิเทศ ครั้งนึงทำโครงการเชิญสื่อจากประเทศเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย พม่า และสื่อจากประเทศเอเชียใต้ ศรีลังกา และบังคลาเทศ มาร่วมสังเกตการณ์ประเพณีลอยกระทงในไทย ที่สุโขทัย และ กทม.

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, กำลังยืน, น้ำ, ชายหาด และ มหาสมุทร

 

หลังจากเสร็จงานที่สุโขทัย ก็ลงมากทม. ผมพาคณะไปชมตลาดน้ำดำเนินสะดวก ขากลับแวะดูโชว์ทางวัฒนธรรมที่สวนสามพราน
ที่สวนสามพรานจะมีโชว์รำกลองยาวปิดท้าย และตอนจบนักแสดงจะเอาธงชาติประเทศต่างๆที่เหน็บไว้ที่เอว ออกมาโบกเป็นการให้เกียรตินักท่องเที่ยวชาติต่าง ๆ

หลังจากโชว์เสร็จ สื่อจากประเทศเพื่อนบ้านที่ชอบเคลมทุกอย่างของไทย ก็เดินเข้ามาต่อว่าผมทันทีว่า ทำไมไม่มีธงของประเทศเขา !!!??? เขาแสดงอาการไม่พอใจ และบอกว่านี่ถือเป็นการดูถูกไม่ให้เกียรติพวกเขา ???

ผมก็งงมาก เพราะสื่อจากประเทศอื่นที่ร่วมคณะก็ไม่มีใครต่อว่าอะไรเลย ทั้งๆที่ก็ไม่มีธงชาติของเขาเช่นกัน
ผมก็พยายามอธิบาย โดยให้ทาง ผจก.สวนสามพรานมาร่วมอธิบายด้วย โดยสรุปดังนี้

1.ธงที่ทางสวนสามพรานเตรียมให้นักแสดงโบกตอนท้ายนั้น ส่วนใหญ่เป็นธงของประเทศใหญ่ ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมาก ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติอะไรเลย

2.ผมอธิบายเสริมว่า สวนสามพรานเป็นสถานที่ของเอกชน มิใช่ของทางราชการ ผมเองก็ไม่เคยดูการแสดงนี้มาก่อนเช่นกัน

3.การที่ไม่ได้มีธงของประเทศสื่อที่ร้องเรียนนั้น มิได้เป็นการมิให้เกียรติอะไรเลย มันเป็นแค่การแสดงประกอบฉากในการโชว์เท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีธงของประเทศอื่นของสื่อที่ร่วมคณะเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครโวยวายหาเรื่อง !

ผมก็นึกว่าเขาคงเข้าใจและคงจบแล้ว แต่ที่ไหนได้ ปรากฏว่าเมื่อเขากลับไปยังประเทศเขา เขากลับเอาเรื่องนี้ขึ้นเขียนพาดหัวข่าวแบบหาเรื่องว่า ประเทศไทยเชิญเขามา แต่ไม่ให้เกียรติเขา โดยไม่มีธงของนักแสดงโบกต้อนรับ !!!!

ผมเองก็ยิ่ง งง หนักขึ้นไปอีก เพราะสื่อทุกประเทศยกเว้นสื่อจากประเทศที่ชอบเคลมนี้ ต่างพากันเขียนขอบคุณที่ทางการไทยเชิญพวกเขาไปเยือนประเทศไทย ต่างพากันเขียนบทความชื่นชมความสวยงามทางวัฒนธรรม และน้ำใจไมตรีที่คนไทยมีต่อพวกเขา
หมายเหตุ การเชิญสื่อต่างประเทศเยือนไทยในครั้งนั้น ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพออกค่าใช้จ่ายต่างๆไม่ว่า ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก อาหาร 3 มื้อ ให้หมด !!!

แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้จากสื่อประเทศที่ชอบเคลมของไทยนั้น นอกจากไม่เขียนแสดงความขอบคุณหรือชื่นชมที่ไทยเราเชิญเขามาร่วมงานแล้ว ตรงกันข้ามกลับเขียน ตำหนิ ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องด้วย ตอนนั้นบอกตรง ๆ ว่า ผมรู้สึกเสียดายเงินหลวงที่ใช้รับรองสื่อชาตินี้มาก !!!”

 

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, กำลังยืน และ ท้องฟ้า

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น