ศึกเลือกตั้งใหญ่ที่คาดว่าจะมีขึ้นไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้ สมรภูมิรบ กทม. เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ประกาศสู้เต็มอัตราศึก พรรคประชาธิปัตย์จะต้องกลับมาทวงศักดิ์ศรีคืน ขณะที่พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคก้าวไกล ก็ต้องรักษาพื้นที่ของตัวเองไว้ นอกจากนี้ยังมีพรรคใหม่สุดร้อนแรงอย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตั้งเป้าครองใจคนกรุง ยังไม่นับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าครั้งนี้จะต้องปักธงในกทม.ให้ได้ เพราะใช้พลังดูด ส.ส.จากพลังประชารัฐ และเพื่อไทยมาเสริมทัพ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ กทม.ได้แบ่งเขตใหม่ จากเดิม 30 เขตเลือกตั้ง เพิ่มเป็น 33 เขตเลือกตั้ง ซึ่งทุกพรรคได้วางตัวแม่ทัพกทม.ไว้แล้ว เรามาดูกันว่าแม่ทัพของแต่ละพรรค มีใครบ้าง
พรรคประชาธิปัตย์ นำทีมโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรครับผิดชอบพื้นที่กทม. นอกจากนี้ยังมี ‘มาดามเดียร์’ วทันยา บุนนาค ที่ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ และขึ้นลิฟต์เป็นว่าที่บัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ รับหน้าที่ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. รวมถึง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม.ของพรรค ที่ครั้งนี้ได้มาทำหน้าที่คุมทำกทม.ด้วย ในฐานะประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.
พรรคเพื่อไทย ‘แม่ทัพ’ คนสำคัญ คือ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด หรือ เจ๊แจ๋น เจ้าของฉายามาดามเมืองหลวง เจ๊แจ๋นถือเป็นสายตรงคนแดนไกล เพราะเจ๊แจ๋นเป็นมือขวาของเฮียเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และทั้ง 2 คน เคยได้รับมอบหมายจากคนแดนไกลให้ไปปลุกปั้นพรรคไทยรักษาชาติ แต่เมื่อไทยรักษาชาติถึงฆาต เจ๊แจ๋นก็ถูกส่งกลับมาคุมทัพเพื่อไทย และโชว์ฝีมือแรกในศึกเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขตหลักสี่ โดยสามารถทวงเก้าอี้ ส.ส.มาจากพรรคพลังประชารัฐได้สำเร็จ ต่อมาการเลือกตั้ง ส.ก. “เจ๊แจ๋น” ทำหน้าที่ ผอ.เลือกตั้ง ส.ก.ของพรรค ก่อนแสดงอิทธิฤทธิ์อีกครั้งด้วยการนำส.ก.เพื่อไทยเข้าป้าย 20 เขต จาก 50 เขต ดังนั้นครั้งนี้ต้องจับตาอย่างวไม่กระพริบว่ามาดามเมืองหลวงจะนำทัพเพื่อไทยแลนด์สไลด์ในเมืองหลวงได้หรือไม่