AFP รายงานว่านายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นได้ประกาศผ่านทางโทรทัศน์ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดยมีคำสั่งให้ยกเลิกมาตรการบังคับใส่หน้ากากอนามัยในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในอาคาร โดยมีผลตั้งแต่ 8 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับลดระดับความรุนแรงของโรคโควิดลงมาเทียบเท่ากับไข้หวัดใหญ่ จากสถานะปัจจุบันซึ่งรุนแรงเทียบเท่าวัณโรคและโรคซาร์ส โดยมีผลในวันเดียวกัน
คิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มต่อไปอีกระดับ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอยุ่ร่วมกับโควิด และจะทยอยผ่อนคลายลงไปเรื่อยๆจนกลับสู่ภาวะปกติ โดยประชาชนสามารถตัดสินใจเองว่าจะยังใส่แมสก์อยุ่หรือไม่ใส่ก็ได้
อย่างไรก็ตามโพลจากสื่อญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะยังคงใส่แมสก์ในที่สาธารณะ แม้รัฐบาลจะประกาศยกเลิกแล้วก็ตาม เนื่องจากคนญี่ปุ่นเคยชินกับการใส่แมสก์มาตั้งแต่ก่อนโควิดระบาด โดยเฉพาะเวลาที่เป็นหวัดก็จะใส่แมสก์ในที่สาธาณะ เพื่อป้องกันการกระจายของไวรัส แต่การลดระดับความรุนแรงของโควิดลงมาเทียบเท่าไข้หวัดใหญ่ก็หมายความว่าผู้ติดเชื้อโควิดหรือผู้สัมผัสใกล้ชิดจะไม่ต้องกักตัวเองอีกต่อไป
ส่วนเกาหลีใต้ก็เตรียมยกเลิกมาตรการบังคับใส่หน้ากากอนามัยในอาคารตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไปเช่นกัน