หลังจากรีๆรอๆดูท่าทีมานานว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ประกาศตัวสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มานานนับเดือนแล้ว และบรรดาแฟนคลับคอการเมืองก็กำลังลุ้นอยู่ว่าที่สุดแล้วบิ๊กตู่จะไปอยู่ตรงจุดไหนยังไงของรทสช. ล่าสุดวานนี้ระหว่างร่วมงานครบรอบก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ครบ ๒ ปี ทาง “ดร.สามสี” ไตรรงค์ สุวรรรณคีรี แกนนำอาวุโสรทสช.ก็ออกมาเปิดเผยว่านายกฯจะลงสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ ๑ ของรทสช.ตรงนี้ก็ไปสอดคล้องกับกระแสข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่าเมื่อวันอังคารที่ ๓๑ ม.ค.๒๕๖๖ ที่ผ่านมา หลังการประชุมครม.และจบภารกิจงานหลวงที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วเสร็จ บิ๊กตู่มีการเรียกแกนนำรทสช.มาคุยกันเรื่องของการเดินหน้าพรรค โดยเฉพาะการวางตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และคณะกรรมการบริหารพรรค
ล่าสุดก็มีข่าวหลุดออกมาแล้วว่าสรุปบิ๊กตู่จะนั่งในตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค หรือที่เคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าคือ “ซุปเปอร์บอร์ด” ของรทสช.ที่จะมีลักษณะการคุมอำนาจในพรรคแบบเบ็ดเสร็จเหมือนโปลิสบูโรที่เป็นสูตรสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก โดยในซุปเปอร์บอร์ดรทสช.จะมีอรหันต์ระดับ 12 คน ประกอบด้วยพล.อ.ประยุทธ์ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี วิทยา แก้วภราดัย สุชาติ ชมกลิ่น ชัชวาลล์ คงอุดม เสกสกล อัตถาวงศ์ ธนกร วังบุญคงชนะ อนุชา บูรพชัยศรี วิสุทธิ์ ธรรมเพชร โดยทั้งหมดจะทำหน้าที่กำกับพรรค ทำหน้าที่วางยุทธศาสตร์การบริหารจัดการพรรค เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคนำไปดำเนินการอีกที โดยการดำเนินการของกรรมการบริหารพรรคนั้นจะต้องผ่านความเห็นชอบของซุปเปอร์บอร์ด ๑๒ อรหันต์นี้ก่อนทุกครั้ง พูดง่ายๆรูปแบบที่รทสช.ตั้งซุปเปอร์ขึ้นมาก็คล้ายๆกับที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งครอบครัวเพื่อไทยขึ้นมา ให้ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เอา “เต้น” ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ มาเป็นผอ. เพื่อหลีกเลี่ยงหากเกิดกรณีฟ้องร้องหรือปัญหาข้อกฎหมาย แต่ก็จะเป็นยอดมงกุฏสูงสุดของการลุยเลือกตั้งในคราวนี้
พูดง่ายๆคือซุปเปอร์บอร์ดจะใหญ่กว่ากรรมการบริหารพรรค จะเป็นเหมือนร่มที่กางครอบกรรมการบริหารพรรคอีกที แต่ไฮไลต์ที่สำคัญกว่านั้นในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ อีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ บิ๊กตู่จะไม่ขาลอยจะไม่อยู่บนหิ้งจะไม่อยู่บนดาดฟ้าชั้น ๓ รอให้พรรครอให้ขอมาประเคนแน่นอน แต่บิ๊กตู่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ ๑ ของรทสช. ส่วนลำดับ ๒ เป็นพีระพันธุ์ อันดับ ๓ เป็นของเสี่ยขิง ส่วนแกนนำคนอื่นๆก็ลดหลั่นกันไปตามความเหมาะสม เห็นพล.อ.ประยุทธ์กระโดดลงมาลุยการเมืองแบบนี้ลงบัญชีรายชื่อเต็มตัว บรรดาเอฟซีแฟนคลับก็จะได้สบายใจ ก่อนหน้านี้ที่ฝ่ายตรงข้ามเคยหยิบมาโจมตีว่าบิ๊กตู่ขาลอยพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากกระบวนการประชาธิปไตยไม่ได้ลงแข่งไม่ได้มาจากเลือกตั้ง ข้อครหาปากหอยปากปูจากพวกผีเจาะปากแบบนี้ก็จะหมดไปในการเลือกตั้งคราวหน้าที่จะถึงนี้ เพราะเจ้าตัวขอจัดเองเต็มคาราเบล สมัครสมาชิกรทสช. เป็นแคนดิเดตนายกฯ ลุยหาเสียง ขึ้นเวทีปราศรัย ลงพื้นที่อ้อนขอคะแนนจากชาวบ้านด้วยตัวเอง
วัน ว. เวลา น. ในการเข้าคูหาเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามาทุกที เที่ยวนี้บิ๊กตู่เทหมดหน้าตักพาตัวเองลงการเมืองแบบเต็มสูบ ถึงขั้นแยกทางกับลุงป้อมเลือกอนาคตทางเดินของตัวเอง มาเป็นหัวให้รทสช.ขอโอกาสพาประเทศไทยไปต่อ ลงการเมืองมาคลุกวงในกับรทสช.เต็มตัวแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไม่ให้คนด่าว่าลอยมาจากฟ้า หรือรอเวลาอยู่บนหิ้งเหมือนการเลือกตั้งคราวที่แล้ว บิ๊กตู่ลุยการเมืองเต็มตัวเที่ยวนี้ เชื่อแน่ว่ากระแสของบิ๊กตู่คงทำให้รทสช. ฟองฟูขึ้นมาอย่างแน่นอน ๓๐-๔๐ ส.ส.น่าจะมีลุ้นได้ไม่อยาก ถ้ากระแสมาดีๆอาจทำให้บัญชีรายชื่อได้ส.ส.มาเป็นกอบเป็นกำ คนดีผีคุ้มอย่างพล.อ.ประยุทธ์ นายทหารใจซื่อมือสะอาดอย่างบิ๊กตู่ แม้จะมีจุดอ่อนมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ภาพรวมจุดแข็งข้อดีและหัวใจของความรักประชาชน รักชาติ รักสถาบัน อันนี้เป็นเกราะทองฝั่งเพชรสำคัญคุ้มกายบิ๊กตู่ให้พบกับความสำเร็จและผ่านมารผจญได้เรื่อยมาถึง ๘ ปี จากนี้ไม่รู้ว่าอนาคตของบิ๊กตู่จะไปจบตรงไหนจะไปอย่างไร เหลือเวลาเป็นนายกฯแค่ ๒ ปี บวกเศษที่รักษาการเต็มที่อีกไม่กี่เดือน จากนั้นก็ต้องยุติบทบาททางการเมืองวางมือตามกติกาสูงสุดตามหลักรัฐธรรมนูญที่เขียนกำหนดไว้หมดแล้ว ๒๘ ม.ค.ที่ผ่านมาไปเปิดตัวขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกที่อ.เมือง จ.ชุมพร ชาวบ้านมารอรับ ๑.๕ หมื่นคน ๑๘ ก.พ.นี้จะไปโคราชบ้านเกิดเปิดประตูอีสานหาเสียงกับชาวบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางเลือกตั้งงวดเข้ามาทุกที เดิมพันสุดท้ายของพล.อ.ประยุทธ์กับพรรคใหม่รทสช.บนเก้าอี้สร.๑ จะไปจบตรงไหนจะลงเอยแบบใด คนไทยทั้งประเทศเท่านั้นที่จะเป็นคนให้คำตอบ
///////////////