ถาวร เสนเนียม เปิดโปงขบวนการทักษิณ ทำทุจริตการบินไทยเจ๊งป่นปี้ รับเงินทอนไม่ต่ำกว่าพันล้าน ชี้ คนไทยต้องตรวจสอบพฤติกรรมนักการเมืองก่อนเลือกเข้าสภา
จากกรณีที่นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานพรรคไทยภักดี ได้ออกมาเผยผลตรวจสอบข้อเท็จจริงทุจริต ในการบริหารกิจการของบริษัท และปัญหาการทุจริต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เจ๊งยับเยิน หลังขาดทุนเรื้อรังเหตุซื้อเครื่องบิน A340-500 และ A340-600 จำนวน 10 ลำ
นายถาวร เผยกับผู้สื่อข่าวถึงปัญหาการทุจริตการบินไทย ว่า ผลประกอบการเริ่มขาดทุน ตั้งแต่ปี 2551-2562 ตนจึงให้ผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยทำแผนธุรกิจการบิน และแผนฟื้นฟูธุรกิจมาเสนอ ผู้บริหารงานการบินไทยทำแผนมาสองแบบ คือ แผนกู้เงิน 54,000 ล้านบาท ปรับโครงสร้างหนี้ และแผนที่สอง เพิ่มหุ้นกู้ในปลายปี 63 83,000 ล้านบาท ตนได้ทำการศึกษา ถึงความสมเหตุสมผลที่จะทำให้ธุรกิจฟื้นตัว แต่ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถที่จะตอบได้ว่าจะฟื้นฟูธุรกิจได้หรือไม่ รวมทั้งการบินไทยมีหนี้สะสม 50,000 ล้านบาท และที่สำคัญการส่อทุจริตพบเครื่องบิน A340-500 และ A340-600 จอดอยู่ที่อู่ตะเภา ต้องเสียทั้งค่าจอด ค่าดูแลรักษา และค่าประกัน ตนได้นำเอกสารทั้งหมดมาตรวจดู ผลปรากฎว่าเครื่องบินทั้งหมดซื้อในยุคของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปี 2545-2546
เหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตหรือไม่นั้น ตนได้ตั้งคณะทำงานที่มี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในขณะนั้น ได้มีการตัดสินว่า ผู้บริหารระดับสูงไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจ และไม่ใช่มืออาชีพ ส่วนใหญ่มาจากข้าราชการ ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของธุรกิจการบิน ตนจึงนำมืออาชีพเข้ามาทำงานแทน และให้เปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งมีกระทรวงการคลังที่ถือหุ้น 51% เอาหุ้นขายให้กับกองทุนทางราชการกระทรวงการคลัง และได้นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 22 พ.ค. 2563 มีมติเห็นด้วยให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารแทน
“การที่จะแก้ไขให้ธุรกิจการบินไทยกลับมาอยู่รอด จะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย นำเจ้าหนี้หรือบุคคลที่สั่งล้มละลายมาบริหารแผน และบริหารองค์กร อีกทั้งการตรวจสอบทุจริต มีเวลาตรวจสอบเพียง 43 วัน ดังนั้น รัฐมนตรี หรือข้าราชการ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งย่ามหรือตรวจสอบ และบุคคล 33 คน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตรวจสอบ นักกฏหมาย และบริหารธุรกิจการบิน รวมทั้งบัญชีและการเงิน พบว่ามีการส่อทุจริตประมาณ 100,000 ล้านบาท จากการซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และ A340-600 ที่ซื้อในยุคทักษิณ โดยไม่ฟังคำทักท้วงของสภาพัฒน์ฯ ไม่เดินตามแนวของมติคณะรัฐมนตรี ซื้อเพื่อค่าคอมมิชชั่น 2000 กว่าล้าน ซื้อเครื่องยนต์ 4,000 ล้านบาท ส่วนเอกสารการตรวจสอบ ตนได้ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะซูเปอร์บอร์ดการบินไทย และ ปปช. ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาแจ้งข้อกล่าวหาอีก 4 คน”
นายถาวร เผยต่อว่า หลังจากที่การบินไทย ได้เปลี่ยนเป็นมหาชน ปี 2564 มีกำไรเพิ่มขึ้น 20,000 ล้านบาท รวมทั้งลดขนาดองค์กร และควบคุมการใช้งบตามแผนฟื้นฟู การบินไทยบินไปไหนธงชาติจะต้องติดที่เครื่องบิน เพราะการบินไทยคือสายการบินแห่งชาติ นี่คือการตัดสินใจของตนในการนำบริษัทการบินไทยเข้าสู่แผนฟื้นฟูการล้มละลาย