เชลล์ บริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของประเทศอังกฤษ ประกาศผลกำไรประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท)ในปี 2022
โดยบริษัทระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าสถิติเดิมที่เคยทำไว้ได้ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2008 และคิดเป็นกำไร มากกว่าสองเท่าของปี 2021 ที่ทำได้ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 4 บริษัทยังสามารถทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของรายได้จากการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว
บริษัทยังกล่าวอีกว่า จะมีค่าใช้จ่ายทางบัญชีประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อจ่ายภาษีลาภลอยในปี 2022 และบริษัทจะจ่ายภาษีด้วยเงินสดเป็นจำนวน 500 ล้านดอลลาร์ในอังกฤษในปีนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานผลประกอบการดังกล่าว จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้มีการเรียกเก็บภาษีผลกำไร จากบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ต่างๆ เนื่องจากผู้บริโภคต้องต่อสู้กับวิกฤตค่าครองชีพที่เลวร้ายลง โดย พอล โนแวก เลขาธิการสภาสหภาพแรงงาน TUC กล่าวประณามผลกำไรของเชลล์ และเน้นว่า ควรเพิ่มภาษีลาภลอย ในขณะที่ครัวเรือนต้องดิ้นรนกับภาระค่าใช้จ่ายและหาเลี้ยงชีพ เชลล์กำลังเพลิดเพลินไปกับกำไรก้อนโต แทนที่จะระงับขึ้นค่าจ้าง แพทย์ ครู นักดับเพลิง และข้าราชการหลายล้านคน รัฐมนตรีควรให้บริษัทพลังงาน จ่ายส่วนแบ่งที่ยุติธรรม
ทั้งนี้เชลล์เป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ล่าสุดที่ประกาศผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อวันอังคาร เอ็กซอนโมบิล บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลกำไร 5 .6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022 ซึ่งทำสถิติสูงสุดสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันตะวันตก ส่วน เชฟรอน ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐอีกราย ก็มีกำไรสูงสุดที่ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้วเช่นกัน