หลังจากมีข่าวหลุดรอดออกมาว่ากลุ่มสามมิตร หนึ่งในแกนนำสำคัญในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ประกอบด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอาจถึงคราวต้องแยกจากกัน ภายหลังอนุชาที่ปกติไม่ค่อยออกมาพูดปมประเด็นการเมืองออกมาแบไต๋ว่าอาจถึงเวลาสำคัญที่ต้องตัดสินใจสำคัญทางการเมือง หลังเดินมาถึงสุดทางแยกของสามมิตร โดยมีแนวโน้มสูงยิ่งว่าจะอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมที่ไปอยู่กับรทสช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อนุชาให้ข่าววันก่อนขอเวลาอีกนิดจะตัดสินใจเรื่องนี้หลังสภาปิด ๒๘ ก.พ.๒๕๖๖
ให้ข่าวยังไม่ทันข่าววันล่าสุดวานนี้ ๒ ก.พ.๒๕๖๖ เสี่ยแฮงค์ก็ออกมาเปิดใจว่าตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายพรรคไปอยู่กับนายกฯ ณ ซอยอารีย์ ๕ ที่ทำการของรทสช. พร้อมย้ำสายสัมพันธุ์ของพี่น้องสามมิตรยังแนบแน่นเหมือนเดิม ” ผมได้ทำงานร่วมกับท่านนายกฯ มามากก็มีความสุข ได้เห็นการทำงานของท่านที่เป็นคนตั้งใจทำงานจริงจัง ทุ่มเท ส่วนใครจะเห็นจะมองจะพูดถึงท่านอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ผมคิดว่าท่านนายกฯมีความจริงใจ และทุ่มเททำงานให้บ้านเมืองมากๆ” อนุชาเปิดใจเหตุผลไขก๊อกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมระบุความประทับใจแม้รู้จักและทำงานกับบิ๊กตู่แค่ช่วงสั้นๆแต่ก็ประทับใจในความเป็นคนมุ่งมั่นจริงใจของนายกฯเป็นอย่างมาก ส่วนอนาคตสามมิตรของสุริยะกับสมศักดิ์นั้น เสี่ยแฮงค์บอกว่ามีแนวโน้มจะอยู่กับพปชร.ต่อ ทั้งนี้มันใจว่าทั้ง ๒ คนจะเข้าใจการตัดสินใจของตัวเองในคราวนี้ ” ยังไม่ได้พูดคุย และต่อไปอาจจะไม่ได้คุยกันลึกเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะเป็นบริบททางการเมือง รักษาความเป็นพี่เป็นน้องยังรักกันมั่นคงเหมือนเดิม” เสี่ยแฮงค์ระบุ ย้อนอดีตเส้นทางสามมิตรก่อนหน้านี้ ช่วงปี ๒๕๖๑ พล.อ.ประยุทธ์มีความคิดจะไปต่อทางการเมืองหลังครบวาระนายกฯสมัยแรกในปี ๒๕๖๒ ตอนนั้นบิ๊กตู่ไม่รู้จะปรึกษาใครไม่รู้จะคุยกับฝ่ายไหนเพราะไม่รู้จักนักการเมืองเท่าไหร่ แถมตัวเองก็ได้อำนาจมาจากรัฐประหาร เลยทำให้บรรดานักการเมืองเข็ดขยาดหวาดกลัวไม่อยากเข้ามาทำงานด้วย ช่วงนั้นบิ๊กตู่ก็ได้ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจในช่วงรัฐบาลประยุทธ์เทอม ๑ เป็นเพื่อนคู่คิด เฮียกวงรับปากว่าจะไปหาแนวทางในการตั้งพรรครองรับให้หากบิ๊กตู่จะเล่นการเมืองต่อ ตอนนั้นสมคิดเหลียวหน้าแลหลังเพื่อนฝูงในแวดวงการเมืองก็มีแต่สุริยะกับสมศักดิ์นี้แหละที่พอจะคุยกันเรื่องนี้ได้ ที่สุดก็เลยชวนสองคนมาตั้งพปชร.เพื่อหนุนบิ๊กตู่เป็นนายกฯ “สามมิตร สามส.” จึงมีที่มาแต่เริ่มประกอบด้วย ” สมคิด สุริยะ สมศักดิ์” แต่การทำงานการเมืองจริงๆแยกออกจากกันเป็นคนละวง ฝ่ายอ.สมคิดมี ๔ กุมาร “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์” ฝ่ายสุริยะ สมศักดิ์ ก็มีอนุชาเป็นน้องเล็ก และมีเด็กสร้างในคาถาอย่าง “เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ ที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีข้างกายบิ๊กตู่นี้แหละ อยู่ก๊วนเดียวกัน ที่มาของก๊วนสามมิตรจึงอุบัติด้วยประการละฉะนี้
ความจริงก่อนหน้านี้ทางธนกรที่ไปอยู่รทสช.กับบิ๊กตู่ก็กวักมือเรียกสามมิตรมาตลอด แต่คนที่ออกมาพูดเรื่องนี้บ่อยสุดบ่ายเบี่ยงไปมาก็คือสมศักดิ์นั้นแหละ เพราะแทงกั๊กมาตลอด ไม่ชัดว่าจะไปอยู่ข้างไหนไปต่อกับพปชร.หรือย้ายพรรคไปกับรทสช. วันนี้น้องเล็กอนุชาออกตัวชัดแล้วว่าไปรทสช.ด้านหนึ่งเพราะชื่นชมชื่นชอบบิ๊กตู่ อีกด้านหนึ่งประเมินแล้วอยู่พปชร.มีแต่สาละวันเตี้ยลงไม่มีอนาคต ก๊วนสามมิตรกำลังโรยลาขาลง แต่ขั้วตรงข้ามฝ่าย “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลุ่มเศรษฐกิจไทยกำลังคัมแบ๊กกลับมาพปชร.แบบเฟื่องฟู อนุชากับร.อ.ธรรมนัสเคยฟัดกัน คราวก่อนก็เป็นผู้กองนี้แหละที่ใช้ก๊วน ๔ ช. ประกอบด้วยรมช. ๔ คนคือ “ธรรมนัส-นฤมล-อธิรัฐ-สันติ” แผ่บารมีในพรรคบีบให้อนุชาต้องลาออกจากเลขาฯพรรคก่อนที่ผู้กองจะหยิบชิ้นปลามันผงาดขึ้นเป็นเลขาฯ
อนุชาไปรทสช.ชัดแล้ว ฝ่ายสมศักดิ์ที่บอกว่าจะอยู่พปชร.ต่อไป จับสัญญาณดีๆว่าน้ำเสียงหนักแน่นไหม เพราะล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์หลั่งน้ำตากรณี “ตะวัน-แบม” อดอาหารประท้วงให้แก้กฎหมายม.๑๑๒-๑๑๖ จับอาการสมศักดิ์เปลี่ยนไป๋ เหมือนกำลังเล่นละครฉากใหญ่เอาใจใครบางคนอยู่ ล่าสุดมีข่าวซุปซิปลอยลมออกมาว่าสมศักดิ์ไปเตาะเด็กปชป.ที่เป็นผู้สมัครจ.นครสวรรค์คนนึง ทั้งๆที่เข้าไปเปิดตัวจะลงเลือกตั้งในนามพรรคสีฟ้าแล้ว แต่สมศักดิ์ก็ยังไปวอแวอีก แว่วว่ามีการไปดีลว่าจะเอาผู้สมัครปชป.คนนี้ไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย มีการคุยในทางลับกับทาง “เจ๊ ด.” ที่เป็นเจ้าแม่ขาใหญ่ในพท.ไว้แล้ว เท็จจริงไม่รู้แต่ในวงการเขาพูดกันว่าพี่ใหญ่สามมิตรจัดการหาคนป้อนพท.ไว้สู้ศึกเลือกตั้งคราวหน้า หวังทำผลงานให้เข้าตานายใหญ่สร้างโอกาสปูทางให้กลับบ้านเก่าได้ง่ายๆ พร้อมฝากประโยคสุดคลาสสิคให้พรรคพวกที่ไปพท.ก่อนหน้านี้ “พวกเอ็งไปก่อน เดี๋ยวพี่จะตามไปนาทีสุดท้าย” เท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไรใครอยากรู้ก็ไปสืบเสาะดู อนุชาไปรทสช. สมศักดิ์มีข่าวรีเทิร์นกลับไปกลับทักษิณ ขณะที่พี่ใหญ่สามมิตรอย่างสุริยะดูทรงแล้วน่าจะเป็นคนที่มีโอกาสอยู่ต่อกับพปชร.แทนคุณลุงป้อมต่อไปมากที่สุด ล่าสุดยิ่งชัดหลังป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบของ “ทักษิณ -พิเชษฐ-ทนง -กนก” กรณีจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ ๓๔๐-๕๐๐ และ เอ ๓๔๐-๖๐๐ จำนวน ๑๐ ลำ ทำให้การบินไทยเสียหายขาดทุนย่อยยับ แต่ป.ป.ช.กลับไม่ชี้มูลสุริยะโดยอ้างว่าตอนนั้นสุริยะเป็น ” ราชรถ ๑” ก็จริงแต่ไม่ได้กำกับดูแลสายการบินเจ้าจำปี เป็นพิเชษฐต่างหากที่เป็นคนรับผิดชอบเลยยกประโยชน์ให้สุริยะไป งานนี้อย่างที่รู้ๆป.ป.ช.มี “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. (นรต.๒๙)กุมบังเหียนอยู่แถมเป็นเด็กในคาถาของลุงป้อม และเป็นน้องรักของ “บิ๊กป็อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. (นรต.๒๕) ไม่แปลกที่การหลุดคดีของสุริยะจะถูกมองว่าเป็นการซื้อใจจากลุงป้อมต่อตัวหี่ใหญ่สามมิตรเพื่อให้อยู่กับพรรคต่อไปในการเลือกตั้งคราวหน้า จับตาสามมิตรถึงวันอวสาน ๓ คนถึงทางแยกของตัวเอง “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” จะแยกกันเดินไปอยู่กับ ๓ พรรคที่ว่าหรือไม่
////////////////