นทท.จีน โพสต์แฉ “บริษัททัวร์ไทย” ไม่พาเที่ยว เบี้ยวคืนเงินมัดจำ แถมยังถูกถีบ ไล่ทำร้าย

นทท.จีน โพสต์แฉ "บริษัททัวร์ไทย" ไม่พาเที่ยว เบี้ยวคืนเงินมัดจำ แถมยังถูกถีบ ไล่ทำร้าย

ฉาวอีกจนได้ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอลงใน TikTok เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะถูกหญิงไทยรายหนึ่งใช้เท้าถีบ พร้อมด่าเป็นภาษาไทย ก่อนใช้มีดขนาดเล็กฟันเข้าที่แขนจนเป็นแผล พร้อมเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อครอบครัวของตนเดินทางจากเมืองหางโจว ประเทศจีน ไปท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต โดยวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปซื้อแพคเกจทัวร์ไปเที่ยวเกาะสิมิลัน แบบ 1 วัน ในราคา 9,000 บาทกับบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมที่พัก โดยมีกำหนดการออกเดินทางในวัน 31 ม.ค. ซึ่งชำระเงินมัดจำไป 5,000 บาท แต่เมื่อถึงวันเดินทาง บริษัททัวร์ไม่มารับ ก่อนแจ้งว่านักท่องเที่ยวไปผิดโรงแรม ทั้งๆ ที่ได้นัดหมายก่อนเดินทางล่วงหน้า จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กะรน เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับริษัททัวร์ดังกล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนจึงเดินทางไปที่บริษัทนำเที่ยวดังกล่าว พบ น.ส.วิริย์ ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทนำเที่ยวดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา นายฟาง ลีชาว นักท่องเที่ยวพร้อมภรรยาและลูก มาซื้อทัวร์เพื่อไปท่องเที่ยวหมู่กาะสิมิลัน ในวันที่ 31 ม.ค.66 รวมเป็นเงิน 9,000 บาท โดยนักท่องเที่ยวชำระไว้ก่อน 5,000 บาท โดยนัดหมายให้บริษัทไปรับที่โรงแรมประมุขโก จากนั้นนักท่องเที่ยวแจ้งว่าได้ย้ายไปอยู่โรงแรมที่ชนาลัย ฟลอร่า ตนจึงได้แจ้งให้คนขับรถไปรับนักท่องเที่ยวที่โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า

กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 31 ม.ค. นักท่องเที่ยวโทรมาหาแล้วบอกว่านั่งรออยู่ที่ลอบบี้ของโรงแรม ซึ่งตนเข้าใจว่านักท่องเที่ยวรออยู่ที่โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า จึงแจ้งให้คนขับรถไปรับ เมื่อไปถึงก็ไม่พบนักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากการผิดพลาดด้านการสื่อสาร ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน นักท่องเที่ยวมาติดต่อขอรับเงินคืน ตนจึงประสานตำรวจท่องเที่ยวให้มาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยที่ สภ.กะรน ซึ่งผลการพูดคุยไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะนักท่องเที่ยวจะขอรับเงินคืนเต็มจำนวน คือ 5,000 บาท ซึ่งไม่สามารถคืนให้ได้เต็มจำนวน เพราะได้ชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานล่วงหน้าไปแล้วเป็นเงิน 1,600 บาท จึงเสนอขอชดใช้เงินคืน 3,400 บาท แต่นักท่องเที่ยวไม่ยินยอมรับ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายมาตกลงกันอีกครั้ง

ต่อมาวันที่ 1 ม.ค.66 ขณะที่ตนกำลังทำงสนอยู่ในสำนักงาน นักท่องเที่ยวได้มาทวงถามขอคืนจำนวน 5,000 บาท โดยใช้อารมณ์รุนแรง ตนจึงยืนยันว่าสามารถชำระเงินคืนได้เพียง 3,400 บาท ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่พอใจใช้มือทุบกระจกสำนักงาน แล้วตรงเข้าชกต่อยตนที่บริเวณใบหน้าและลำตัว ตนจึงใช้เท้าถีบต่อสู้แล้วใช้มีดเล็กซึ่งอยู่ในสำนักงานฟันออกไปเพื่อป้องกันตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นักท่องเที่ยวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพซึ่งไปปรากฎอยู่ในโลกโซเชียล จากนั้นตนและคู่กรณีพากันมาที่ สภ.กะรน โดยนักท่องเที่ยวแจ้งความจับตนในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย และพกพาอาวุธมีด ซึ่งตนรับสารภาพโดยอ้างว่าที่ทำลงไปก็เพื่อป้องกันตัว

พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผู้กำกับการ สภ.กะรน กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นไม่มีล่ามจึงใช้กูเกิ้ลทราน สเลท ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้าใจ พร้อมส่งตัวไปตรวจบาดแผล ซึ่งขณะนี้นักท่องเที่ยวกลับไปประเทศจีนแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากแพทย์จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดได้

พ.ต.อ.คุณเดช บอกอีกว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา น.ส.วิริย์ ฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย และพกพาอาวุธมีด ส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น คงต้องรอผลการตรวจบาดแผลของนักท่องเที่ยวชาวจีนก่อนว่าเป็นอย่างไร และจะนำตัว น.ส.วิริย์ ส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.66)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ดร.เสรี” เตือนพื้นที่เสี่ยงฝนหนักจาก "พายุซูริก" วันที่ 21-23 ก.ย.นี้
"ถุงยังชีพ" จากธารน้ำใจแฟนข่าว "ท็อปนิวส์" ถึงหนองคายแล้ว "มูลนิธิยังมีเรา" เตรียมลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ 4 หมู่บ้าน อ.โพนพิสัย
จับแล้ว "ยอด หมอลำซิ่ง" นกต่อลวงฆ่า "พ่อลูกนายฮ้อย" ล้างหนี้ ก่อเหตุสุดเหี้ยม ตร.ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ
สารวัตรมือปราบมาเฟียต่างชาติ นำทีมบุกรวบโอปป้าทรงเอ คาห้องพักกลางเมืองพัทยา
นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ปลื้มขอบคุณรัฐบาลหลังขยายเวลาขึ้นทะเบียนคนพิการ
กรมอุตุฯ เตือนพายุโซนร้อน "ซูลิก" เข้าไทย "เหนือ-อีสาน" เตรียมรับมือฝนตกหนัก
ตำรวจ บุกจับแก๊ง "เมียนมา" ข้ามช่องทางธรรมชาติ มาขี่รถพ่วงข้าง ขายไอติมยี่ห้อดัง
อ่วมหนัก ฝนถล่ม อ.ปง จ.พะเยา ทำต้นไม้หักโค่นทับเสาไฟฟ้า ทำไฟดับทั้งอำเภอ
ทัพฟ้าดีเดย์ "416 Back to School" ลุยฟื้นฟูโรงเรียนที่เชียงราย หลังเจอวิกฤตน้ำท่วม ให้กลับมาปกติเร็วที่สุด
"ยาย-น้า" เปิดใจทั้งน้ำตา ปมครูเบญสอบติดได้อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ด้านคนในหมู่บ้าน เริ่มไม่มั่นใจระบบราชการ หวั่นเกิดซ้ำรอย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น