ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงครามได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพร้อมนางเสาวลักษณ์ บุญท้วม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม และใกล้เคียง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม นำรถดับเพลิงรวม 5 คัน เข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียว 2 หลังที่อยู่ติดกัน โดยเพลิงได้โหมไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากภายในบ้านเก็บเศษกระดาษพลาสติกและของเก่าไว้จำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื่อเพลงอย่างดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไวได้ทำให้บ้านได้รับความเสียหาย 2 หลัง โดยมีนางสาวน้อย อายุ 52 ปี เจ้าของบ้าน และเด็กหญิงจินดาพร บุตรสาว อายุ 9 ปี นั่งร้องไห้ เป็นห่วงนายพิศิษฐ์ อายุ 55 ปี สามีสุดที่รัก
นางสาวน้อย กล่าวว่า บ้านหลังนี้ตนและลูกสาวอาศัยกัน 3 คน ยึดอาชีพเก็บของเก่ามาขายประทั่งชีวิต แต่มาระยะหลังสามีมีอาการหึงหวง หาว่าตนมีชู้จึงหาเรื่องทะเลาะลงมือกับตนทุกวัน ตนเคยอธิบายไปแล้วว่ารักสามีคนเดียว แต่สามีก็ไม่เชื่อทำร้ายตนตลอดมา ระยะหลังตนจึงออกมาอาศัยอยู่บ้านเพื่อนบ้านและแวะเวียนเอาอาหารไปให้สามีทุกวัน ซึ่งสามีเคยประชดบอกจะผูกคอตายตนก็ห้ามปรามไว้ รวมทั้งยังเคยเอาน้ำมันมาราดพื้นและจะจุดไฟเผาบ้าน ตนก็ใช้เท้าเตะไฟแช็คทิ้งไป ซึ่งตนก็โดนทำร้ายอีก ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ตนก็เอาอาหารไปให้สามีตามปกติ แต่สามีงอนบอกว่าไม่กินและยังทำร้ายตนอีก เมื่อช่วงสายวันนี้ตนจึงให้ลูกสาวเอาอาหารไปให้จู่ๆลูกสาวก็วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าพ่อจุดไปเผาบ้าน ตนและลูกสาวตกใจมากเป็นห่วงสามีว่าจะเป็นอันตรายไหม เพราะสามีตนจะทำยังไงก็แล้วแต่ตนก็ยังรัก ครั้งนี้ตนอยากให้พาสามีไปบำบัดรักษา เพราะก่อนหน้านี้สามีเคยเสพยาบ้าจนมีอาการคลั่งแต่มาระยะหลังไม่มีเงินซื้อจึงไมได้เสพ กระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้ ตนขอให้นำสามีใบบำบัดรักษาสงบสติอารมณ์ แต่ขอให้เอาไปเลยอย่าให้ตนเห็นตอนที่พาขึ้นรถไปใจมันเศร้า
ด้านนายพิศิษฐ์ สามี ผู้ก่อเหตุซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อยยังพูดจาวกวนบอกว่า เมื่อคืนเมียไม่กลับบ้านทั้งคืน ถ้ารักกันจริงก็ต้องกลับมาหา เมียไม่กลับมาหากันเลย ก่อนเกิดเหตุดื่นสุราไปครึ่งกั๊ก และใช้ไฟแช็คจุดเทียนไว้เพื่อหาใบจากมาสูบ พอดูดเสร็จก็เข้าไปนอนในห้อง ลืมดับเทียนจึงทำให้ไปไหม้ ตนยืนยันว่าไม่เคยราดน้ำมันขู่เมียจุดไฟเผาบ้านหลอก บ้านของตนใครจะเผาบ้านตัวเอง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผัวเมียคู่นี้ อยู่กินกันมานานหลายปี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่เกิดมีปากเสียงกันเพราะเรื่องหึงหวง ฝ่ายภรรยาจึงต้องหนีออกมาอาศัยกับเพื่อนบ้าน และแวะเวียนไปหาสามีทุกวัน แต่ก็ถูกทำร้ายอีก ส่วนเด็กหญิงจินดาพร ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 เป็นห่วงพ่อแม่ทะเลาะกันจึงไม่ยอมไปเรียนหนังสือ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นัดให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้ในวันพรุ่งนี้(6 กุมภาพันธ์ 2566) แต่มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน ซึ่งนางเสาวลักษณ์ บุญท้วม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกว่าจะช่วยเหลือครอบครัวนี้อย่างไร
อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนความเสียหายยังประเมินไม่ได้
นพพร บุญทนาวงศ์ จ. สมุทรสงคราม