เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 6 ก.พ. 2566 ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ “วัดป้อมแก้ว” ตลาดแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม, นายอรรถพันธ์ุ สงวนเสริมศรี นายอำเภอเมืองสมุทรสงคราม, พ.ต.อ.ศยาม อินทรสุวรรณโณ ผกก.เมืองสมุทรสงคราม นายสมชาย ตันประเสริฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม และสถานที่ต่างๆ รวมกว่า 4 คัน
ในที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้กุฏิหลังใหญ่ที่ปลูกสร้างด้วยไม้สัก อายุเกือบ 100 ปีรวม 5 หลัง โดยต้นเพลิงเกิดจากกุฏิหลังเก่าห้องที่ 4 ที่ใช้เก็บของที่ไม่ได้ใช้เช่น หนังสือ, จีวร, สังฆทาน, กระป๋องสี และอุปกรณ์ทาสี ซึ่งไม่มีพระจำวัดอยู่ประจำ โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นกุฏิไม้สัก และของเก่าดังกล่าว ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพิงไว้ได้ แต่เพลิงก็เผากุฏิวอดหมดทั้ง 5 หลัง อย่างไรก็ตามมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสำลักควัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
พระไพบูลย์ พระลูกวัดป้อมแก้ว เล่าว่า ขณะที่อาตมานั่งอยู่ในกุฏิห้องที่ 3 จู่ๆได้ยินเสียงระเบิดคล้ายไฟซ็อตดังมาจากในกุฏิหลังที่ 4 ก่อนจะมีเปลวไฟและควันไฟสีดำพวยพุ่งออกมา จากนั้นมีเสียงระเบิดดังตามมาหลายครั้ง เป็นระยะๆ และไฟได้ลุกลามไปติดกุฏิที่อยู่ติดกัน
ส่วนพระยอดรัก พระลูกวัดป้อมแก้ว ซึ่งถือบาตรพระติดมีมา เล่าด้วยท่าทางตื่นตระหนกว่า อาตมาอยู่ห้องที่ 5 ก่อนเกิดเหตุอาตมาอยู่นอกห้องได้ยินเสียงดังจึงรีบเข้ามาดูก็พบว่ากุฎิถูกไฟไหม้วอดทั้งหมด
จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตุคาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจาก กุฎิดังกล่าวเป็นไม้สักเก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี มีห้องติดกัน 5 ห้อง ห้องที่ 1 และ 4 ไม่มีพระจำวัด จึงนำของเก่าที่ไม่ได้ใช้นำไปเก็บไว้ สายไฟฟ้าที่เก่าอาจจะลัดวงจรทำให้เกิดเพลิงไหม้ก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนมูลค่าคาดความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
นพพร บุญทนาวงศ์ จ. สมุทรสงคราม