วันที่ 7 ก.พ. 66 รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงข่าวโพล “ทัศนะและพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงวันวาเลนไทน์ ” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,255 ราย ทั่วประเทศ พบว่า จำนวนคนที่จะฉลองในเทศกาลวาเลนไทน์และไม่ฉลอง มีสัดส่วนไม่แตกต่างกันมากนัก โดยจะไม่ฉลอง 50.8% และฉลอง 49.2% และปีนี้คนส่วนใหญ่ จะไปฉลองวาเลนไทน์กับคนรัก คิดเป็นร้อยละ 63.7 ส่วนใหญ่จะไปห้างสรรพสินค้า เป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นคาเฟ่ และร้านอาหาร ส่วนครอบครัวจะฉลองกันที่บ้าน และห้างสรรพสินค้า
ผลสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างอยากมอบความรักให้กับคนรัก เป็นอันดับแรกร้อยละ 40.1 รองลงมาเป็นเพื่อน ร้อยละ 20.1 พ่อแม่ ร้อยละ 17.5 และ พี่น้อง ร้อยละ 9.9 ส่วนการเลือกซื้อของขวัญในวันวาเลนไทน์ จะเน้นความชอบของผู้รับ ความสะดวก และประโยชน์
ส่วนทัศนคติต่อคำพูดที่ว่า “การมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน เป็นเรื่องปกติสำหรับคนในปัจจุบัน” ผลสำรวจโดยรวมร้อยละ 42.1 มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่ร้อยละ 39.4 แล้วแต่มุมมอง และร้อยละ 18.5 มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ
รศ.ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า ช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้ ถือว่าคึกคัก จากประชาชนเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอย โดยกลุ่มที่มีการใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ GEN Z หรือช่วงอายุ 13-23 ปี โดยคาดว่า การใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ ปีนี้ มีเงินสะพัด 2,389.31 ล้านบาท ขยายตัว 15.5% ดีกว่าปีที่ผ่านมา และเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 ปี หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,847.60 บาทต่อคน ดีที่สุดในรอบ 4 ปี ทั้งนี้ ยังไม่รวมชาวต่างชาติที่คาดว่าจะเข้ามาฉลองและมีการใช้จ่ายในช่วงวาเลนไทน์