ไปติดตามความคืบหน้ากรณี น.ส.กนกวรรณ เรืองฤทธิ์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสตรีปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 3 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถูกมิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชีภายในวันเดียวถึง 14 ครั้ง ส่งผลให้เงินในบัญชีสูญหายไปกว่า 5 แสนบาท โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2565 หลังเกิดเหตุผู้ปกครองพร้อม น.ส.กนกวรรณ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากพนัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่คดีไม่มีความคืบหน้าจึง ต้องมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน
ญาติเผยพิรุธ จี้ธนาคาร แจงปมเงินเด็ก ม.4 หายปริศนากว่า 5 แสนบาท
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดวันนี้ (7 ก.พ.66) มีรายงานว่า น.ส.กนกวรรณ พร้อม นายปรีชา ซ้ายอ่อน อายุ 33 ปี น้าชาย และญาติๆ เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และ พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ หลังเข้าใปปากคำ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น.ส.วราภรณ์ วิชาเหล็ก เจ้าของบัญชีปลายทางรับโอนเงิน มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.น่าน มีคดีติดตัวลักษณะเดียวกันหลายคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จะสอบปากคำผู้เสียหายและญาติเพิ่มเติม พร้อมนำโทรศัพท์ผู้เสียหายเข้าห้องแล็ปเพื่อสืบหาวิธีการที่มิจฉาชีพใช้ดูดเงินอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายปรีชา น้าชายผู้เสียหาย ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ว่า หลังเกิดเหตุตนและภรรยาพยายามหาข้อมูลชื่อบัญชีปลายทาง “น.ส.วราภรณ์ วิชาเหล็ก “ พบว่าเป็นนักเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ จึงแชทสอบถาม น.ส.วราภรณ์ เรื่องบัญชีดังกล่าว ซึ่ง น.ส.วราภรณ์ ให้การยอมรับว่าได้รับจ้างเปิดให้กับผู้ว่าจ้างรายหนึ่ง โดยได้ค่าจ้าง 600 บาท และไม่ทราบเรื่องบัญชีถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด จึงมอบข้อมูลให้กับพนักงานสอบสวนไปแล้ว และตอนนี้ยังไม้ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง เจ้าของคดี
นายปรีชา กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า สถานที่โอนเงินอยู่ในกรุงเทพมหานคร และ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นการใช้โทรศัพท์ยี่ห้ออ็อปโป้ และเป็นที่น่าสงสัย คือ ปกติบัญชีหลานสาวตั้งการโอนเงินไม่เกินวันละ 100,000 บาท แต่พบว่ามีการเปลี่ยนยอดเป็นวันละ 200,000 บาท ซึ่งคนที่เปลี่ยนข้อมูลจะต้องมีรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของหลานสาว ซึ่งจะมีแต่ธนาคารเท่านั้นที่รู้ข้อมูล
ทั้งนี้ตนสงสัยพนักงานธนาคารระดับผู้บริหารสาขาปากพนังท่านหนึ่ง ซึ่งที่เป็นคนจัดการเรื่องเปิดบัญชี และการรับโอนเงินจากบริษัทประกันกว่า 2.9 ล้านบาทกรณีพ่อและแม่ของหลานสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ธนาคารต้องออกมาชี้แจง แต่ที่ผ่านมาตนไปตามความคืบหน้าที่ธนาคารหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้พบผู้จัดการธนาคารสาขาปากพนัง เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง