กลายเป็นกระเด็นร้อนในช่วงนี้ไปเลย สำหรับการเปิดประเด็นของทหายวันชัย สอนสิริ ส.ว. ที่ออกมาระบุชื่อบุคคลปริศนา ตัวย่อ ส. ร่างใหญ่ที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) และเป็นตัวจริงที่ไม่ใช่ตัวหลอกแบบ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องของพ่อแม้วคอกเพื่อไทย หรือ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอสแสนสิริ ที่ ๒ คนที่ว่าล้วนเป็นเป้าหลอกทางการเมืองของโทนี่นักโทษหนีคดีแดนไกลทั้งนั้น แต่ตัวจริงเสียงจริงที่ทักษิณวางตัวให้เป็นนายกฯคนใหม่ของพท. ทางจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานนปช.คนรักเก่าของทักษิณ เฉลยออกมาแล้วว่า ส. ร่างใหญ่ที่ว่าก็คือ “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” อดีตรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศยุคทักษิณ
เรียกว่าเซอไพรซ์พอสมควรสำหรับชื่อนี้ เพราะสุรเกียรติ์ไม่เคยอยู่ในสารบบรายชื่อที่มีข่าวว่าจะเป็น “ว่าที่นายกฯ”ของพท.เลย แต่จู่ๆก็มีชื่อออกมาแบบช็อควงการ แต่เอาจริงๆชื่อของสุรเกียรติ์ก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคยเป็นคนที่สนิทสนมกับทักษิณอยู่แล้ว เพราะ ๒ สมัยของการเป็นนายกฯของโทนี่ก็มีสุรเกียรติ์เป็นรมว.ต่างประเทศในเทอมแรกก่อนสลับขึ้นเป็นรองนายกฯในเทอม ๒ แม้ช่วงสุดท้ายของการพ้นจากอำนาจ ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙ สุรเกียรติ์ก็ยังอยู่กับทักษิณที่อเมริกาในระหว่างไปประชุมยูเอ็น เรียกว่าเป็นรัฐมนตรีที่ทักษิณให้ความไว้วางใจเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกหากรอบนี้ทักษิณจะให้โอกาสสุรเกียรติ์ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองและชี้ชะตาอนาคตตัวเองว่าจะได้กลับอย่างเท่ห์ๆหรือไม่ อย่างที่รู้ว่าสุรเกียรติ์มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับวังมีภาพความจงรักภักดีเป็นที่ตั้ง ซึ่งตรงนี้เป็น “จุดอ่อน” ที่พท.มีมาตลอดและเป็น “จุดสลบ” ที่ทักษิณไม่สามารถก้าวผ่านหากต้องการกลับมาแผ่นดินเกิดเสียที ด้วยรู้ว่าสุรเกียรติ์ไม่ธรรมดา เพราะมี “ออปชั่นพิเศษ” เชื่อมกับสถาบัน ทักษิณจึงหวังประโยชน์ในการใช้สุรเกียรติ์เรื่องนี้แบบเต็มๆ ไม่งั้นไม่กล้าพูดเรื่องกลับบ้านโดยไม่ใช้กฎหมาย ไม่พึ่งพท.ไม่ต้องซูเอี๊ยะกับลุงป้อมและพปชร.แน่ๆ ถ้าไม่มีไพ่ตายเรื่องอื่น
ที่สุดก็ปรากฎแล้วว่าไม้เด็ดที่ทักษิณซ่อนไว้ก็คือการเสนอชื่อสุรเกียรติ์เป็นแคนดิเดตนายกฯของพท. ใฝ่สูงหวังใช้บารมีในวังของสุรเกียรติ์พาตัวเองเอาตัวรอดหนีคุกกลับไทยแบบไม่ต้องรับโทษนี้เอง ไม่แปลกที่หมากเกมนี้จะโดนคนใกล้ชิดที่ตอนนี้กลับข้างมาสับแหลกอย่างจตุพรออกมาดักคอแบบเต็มๆ ” ครั้งนี้ ขณะที่การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้น ชื่อ ส.สุรเกียรติ์ ถูกเชื่อมโยงภาพเป็นบุคคลจงรักภักดีและทำงานใกล้ชิดสถาบันกษัตริย์จะเป็นแคนติเดตนายกฯ ของเพื่อไทย แม้ส่วนตัวมีความต้องการเป็น นายกฯตามความอยากของมนุษย์ แต่ความเหมาะสมในสถานภาพของบุคคลในปัจจุบัน โลกติเตียนได้ ซึ่ง ส.สุรเกียรติ์ ควรต้องรู้ว่า อะไรเป็นอะไร และควรทำอย่างไร ผมเชื่อว่า ส.สุรเกียรติ์ จะตัดสินใจอย่างไร ก็ต้องรู้ผลลัพธ์โลกติเตียนตามมา แม้เรื่องนี้เป็นเพียงทางการข่าว ประติดประต่อเชื่อมโยงการทาบทามเพื่อไปบรรลุเป้าหมายกลับบ้านโดยไม่ใช้กฎหมาย แต่ถึงที่สุดก็ไม่ง่ายตามความประสงค์ของใครก็ตาม” จตุพรฝากบทเรียนและความจริงเตือนสติสุรเกียรติ์แบบดังๆติดต่อกันหลายวัน เพราะตัวเองรู้กำพืดนายใหญ่จอมเจ้าเล่ห์พ่อค้าหน้าเหลี่ยมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความอำมหิตที่ทำกับสมัครที่จตุพรเคารพกราบไหว้อย่างสนิทใจด้วยดีมาตลอด
ย้อนอดีตกลับไปดูความขัดแย้งระหว่างสมัครกับทักษิณ ความจริงทักษิณตั้งสมัครตอนนั้นเพราะหวังใช้ “จุดเด่น-จุดแข็ง” ของสมัครที่รักเทิดทูนสถาบันมาเป็นจุดขาย จนทำให้พรรคพลังประชาชน (พปช.) ที่เป็นคอกทักษิณตอนนั้นชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย สมัครได้เป็นนายกฯคนที่ ๒๕ สมใจ ทักษิณได้คนของฝ่ายตัวเองเป็นรัฐบาล แต่บริหารประเทสไปสักพักทักษิณก็พบปัญหาว่าสั่งสมัครไม่ได้ พูดอะไรไปสมัครก็ไม่ฟัง หนำซ้ำตอนนั้นสมัครยังมีก๊วนนักการเมือง “แก๊งออฟโฟร์” ที่เป็นแกนนำเบอร์ใหญ่ของพปช. ตั้วทีมขึ้นมาคานอำนาจกับทักษิณประกอบด้วย ๑. สมัคร ๒ .เสี่ยโป๋ ธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกฯ ๓. “เสี่ยเน” เนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน และ ๔. “หมอเลี๊ยบ” สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพปช. ในตอนนั้น ก๊วนแก็งค์ออฟโฟร์นี้แหละที่คอยยุยงถือหางสมัครให้งัดข้อกับทักษิณ ระหว่างทางบริหารประเทศของสมัคร ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ถึง ๙กันยายน พ.ศ.๒๕๕๑ รวมเวลา ๒๒๓ วันก่อนถูกศาลรัฐตัดสินให้ัพ้นความเป็นนายกฯ สมัครกับทักษิณงัดกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ที่ทักษิณอยากดันเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนในเตรียมทหารรุ่น ๑๐ (ตท.๑๐) ขึ้นคุมสามเหล่าทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ แต่สมัครก็ไม่เห็นด้วยเพราะกลัวจะทำให้รัฐบาลกับกองทัพปริ่แยกออกจากกัน
แถมตอนนั้นยังมีพ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมที่ถูกคิดขึ้นมาในยุค “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ ที่ระบุให้การโยกย้ายทหารในกองทัพต้องผ่านบอร์ด ๗ อรหันต์กลาโหมประกอบด้วย ฝ่ายประจำ ๕ คนคือ ปลัดกห. ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ. รวมถึงฝ่ายการเมือง ๒ คน คือ รมว.กลาโหม กับ รมช.กลาโหม เพื่อกันการล้วงลูกจากฝ่ายการเมือง ที่ทักษิณอยากให้ตีตกเพราะจะได้มาล้วงลูกตั้งทหารแบบง่ายๆ เหมือนที่เคยทำมาในยุคตัวเองจนชิน โดยเฉพาะการตั้งพี่น้องตัวเองเป็นผบ.ตร. ผบ.ทบ. แต่สมัครซื้อใจทหารไม่ขวางกฎหมายฉบับนี้จนโปรดเกล้าลงมาและถูกนำมาใช้ เป็นครั้งแรกในยุคนั้น ทำให้กองทัพพอใจสมัครเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่สมัครไปสนิทสนมชอบพอกับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในตอนนั้นแบบออกนอกหน้าถึงขนาด สมัครเป็นนายกฯควบรวม.กลาโหม นัดกินข่าวกับผบ.เหล่าทัพ ที่กระทรวงกลาโหมกันทุกวันศุกร์ จนทำให้ทักษิณหมั่นไส้แบบสุดๆ เพราะพล.อ.อนุพงษ์เป็นหนึ่งในคีย์แมนปฏิวัติทักษิณคนสำคัญ นี้คือมูลเหตุสำคัญที่ทำให้ทักษิณแตกหักไม่เอากับสมัคร สุดท้ายก็แก้เผ็ดสมัครแบบอำมหิตด้วยการ “ปาดคอสมัครกลางสภา” โดยการหลอกให้สมัครไปสภาเพื่อรอลุ้นผลโหวตเป็นนายกฯ แต่ตัวเองให้คนสนิทโทรสั่งพรรคร่วมลูกพรรคฝ่ายตัวเองโดดล่มสภา สุดท้ายสมัครก็ตกเก้าอี้ไม่ได้โหวตกลับไปเป็นนายกฯอีก และเรื่องนี้แหละที่เป็นมูลเหตุหลักอันนึงที่ทำให้สมัครตรอมใจ หมดเรี่ยวแรงที่จะใช้ชีวิตหมดพลังที่จะต่อสู้กับโรคร้ายในตัว จนเสียชีวิตอย่างเดียวดายและเจ็บช้ำในที่สุด กี่รายที่โดนทักษิณถีบหัวส่ง กี่คนที่โดนโทนี่หักหลังปักมีดกลางอก สมัคร ร.ต.อ.ปุระชัย เนวิน บุญทรง ภูมิ ฯลฯ สุรเกียรติ์อยากเผชิญความโหดเหี้ยมของทักษิณอย่างลองดีกับความอำมหิตผิดมนุษย์ของทักษิณก็ปีนขึ้นไปเก็บมะม่วงให้นักโทษดุไบได้เลย คนไทยจะรอดูตอนอวสานที่คงไม่นานเกินรอ
////////////////////