จากกรีณีมีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านแฮปปี้ฟาร์ม ถนนเณรแก้ว ตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ได้เงินสดไปกว่า100,000 บาท ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายเนื้อหมู เนื้อไก่สด ตั้งอยู่กลางเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งประตูกระจกหน้าร้านมีรอยถูกงัดลิ้นชัก เคาน์เตอร์ มีรอยถูกงัด กระจกตู้แช่ กล้องวงจรปิดด้านหลังเคาน์เตอร์เก็บเงินถูกทุบตีแตกเสียหาย ตู้แช่ถูกตีด้วยของแข็งแตกพังเสียหายจำนวน 5 ตู้ ที่เกิดเหตุภายในร้านพบหลักฐานแท่งเหล็กที่ใช้สำหรับตีน้ำแข็งตกอยู่
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สั่งให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ลงพื้นที่สืบหาเบาะของคนร้ายพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเส้นทางการหลบหนี รวมทั้งยานพาหนะที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเพื่อที่จะจับกุมคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือว่าคนร้ายก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้งที่อยู่ใจกลางเมือง หน้าร้านก็เปิดภายในร้านก็มีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบรถต้องสงสัยที่คนร้ายใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ เป็นรถเก๋งยี่ห้อ FORD FIESTA สีดำทะเบียน 7กจ 4697 กทม.จึงตรวจสอบชื่อเจ้าของผู้ครอบครองรถ พบเป็นชื่อขนายสุภัทรชัย อายุ 34 ปี อยู่หมู่ที่ 6 ต.ท่าชัย อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านแฮปี้ฟาร์มที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ จากนั้นตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนตามไปรวบตัว นายสุภัทรชัย ได้ขณะกำลังทำงานอยู่ในร้านแฮปปี้ฟาร์ม ก่อนคุมตัวมาสอบสวน
และเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผู้กำกับ สภ.เมืองสุพรรณบุรี และชุดสืบสวนได้แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้จัดการร้านแฮปปี้ฟาร์ม เข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการได้ประมาณ 1 เดือนก่อนที่เข้ามาทำงานทางบริษัทได้มีการตรวจสอบพฤติกรรมและประวัติของผู้ต้องหาอย่างละเอียดพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนดีไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยทางบริษัทจึงรับเข้าทำงาน ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจก่อเหตุผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ต้องการนำเงินไปใช้หนี้ให้แม่และครอบครัว ตนไม่มีทางออกจึงตัดสินใจโดยตนก่อเหตุเพียงคนเดียวหลังจากได้เงินแล้วได้นำเงินไปซ่อนไว้ที่บ้าน ที่จังหวัดอ่างทอง และกลับมาทำงานตามปกติ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปจับถึงที่ทำงานจากนั้นได้คุมตัวไปเอาของกลางที่ซ่อนที่บ้านจังหวัดอ่างทองเป็นเงินดสดจำนวน 139,366 .25 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ต้องหายืนอยู่ในกลุ่มพนักงานดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ พูดคุยกับพนักงานตามปกติ นอกจากนี้ยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวอีกว่าตนเพิ่งเข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการที่ร้านได้ประมาณ 1 เดือน ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยเหตุการณ์แบบนี้ ทางด้าน น.ส.สุภาภรณ์ เพ็ชรฟู ผจก.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ตัวแทนบริษัทได้เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เปิดเผยว่าได้พูดคุยกับผู้ต้องหาซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าที่ตัดสินใจก่อเหตุเพราะเครียดหาทางออกไม่ได้ต้องการนำเงินไปใช้หนี้หลังก่อเหตุคิดจะนำเงินมาคืนแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเดินแล้วต้องเดินให้ถึงที่สุดถูกจับก็ติดคุก ส่วนค่าเสียหายที่ผู้ต้องหาทำลายทรัพย์สินมีกล้องวงจรปิด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และตู้แช่ที่ถูกตี มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 300,000 บาทแต่ต้องดูก่อนว่าจะมีการซ่อมได้มากน้อยแค่ไหนส่วนเงินที่ถูกขโมยไปน่าจะขาดอยู่อีกประมาณ 16,000 บาทเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ตัวแทนบริษัทได้มอบกระเช้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และ พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ได้มอบเงินเป็นบำรุงขวัญกำลังใจให้ชุดจับกุมตามนโยบายของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี
ภัทรพล พรมพัก จ. สุพรรณบุรี