วันที่ 10 ก.พ.66 ที่พรรคพลังประชารัฐ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา นำ ส.ส. ในกลุ่มจำนวน 13 คน กลับเข้าสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง โดยบอกว่า เป็นการกลับมาในรอบ 1 ปี ซึ่งรู้สึกคิดถึงบ้านเก่า เพราะมีความผูกพันธ์ ที่ผ่านมาส่วนตัวไม่ใช่คนที่หาเรื่องคน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง อะไรที่ผ่านมาก็ขอให้ผ่านไปกับปีเก่า โดยการกลับมาครั้งนี้ จะช่วยดูแลในพื้นที่ภาคเหนือ ตอนบน เพราะเป็น ส.ส.เขต พะเยาอยู่แล้ว ส่วนจะได้กี่เขตนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะยังไม่เห็นคู่แข่ง และไม่ห่วงเป้าหมายแลนด์สไลด์ ในพื้นภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย แม้สถานการณ์การเมืองปี 2562 จะต่างกับปี 2566 เพราะคู่ต่อสู้ต่างเตรียมตัวกันมาดี แต่มั่นใจในพื้นที่ที่ตนเองดูแล
“ธรรมนัส” นำ ส.ส. คัมแบ็คบ้านเก่า พปชร. คุมเลือกตั้งภาคเหนือ ยอมรับเลือกตั้ง ปี66 ต่างจากปี 62 มั่นใจกวาด ส.ส. 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐเคยมีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว รอบนี้จะสามารถสร้างนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ทุกพรรคการเมืองหวังที่จะสามารถสร้างนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ ที่หวังจะให้พลเอกประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในสถานการณ์การเมืองขณะนี้ พลเอกประวิตร เหมาะสมที่สุด โดยพรรคพลังประชารัฐจะชูพลเอกประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ไม่อยากให้มองว่า การกลับมาพรรคพลังประชารัฐของตนเองมีดีลทางการเมืองกับขั้วตรงข้าม หรือ พรรคเพื่อไทย ซึ่งขึ้นอยู่ที่หัวหน้าพรรค เพราะส่วนตัวมองว่า เร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ ตอนนี้ขอทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ ส.ส. กลับมามากที่สุด
เมื่อถามว่า หากมีการเสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งจะสนับสนุนหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอฟังคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน แต่ยืนยันว่า ไม่คิดทะเลาะกับใคร ต้องการทำการเมืองสร้างสรรค์ เพื่อประเทศและประชาชน และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์หลังพรรคพลังประชารัฐไม่มีพลเอกประยุทธ์ เพราะพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนพลเอกประวิตรเท่านั้น
ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวถึงการขึ้นเงินเดือนให้กับท้องถิ่นทั่วประเทศว่า ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรค เพราะเห็นว่า ควรปรับให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน พร้อมยอมรับว่า หากพูดเรื่องนี้ในขณะนี้เหมือนเป็นการหาเสียงก่อนเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ พูดคุยกันมานาน พร้อมย้ำ แนวคิดของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่การฉวยโอกาสช่วงเลือกตั้ง ที่ผ่สนมาพยายามผลักดันมาตลอด เพียงแค่ยังไม่สำเร็จเท่านั้น และเห็นด้วยหากจะมีพรรคการเมืองอื่น นอกจากพรรคพลังประชารัฐนำเรื่องนี้ขึ้นมาผลักดัน เพราะเคยรับปากไปแล้วก็ต้องทำตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-