สหรัฐฯตีข่าวใหญ่ เร่งประสานทางการไทย ส่งตัวหญิงขับรถชนคนเสียชีวิต กลับไปดำเนินคดี

สหรัฐฯตีข่าวใหญ่ เร่งประสานทางการไทย ส่งตัวหญิงขับรถชนคนเสียชีวิต กลับไปดำเนินคดี

 

สื่อสหรัฐฯตีข่าวดัง หญิงสูงอายุชาวไทยขับรถชนนักศึกษาหนุ่มอนาคตไกลจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุหญิงไทยรายนี้ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศทันที ล่าสุดทางการสหรัฐทำเรื่องขอส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวราว หนุ่มต่างชาติ ชื่อ เบน เคเบิล(Ben kable) นักศึกษาอายุ 22 ปี ถูกหญิงชาวไทยขับรถชนจนเสียชีวิต เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุหญิงไทยรายนี้หลบหนีเดินทางกลับมาประเทศไทย นั้น ล่าสุด สื่อที่สหรัฐฯรานงานว่า เจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำญาตินักศึกษาที่เสียชีวิต ทราบว่า เขานั่งอูเบอร์กลับบ้านเพื่อมาฉลองปีใหม่กับครอบครัว แต่คนขับอูเบอร์จอด และให้เขาลงจากรถริมถนน ระยะห่างจากบ้านเขาประมาณสิบนาที หลังจากนั้นญาติก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีกเลย และพบว่าเขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตำรวจตามสืบจนพบรถคันก่อเหตุ และยึดรถของกลางไว้ได้ แต่ยังไม่สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนผู้ต้องสงสัย เป็นหญิงไทย อาศัยอยู่ที่รัฐมิชิแกน ได้พลเมืองสหรัฐฯ (us citizen) อายุ 57 ปี หลังเกิดเหตุตำรวจออกหมายเรียกแต่เจ้าตัวไม่มาตามหมาย เจ้าหน้าที่จึงออกหมายจับ และพบว่า ผู้ต้องสงสัยเดินทางกลับประทศไทยตั้งแต่หลังเกิดเหตุได้เพียง 2 วัน โดยจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียว เดินทางจากสหรัฐอเมริกามายังกรุงเทพมหานคร อีกทั้งพยานที่เป็นคนใกล้ชิดของผู้ต้องสงสัย ระบุว่า หญิงสาวคนดังกล่าวบอกกับตนเองว่า สงสัยจะชนคนตาย ตนเองจึงแนะนำให้เข้ามอบตัว แต่หญิงสาวรายนี้กลับปฏิเสธ และเดินทางออกนอกประเทศทันที

ขณะเดียวกัน ตอนนี้ FBI กำลังประสานกับตำรวจไทย เพื่อนำตัวผู้ต้องสงสัยกลับไปดำเนินคดีที่อเมริกา ซึ่งโดนข้อหาหนักหลายมาตรา รวมถึงเจตนาเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหลบเลี่ยงกระบวนการยุติธรรม ขณะที่โลกออนไลน์ ได้มีการเปิดเผยใบหน้าของหญิงไทยที่ก่อเหตุ โดยล่าสุด แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก สตช.) ให้ข้อมูลว่า สำนักงานสำรวจแห่งชาติทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมถึงยังรอทางการสหรัฐฯ ทำเรื่องติดต่อเข้าประสานข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่า การจะขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีนอกราชอาณาจักร ต้องมีขั้นตอนและพิธีการทางการทูต ผ่านทางสำนักงานอัยการสูงสุด จากนั้นจึงประสานมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำหน้าที่ดำเนินการ ในกรณีนี้หญิงไทยหลบหนีการกระทำผิดกลับมายังประเทศไทย ตำรวจคงไม่สามารถไปตามจับกุมแล้วส่งตัวให้กับทางการสหรัฐฯได้ในทันที เป็นเรื่องระหว่าง รัฐต่อรัฐ หรือ state to state ซึ่งตามหลักสากลที่เป็นทั่วโลก จะยึดหลักความคิดที่ว่าคงไม่มีประเทศไหนส่งพลเมืองของตนเองไปให้ประเทศนั้นๆดำเนินคดี ต้องมีข้อตกลงหรือเงื่อนไขบางอย่างก่อน

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ. ปักหมุด ยลวิถีตาลบ้านถ้ำรงค์เมืองเพชร เปิดสุดยอดชุมชนต้นแบบ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี"
แห่ชื่นชม ขบวนพาเหรดดอกไม้ไทย ร่วมงาน Bloemencorso 2025 เนเธอร์แลนด์
"ชัชชาติ" ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต "ตึกสตง. ถล่ม 35 ราย เร่งค้นหาอีก 59 ผู้สูญหาย
"กรมบัญชีกลาง" แจงปมถูกกล่าวอ้างชนะโครงการ "ตึกสตง." เพราะรู้ราคาประมูล ไม่เป็นความจริง ย้ำมีการเข้ารหัส 2 ชั้น เก็บข้อมูลในบล็อกเชน
สุดยิ่งใหญ่! สวนนงนุชพัทยานำทีมไทยร่วมโชว์ขบวนพาเหรดดอกไม้ งาน Bloemencorso Bollenstreek ที่เนเธอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวแห่ถ่ายรูปคึกคัก
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชวนเที่ยวสงกรานต์ ต้อนรับปีใหม่ไทย ร่วมสืบสานประเพณีในธีมงานวัดและชมความน่ารักของสัตว์นานาชนิด
"คนกรุงฯ" เห็นใจเอกชนแบกภาระค่าใช้จ่าย ฝากกทม.เร่งจ่ายหนี้ กังวลถ้ารถไฟฟ้าสีเขียวหยุดวิ่ง กระทบชีวิตหนักแน่
"DSI" อัปเดต คดีนอมินีจีนสร้างตึกสตง.ถล่ม ลุยต่อตรวจสอบเส้นทางเงิน-เลี่ยงภาษี
สถานีขนส่งอุทัยฯคึกคัก ปชช.แห่ซื้อตั๋วเดินทางกลับภูมิลำเนา รถทัวร์-รถตู้ ถูกจองเต็มเกือบทุกเที่ยว
จนท.เตรียมเจาะแผ่นปูนเชื่อมฐาน ”ตึกสตง.“ จุดพบแสงมือถือ ยังมีความหวังเจอผู้รอดชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น