กองบัญชาการเหนือของกองทัพสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า ลูกเรือสามารถกู้เศษซากที่สำคัญของบอลลูนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สำคัญๆ รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ตลอดจนชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของโครงสร้างบอลลูน โดยในส่วนเซ็นเซอร์นั้น สันนิษฐานว่าใช้ในการรวบรวมข่าวกรอง ทั้งนี้ บอลลูนดังกล่าวที่ถูกเก็บกู้นี้ ได้ถูกเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐ ยิงตกที่นอกชายฝั่งเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์
ขณะเดียวกัน ทางด้านของนางเอเดรียเน่ วัตสัน โฆษกหญิงแห่งสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ก็ได้ออกคำแถลงตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ทางจีนระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีบอลลูนสอดแนมของสหรัฐ บินอยู่เหนือจีนกว่า 10 ลูก โดยวัตสันแถลงว่า การกล่าวอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐ ส่งบอลลูนขึ้นตรวจการณ์เหนือประเทศจีนนั้น ไม่เป็นความจริง โดยจีนนั้น มีโครงการบอลลูนเฝ้าระวังระดับสูงเพื่อรวบรวมข่าวกรอง ที่เชื่อมโยงกับกองทัพปลดแอกประชาชน ซึ่งจีนก็ได้ทำการละเมิดอำนาจอธิปไตยของสหรัฐ และอีกกว่า 40 ประเทศใน 5 ทวีปแล้ว จีนพยายามดิ้นรน เพื่อควบคุมความเสียหายนี้ ด้วยการอ้างว่าเป็นบอลลูนตรวจสภาพอากาศ แต่ก็ไม่ได้ให้คำอธิบายที่น่าเชื่อถือใดๆ เกี่ยวกับการบุกรุกน่านฟ้าของสหรัฐและของชาติอื่นๆเลย
สำหรับการที่สหรัฐจัดการยิงบอลลูนของจีนนั้น ได้ทำให้ความพยายามในการสานสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐต้องหยุดชะงัก โดยนายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ยกเลิกการเยือนจีนอย่างกระทันหัน ก่อนกำหนดเดินทางเพียง 1 วัน และขณะนี้ สิ่งที่หลายฝ่ายกำลังจับตาคือ ทั้ง 2 ประเทศจะมีการพบกันหรือไม่ ในการประชุมความมั่นคงที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากทั้งบลิงเคนและนายหวัง อี้ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของจีน ก็จะไปร่วมประชุมเช่นกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ไม่ระบุชื่อของสหรัฐรายหนึ่ง ได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมของ บลิงเคนและนายหวัง ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า ไม่มีอะไรจะประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะสหรัฐเปิดกว้างสำหรับการเจรจา ภายใต้เงื่อนไขที่ถูกต้อง ขณะที่ทางสถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐในจีน ก็อ้างถึงการบรรยายสรุปของกระทรวงการต่างประเทศจีนว่า มีการประกาศแผนการของนายหวัง ที่จะเข้าร่วมการประชุมที่มิวนิก แต่ไม่มีการกล่าวถึงแผนการพบกับบลิงเคน แต่อย่างใด
สำหรับการประกาศพบบอลลูนจีน และวัตถุต้องสงสัยเหนือน่านฟ้าสหรัฐ ได้ทำให้หลายประเทศตื่นตัวกับความปลอดภัยเหนือน่านฟ้าของตนเอง โดยที่อังกฤษ นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษว่า อังกฤษและพันธมิตร จะมีการทบทวนการล่วงล้ำน่านฟ้าเหล่านี้ ว่ามีความหมายอย่างไรต่อความมั่นคงของประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ภาพแห่งภัยคุกคามทั่วโลก กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง ดังนั้น การที่จะมีการดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัย ก็เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต่อไป จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงการเฝ้าระวังน่านฟ้าของอังกฤษ