“มงคลกิตติ์” เตรียมจัดหนักบอร์ด สคร.-ครม. หากดื้อต่อสัญญาโครงการเอกชนร่วมลงทุนปทุมธานี–รังสิต

"มงคลกิตติ์" เตรียมจัดหนัก บอร์ด สคร.-ครม. หากดื้อต่อสัญญาโครงการเอกชนร่วมลงทุนปทุมธานี–รังสิต

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวถึงกรณีการต่อสัญญาโครงการให้สิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ของการประปาส่วนภูมิภาค (โครงการเอกชนร่วมลงทุนปทุมธานี – รังสิต) ไปอีก 20 ปี ท่ามกลางการท้วงติงจากหลายหน่วยงานว่า กรณีดังกล่าว ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เคยชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะไม่มีการแก้ไขสัญญาให้สิทธิในการดำเนินการผลิต และจำหน่ายน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค ตามโครงการเอกชนร่วมทุนปทุมธานี รังสิต จนครบกำหนดสัญญาที่ตั้งไว้ 20 ปี ซึ่งจะหมดสัญญาภายในปี 2566 แต่ที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีหนังสือลงวันที่ 8 กันยายน 2565 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ทบทวนการต่อสัญญา เพราะอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง และมีหนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ท้วงติงตามเอกสารของ ป.ป.ช. ไปยังกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อให้คณะกรรมการ สคร. มีการแก้ไขสัญญาให้เอกชนมาดำเนินการ ซึ่งอาจจะมีการขยายระยะเวลาในสัญญาออกไปอีก 20 ปี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งกรณีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหากปล่อยให้มีการต่อสัญญาฯ แล้ว ภาครัฐจะเสียรายได้อย่างมหาศาล เนื่องจาก ในปัจจุบัน มีการซื้อน้ำประปาในแต่ละวันตกอยู่ที่ 400,000 ลูกบาศก์เมตร ต้นทุนลูกบาศก์เมตรละ 13 บาท โดยในสัญญาที่มีการแก้ไข จะลดเหลือเพียงต้นทุนลูกบาศก์เมตรละ 10 บาท โดยจะขึ้นราคาต้นทุนการผลิตปีละ 40 สตางค์ รวมทั้ง จะทำให้ค่าต้นทุนน้ำประปาจะตกเฉลี่ยลูกบาศก์เมตรละ 14 บาท และจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ หากการประปาส่วนภูมิภาคดำเนินการเอง ต้นทุนในการผลิตจะตกอยู่ที่ 6 บาทต่อลูกบาศก์เมตร เพราะฉะนั้นแล้ว จะมีส่วนต่างถึง 8 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้รัฐจะต้องสูญเสียเงินรายได้ 1,500 บาทต่อปี ถ้าครบสัญญาที่จะต่อไปอีก ก็จะทำให้สูญเสียรายได้ถึง 30,000 ล้านบาท

 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้หวังดีมาบอกกับตนในกรณีนี้ว่า มีคนในการประปะปามีอักษร ย่อ ช มีเอกชนไปชื้อบ้านให้ที่ประเทศสิงคโปร์และยังมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ มีชื่อย่อว่า ‘เสธ.น.’ โดยคาดว่า ถ้างานนี้มีการผลักดันเข้า ครม. และดำเนินการต่อสัญญาเรียบร้อยแล้ว ‘เสธ.น.’ จะได้รับเงินค่าดำเนินการถึง 300 ล้านบาท และ มีนักการเมืองใหญ่แถบภาคอีสาน อักษรย่อ น. จะได้รับเงินถึง 1,000 ล้านบาท อีกทั้ง ยังมีนักการเมืองผมน้อย จะได้รับถึง 300 ล้านบาท จริงหรือไม่ ทั้งๆ ที่ ป.ป.ช. เคยเตือนแล้วว่า ควรที่จะให้ทาง กปภ. ดำเนินการเอง แต่กลับทำสัญญาจ้างเอกชน และเอื้อให้คนเพียงไม่กี่คน ดังนั้น ตนจึงขอเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อนุพงษ์ ว่าหากยังมีการดื้อดึงที่จะต่อสัญญาออกไปอีก 20 ปี โดยไม่สนใจคำท้วงติงของ ป.ป.ช. ตนจะยื่นหนังสือขอให้ดำเนินคดีกับบอร์ด สคร. และหากนำเรื่องนี้เข้าคณะรัฐมนตรี ก็จะดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) และจะแจ้งความกับ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และจะยื่นให้ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิจารณาด้วย ซึ่งตนเชื่อว่า งานนี้จะต้องมีคนติดคุกแน่นอน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ศปช." เตือน ปชช.รับมือฝนตกหนักภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม 2- 5 พ.ย.นี้
“หนุ่ม กรรชัย” เดือด “ทนายธรรมราช” ไล่ฟ้องแขกรับเชิญ ท้าใส่เดี่ยว พร้อมทุกเมื่อ
ฮิปโปฯ ศรีสะเกษ ได้ชื่อแล้ว "น้องหอมแดง" ผลโหวตสูงถึง 52,045 โหวต
ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
ระทึก กลางสี่แยกไฟแดง จยย. พุ่งชนรถตู้ทึบ เสียชีวิตคาที่ 2 ราย
รวบหนุ่มเขมร ลอบขนเงินไทย 1.5 ล้าน จะนำออกไปเขมร คุมสอบเข้มหวั่นร่วมแก๊งคอลฯ
"พิชัย" ถก "รมต.รัสเชีย" เพิ่มยอดขายสินค้าเกษตร เร่งเจรจา FTA "ไทย-ยูเรเซีย"
"นายกฯ อิ๊งค์" ให้กำลังใจผู้บำบัดยาเสพติด บอกแค่พลาด ไม่ได้แปลว่าเป็นคนไม่ดี ขอให้ภูมิใจที่กลับมาได้
"เพื่อไทย" ย้ำหากเปิดสมัยประชุมสภาฯ พร้อมยื่นร่าง "กม.นิรโทษกรรม" ทันที ต้องไม่มีปล่อยผี "ม.112-คดีทุจริต"
เปิด "กฎหมายห้ามตีเด็ก" เมื่อ "ไม้เรียว" และ ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น