มีเงิบ “ก้าวไกล” แฉเส้นทางหักหัวคิว “กู้บ้านพักทหาร” ต้นตอกราดยิงโคราช โดนท้วงกลับกลางสภา 2 รอบติด

มีเงิบ “ก้าวไกล” แฉเส้นทางหักหัวคิว “กู้บ้านพักทหาร” ต้นตอกราดยิงโคราช โดนท้วงกลับกลางสภา 2 รอบติด

 

16 ก.พ. 2566 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายต่อที่ประชุมสภาในญัตติอภิปรายแบบไม่ลงมติ มาตรา 152 ว่า ขณะนี้เป็นยุคทองของกองทัพแทบทุกหน่วย ที่เกิดเรื่องฉาวไม่เว้นแต่ละวัน ตอนนี้เป็นเวลากว่า 3 ปีที่เกิดเหตุกราดยิงโคราช ถือเป็นเหตุการณ์กราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือสาเหตุในการตัดสินใจของจ่าคลั่ง คือความโกรธแค้นที่ตัวเองถูกโกงเงินบ้านพักกองทัพบก เขาโกรธแค้นวัฒนธรรมคอร์รัปชั่น ซึ่งผลของการปฏิรูปกองทัพคือการที่เราได้ทหารเป็นโจรในเครื่องแบบ ใส่หน้ากากคนดีที่อ้างว่า รักชาติ ความสงบ

 

 

 

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ส่วนโครงการบ้านทหารของกรมสวัสดิการทหารบกนั้น ทหารที่จะเข้าร่วมซื้อบ้านต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาก่อน ทางกรมก็จะออกใบอนุญาต มีการตรวจหลักทรัพย์ และเอาเช็คเงินสดไปขึ้นเงิน ซึ่งเรื่องอนุมัตินี้เกี่ยวข้องกับทหาร 3 ตำแหน่ง ได้แก่ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ผอ.กองการออมทรัพย์ เสธ.หัวหน้าเงินกู้ โดยมีมือมืด ยศทหารทั่วไป ทำหน้าที่เก็บค่าธรรมเนียม 5% และเงินค่าส่วนต่าง

“สมัยก่อนเป็นเงินสด ไม่ค่อยมีหลักฐาน ตอนนี้ไฮเทค ใช้ออนไลน์ เงินทอนส่วนต่าง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ ทีนี้พอมันจะโกงมันจะทำเหมือนวิธีปกติไม่ได้”

ข่าวที่น่าสนใจ

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ยืนยันในที่ประชุมกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและสื่อสารมวลชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า กำลังพลต้องไปเอาเช็คเงินสดเองทุกใบ แต่หลักฐานการรับเช็คเงินสด พรรคก้าวไกลได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง 2 รายว่ามีมือมืด ชื่อจ่า ส. เป็นเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการทหารบกทำหน้าที่ในการปลอมลายเซ็น รับเช็คเงินสดแทนกำลังพลในปี 2554-2563 รวมแล้ว 812 ล้านบาท วิธีการคือ จ่า ส.จะนำเงินเข้าบัญชีของตัวเองก่อน จากนั้นจะโอนต่อไปให้ผู้ประกอบการขายบ้าน โดยไม่ให้กำลังพลได้รับเงินกู้ด้วยตนเอง จากนั้นผู้ประกอบการขายบ้านต้องโอนเงินไปให้มือมืดคนที่ 2 ชื่อ จ่า ธ. ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลแฟ้มผู้ประกอบการทั้งหมด จะโอนเงินต่อไปให้นาย โดยมีการผลัดกันเป็นหัวหน้าเสธ.ที่ดูแล 3 คน

 

จากนั้นนายปดิพัทธ์ ได้โชว์หลักฐานเงินไหลเวียนบัญชีของจ่า ส. ที่มีหน้าที่รับเงินกู้บ้านไปแจกจ่ายต่อ ซึ่งมีเงินเดินบัญชี 180 กว่าล้านบาท เงินเข้ารัวๆ ทุก 3 วัน จึงขอตั้งคำถามว่า จ่า ส. ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะมากขนาดนี้ พร้อมกับเปิดแชทไลน์ที่ จ่า ธ. พูดคุยกับผู้ประกอบการชื่อ น.ส.ก้อย ที่ระบุถึงการหักหัวคิวให้เสธ. 50,000 บาท

 

“เสธ.เงินกู้คนนี้ นอกจากจะมีกินเงินค่าหัวคิวยังไขเพิ่มอีก 50,000 บาท แถมเอาเงินที่ตัวเองร่ำรวยมา ไปปล่อยกู้ต่อ ทำให้ผู้ประกอบการรายนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มอีกเดือนละ 100,000 บาท”

 

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เมื่อเปลี่ยนเสธ.ที่มาดูแล แต่กระบวนการหักหัวคิวก็ยังเหมือนเดิม หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะลุกขึ้นมาตอบว่าเป็นเรื่องของทหารไม่กี่คนที่ทุจริต แต่เรื่องดังกล่าวก็เป็นวัฒนธรรมองค์กร ที่สืบสานการทุจริตแบบรุ่นสู่รุ่น นักเรียนนายร้อยรักกันจริงๆ ไม่ปล่อยให้เพื่อนอดอยาก อิ่มกันทุกคน ภายหลังเกิดเกตุกราดยิงโคราช ยังมีการพูดคุยระหว่างผู้จ่ายหัวคิวกับ เสธ.ว่า ได้มีการจ่ายเงินให้เจ้ากรมหรือไม่ ผู้ตอบระบุว่า “จ่ายแล้ว ไม่จ่ายก็โดนตื้บกันพอดี” และเมื่อเปลี่ยนผู้บัญชาการทหารบก กองทัพก็ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร โรงเรียนเสธ.เขาสอนกันอย่างไร บอกว่าเจอเรื่องชั่ว ๆ ให้ปฏิเสธไว้ก่อน ชายชาติทหารจริง ๆ เก่งแต่จับประชาชน นักการเมือง เก่งแต่หาว่าคนอื่นชังชาติ ตนเองรักชาติ

ผู้ประกอบการที่อมเงินของจ่าคลั่ง ชื่อป้าอนงค์ คือคนที่ถูกยิงตายคนแรก เป็นแม่ยายทหารที่ออกเงินกู้ และสนิทสนมกับนายร้อยหลายคน เคยใช้เส้นสายเคลียร์เรื่องให้กับน.ส.ก้อย และถือวิสาสะเอาบ้านของ น.ส.ก้อย ไปขายให้กำลังพลแล้วอมเงินจำนวน 450,000 บาท จนท้ายสุดความแตก

จากนั้น นายปดิพัทธ์ ได้เปิดคลิปเสียงช่วงที่มีการเคลียร์กันระหว่าง ป้าอนงค์และกำลังพล และอีกคลิปเป็นคลิปที่ป้าอนงค์พูดคุยกับ เสธ.ช. ที่รับผิดชอบขณะนั้น ตนมั่นใจว่า เจ้ากรมสวัสดิการทหารบกทราบเรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

 

นอกจากนี้ยังมีแชทไลน์ระหว่าง ผอ.กองการออมทรัพย์และผู้ประกอบการ ที่ยอมรับว่ามีการอมเงิน แต่ไม่มีใครทำอะไร หลังจากเกิดเหตุการณ์ นายกรัฐมนตรีก็ยิ้มร่า ไม่โศกเศร้า ผบ.ทบ.ก็แถลงร้องไห้ แต่ไม่ลาออก ต่อมาได้มีนายพันโทรมาหาผู้ประกอบการขอเคลียร์เพราะกลัวว่ากองทัพบกจะเสื่อมเสียชื่อเสียง กรณีดังกล่าวเปรียบเหมือนรังโจร ซึ่งเรื่องนี้จบที่กองทัพให้ผู้ประกอบการเซ็นว่าเป็นการเข้าใจผิดและจะไม่เอาเรื่องต่อ เป็นการสั่งจ่าย 15 ล้านบาทแล้วจบ ตนตั้งคำถามว่าโทษกักตัว 7 วันและงดบำเหน็จสำหรับคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงโคราชเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่

 

ทั้งนี้ระหว่างการประชุม นายชวน หลีกภัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมได้ท้วงติง 2 ครั้งว่า อย่าเหมาว่าทหารชั่วไปเสียทั้งหมด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น