(16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มสมาชิกชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ นำโดย นายสุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะครู นักเรียนจาก 4 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วทั้ง จ.ศรีสะเกษ พร้อมใจกันแต่งชุดดำ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์แทนครูทั้ง จ.ศรีสะเกษ พร้อมกับชูป้ายต่อต้านคัดค้านไม่เอา ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …. ฉบับใหม่ ที่กำลังมีการพิจารณาอยู่ในขณะนี้
ครู - นร. เผาพริกเกลือหน้าศาลหลักเมืองค้าน พ.ร.บ.การศึกษา เรียกร้องให้ พรรคการเมือง ส.ส. สว. และประธานรัฐสภา ให้พัก ชะลอ หยุด ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ไว้ก่อน เพื่อสร้างปรับแก้ใหม่ ให้สมบูรณ์สูงสุดส่งผลต่อระบบการศึกษาชาติต่อไป
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยมีนายวิทยา พันธุ์เพ็ง ที่ปรึกษาชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) คณะกรรมการบริหารชมรมฯ สมาคม ผู้แทนสมาชิก ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนภายใน จ.ศรีสะเกษ พากันนำเอาพริก เกลือ มาทำการตั้งเตาไฟเผาพริก เกลือ เพื่อขออำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของศาลหลักเมืองศรีสะเกษ โปรดดลจิตดลใจให้ผู้มีอำนาจให้พักและชะลอการนำเข้าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ..ไม่ให้เข้าไปประชุมพิจารณาในสภาผู้แทนราษรฏร โดยตามกำหนดการจะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ดังวกล่าวนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.66)
นายสุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ทางชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ และสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) ได้ติดตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาโดยตลอด และเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ ไม่ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาที่จะพัฒนาประเทศ และไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พ.ร.บ.ฉบับนี้จะสร้างความแตกแยก มากกว่าการสร้างความสามัคคีสงบสุข มั่นคงของคนในชาติ ดังสาระที่ปรากฏในมาตราต่างๆ ดังนี้
1.พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ให้ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง และไม่ใช่วิชาชีพควบคุม ต่างจาก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เพราะให้บุคคลธรรมดา คนทั่วไปใครก็จัดการศึกษาได้ ตามมาตรา 11, 13, และมาตรา 48 วรรค 2
2.ไม่ให้รัฐจัดการศึกษาภาคบังคับตามมาตรา 48 มาตรา 11 และมาตรา 110 ข้าราชการครูผู้จัดการศึกษา ทั้งผู้สอนและผู้บริหาร สถานศึกษาปฐมวัย ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นของรัฐ จะต้องถูกให้ออกจากราชการในไม่ช้าในที่สุด
3.เด็กนักเรียนบ้านนอกยากจนด้อยโอกาสขาดแคลนทั่วประเทศ หมื่นกว่าโรงเรียนต้องออกเดินทางไปเรียนโรงเรียนที่อยู่หมู่บ้านอื่นตามมาตรา 14(9) ยุบควบรวมโรงเรียน เด็กๆ จะออกกลางคันไม่จบการศึกษาภาคบังคับเป็นจำนวนมาก
4.ไม่ส่งเสริมผู้เรียนสู่สัมมาชีพและพรสวรรค์ที่ตนถนัด บังคับให้เด็กๆเรียนเหมือนกัน เรียนอย่างเดียวกัน และเรียนเท่าๆ กันเพื่อให้เป็นคนมีคุณภาพเหมือนๆกัน ตามมาตรา 8 และมาตรา 58 เป็นต้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับโลกยุค AI
5.พ.ร.บ.ฉบับนี้เปิดช่องทางให้มีการบ่อนเซาะทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 6, 11, 13, 14 และ 48 ซึ่งทหาร ตำรวจและข้าราชการคงยากจะรับมือไหวในอนาคตอีกไม่กี่ปีนี้
6.ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้เป็นเผด็จการรวบอำนาจการบริหารเข้าสู่ส่วนกลางมากที่สุด มากกว่าพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่เคยใช้มา
จึงขอแถลงเรียกร้องให้ พรรคการเมือง ส.ส. / สว. และประธานรัฐสภา โปรดไตร่ตรองพัก ชะลอ หยุด ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ไว้ก่อน เพื่อสร้าง/ปรับแก้ใหม่ ให้สมบูรณ์สูงสุดส่งผลต่อระบบการศึกษาชาติต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-