“กรมการจัดหางาน” ยันส่งคนงานเก็บผลไม้ฟินแลนด์-สวีเดน ทุกขั้นตอนโปร่งใส

"กรมการจัดหางาน" ยันส่งคนงานเก็บผลไม้ฟินแลนด์-สวีเดน ทุกขั้นตอนโปร่งใส

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชลบุรี พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ระบุถึงการจัดส่งแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ กรณีประเด็นกรมการจัดหางานปล่อยให้มีการจัดส่งแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์มากจนเกินไป รวมทั้งแรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าไม่ได้รับการคุ้มครองดูแล

 

 

 

กรมการจัดหางานสร้างความน่าเชื่อถือให้เอกชนโดยจัดอบรมให้แรงงานก่อนไปเก็บผลไม้ป่า และแรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากค่าจ้างและสวัสดิการนั้น ซึ่งในเรื่องนี้ผมขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การที่แรงงานไทยจะได้ไปเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ จำนวนกี่คน ใครได้รับอนุญาตบ้างนั้นในแต่ละปีจะต้องมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายคือ สถานทูตไทยประจำประเทศฟินแลนด์และสวีเดน ประเทศต้นทาง และกรมการจัดหางาน ถึงจำนวนแรงงานที่ต้องการจัดส่ง

 

 

โดยประเทศต้นทางจะเป็นผู้อนุมัติและมีหนังสือขอโควตาจำนวนคนงานที่จะให้ไปเก็บผลไม้ป่า ซึ่งในปีที่ผ่านมาประเทศฟินแลนด์และสวีเดนแจ้งมายังประเทศไทยว่าปีนี้ผลผลิตเบอร์รี่ออกมาจำนวนมาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีคนงานไปเก็บผลไม้ป่า ประกอบกับเกิดภาวะสงครามระหว่างยูเครน รัสเซีย ทำให้คนงานยูเครนไม่สามารถไปเก็บผลไม้ป่าได้ ทำให้สวีเดนและฟินแลนด์จึงต้องร้องขอให้ไทยจัดส่งแรงงานมากขึ้นกว่าปกติ

 

 

ส่วนกรณีการคุ้มครองดูแลคนงานที่ไปเก็บผลไม้ป่านั้น สำหรับประเทศฟินแลนด์ไม่มีสัญญาจ้างให้กับคนงาน เนื่องจากกฎหมายในประเทศฟินแลนด์ไม่เอื้อ กรมการจัดหางาน จึงได้ผลักดันให้บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยจัดทำสัญญาจ้างงานให้คนงานไทยทุกรายก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย และแจ้งให้สถานทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยทราบ เพื่อยืนยันการปรับรูปแบบวิธีการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ให้เป็นรูปแบบนายจ้างในประเทศไทยขออนุญาตพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศ แต่สำหรับประเทศสวีเดนกฎหมายกำหนดให้บริษัทสามารถทำสัญญาจ้างงานระหว่างนายจ้างกับคนงานได้ ทั้งนี้ หากบริษัทผู้ประสานในประเทศไทยผิดสัญญา กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบสัญญาจ้างตามกฎหมายเพื่อให้มีการดูแลคนหางานอย่างครอบคลุมเข้มงวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในเรื่องสวัสดิการกรมการจัดหางานได้กำหนดมาตรการให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์/บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยต้องจัดเตรียมสวัสดิการทั้งที่พัก ห้องน้ำ ห้องสุขา ห้องรับประทานอาหาร อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ให้คนงานไทยทุกคน รวมทั้งต้องทำประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพและได้มีหนังสือแจ้งให้สถานทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยทราบแล้ว

 

 

 

ส่วนเรื่องของการประกันรายได้ ในส่วนของฟินแลนด์กำหนดให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์/บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทย ต้องประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้คนงานไทยโดยวางหลักประกันทางการเงินตามจำนวนที่กรมการจัดหางานกำหนด ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหลังสิ้นสุดฤดูกาลต้องดำเนินการให้คนงานไทยมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 30,240 บาท ส่วนการประกันรายได้ของคนงานที่สวีเดน กรณีคนงานที่ไปทำงานที่สวีเดน สหภาพแรงงานของสวีเดนได้มีเงินประกันรายได้ให้คนงานคนละ 24,000 โครน คิดเป็นเงินไทยกว่า 80,000 บาท ทั้งนี้ หากรายได้คนงานไม่ถึงจำนวนดังกล่าว บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยจะต้องรับผิดชอบในการจ่ายคนงานให้ครบ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายไพโรจน์ ยังกล่าวถึง กรณีกรมการจัดหางานสร้างความน่าเชื่อถือให้เอกชนโดยจัดอบรมให้แรงงานก่อนไปเก็บผลไม้ป่านั้น โดยปกติแล้วกรมการจัดหางานมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่แรงงานไทยทุกคนก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศทุกประเทศอยู่แล้ว อาทิ อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งการอบรมนี้เพื่อให้แรงงานได้เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ของประเทศนั้น ๆ ที่จะไปทำงานเพื่อให้แรงงานได้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง แต่ในส่วนของสวีเดนและฟินแลนด์ บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทย เป็นผู้จัดอบรมเอง และบริษัทฯ ได้เชิญข้าราชการกระทรวงแรงงานไปเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่แรงงานด้วย ไม่ได้มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนแต่อย่างใด

 

 

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในปี 2565 บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยได้จัดส่งคนงานไปเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ประมาณ 10,000 กว่าคน ในจำนวนนี้พบว่า มีแรงงานไทยที่มีปัญหาในเรื่องรายได้ที่ได้ต่ำกว่า 30,000 บาทนั้น มีอยู่ประมาณ 375 คน ซึ่งส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นแรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าเป็นครั้งแรก แรงงานเหล่านี้จึงยังไม่มีประสบการณ์ความชำนาญในการเก็บผลไม้ป่าจึงเก็บได้น้อยทำให้มีรายได้น้อย โดกรมการจัดหางานได้เชิญบริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยมาดำเนินการนำเงินประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายที่บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยวางหลักประกันไว้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จ่ายเงินชดเชยให้แรงงานตามสัดส่วนครบทุกรายแล้ว

 

“กรมการจัดหางานขอยืนยันว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางานมุ่งมั่นทำงานเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศมาโดยตลอด และจากนี้จะยิ่งเพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจติดตาม การประพฤติปฏิบัติต่อแรงงานของบริษัทนายจ้างในประเทศไทย หากพบว่ามีการเรียกรับค่าใช้จ่ายที่ไม่ถูกต้อง เป็นธรรม หรือ การสนับสนุนให้แรงงานก่อภาระหนี้สิน จากเงินกู้นอกระบบ/เครือข่ายผิดกฎหมาย

 

 

ผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบจะต้องได้รับโทษขั้นสูงสุด เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคนที่ไปทำงานต่างประเทศ ตลอดจนคุ้มครองมิให้คนไทยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น