วัน ว. เวลา น . สำหรับการเลือกตั้งก็งวดเข้ามาทุกที ล่าสุดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหนุ นายกฯ ก็ออกมาส่งสัญญาณและให้การยืนยันแล้วว่ารัฐนาวาเรือแป๊ะจะไม่อยู่ครบเทอม ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ นี้แน่นอน แต่จะมีการยุบสภาเพื่อปลดล็อคเงื่อนไขการเป็นสมาชิก ๙๐ วันก่อนวันเลือกตั้งให้กับว่าที่ผู้สมัครทุกคน เผื่อใครจะเปลี่ยนพรรคจะย้ายพรรคใหม่ก็จะไม่ติดเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อยุบสภาเงื่อนไขสังกัดพรรคการเมืองจะถูกลดลงมาจาก ๙๐ วันเหลือแค่ ๓๐ วันซึ่งเพียงพอต่อการย้ายพรรคใหม่ได้
ในส่วนของวันที่บิ๊กตู่จะตัดสินใจยุบสภานั้น ข่าวว่ายังไม่ชัด แต่ก็มีวงในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แผลมๆออกมาแล้วว่าบิ๊กตู่หาฤกษ์ประกาศวันยุบสภาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเดือนมี.ค. โดยมี ๓ วันที่มีความเป็นไปได้มากสุดที่บิ๊กตู่จะประกาศยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน ประกอบด้วยวันที่ ๑๕ มี.ค. ๒๕๖๖ ที่เป็นวันธงชัยซึ่งดีที่สุดหากจะมีการยุบสภาเพราะทุกอย่างจะราบรื่นกับรัฐบาลและมีโอกาสที่บิ๊กตู่จะกลับมามีอำนาจอีก ๒๑ มี.ค.๒๕๖๖ นี้ก็เป็นวันดีเหมือนกันแถมเป็นวันคล้ายวันเกิดของบิ๊กตู่ด้วย เพราะฉะนั้นก็มีโอกาสที่จะยุบสภาในวันนี้เช่นกัน และสุดท้ายก็คือวันที่ ๒๒ มี.ค. ๒๕๖๖ ที่เป็น “วันอธิบดี” ทำการงานอะไรก็จะใหญ่โตมากไปด้วยอำนาจบารมี แถมเลข ๒๒ ยังเป็นเลขนำโชคของบิ๊กตู่ด้วย เพราะเคยทำปฏิวัติรัฐประหาร ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๗ ถ้ายุบสภาวันนี้จริงก็จะเป็นก่อนหน้าครบวาระสภาผู้แทนราษฏรเพียง ๒๔ ชม.พอดี เพราะฉะนั้นก็ค่อยรอลุ้นวัดใจบิ๊กตู่ว่าจะเลือกวันไหน ระหว่าง ๑๕ หรือ ๒๑ หรือ ๒๒ มี.ค.นี้
ในส่วนของการหาเสียงก็เข้มข้นขึ้นทุกขณะ แต่ละพรรคการเมืองก็ทยายเปิดตัวผู้สมัคร นโยบาย และเคาะตัวแคนดิเดตนายกฯกันแทบจะหมดแล้ว พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคาะ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นตัวเลือกอันดับ ๑ เพียงคนเดียว พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หนีไม่พ้น “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล คนเดียว พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ก็เป็น “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือพรรคใหญ่ก็แต่พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่อุบไต๋ยังไม่ประกาศว่าเป็นใคร ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แม้ไม่ประกาศก็แบเบอร์แล้วว่าน่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบิ๊กตู่
ล่าสุดในส่วน “ตัวเก็ง-เต็งหาม” ที่จะเป็นนายกฯคนใหม่ของไทย ทางสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ได้สำรวจคะแนนนิยมของประชาชนต่อผู้นำไทยคนใหม่ โดยทำการศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน ๑๕๗๑ ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ ๑๗- ๑๘ ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า เมื่อถามว่า ” ถ้าเลือกได้จะเลือกใครเป็นนายกฯ” พบว่า คะแนนของคนที่นำออกมาสูสีกันระหว่าง “อุ๊งอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ ๒๘.๕ บิ๊กตู่ ๒๕.๗ อนุทิน ๒๑.๒ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ๑๔.๔จุรินทร์ ๓.๘ และ ลุงป้อม ๒.๗ ที่น่าสนใจคือ เมื่อแบ่งระหว่าง คนกรุงเทพมหานคร กับ คนต่างจังหวัด พบว่าบิ๊กตู่ได้ใจคน กทม. ๓๓ ตจว. ๒๔.๓ แพทองธาร ได้ใจคน กทม. ๒๑.๓ ตจว. ๒๙.๙ อนุทิน ได้ใจคน กทม. ร้อยละ ๙.๒ ตจว. ๒๓.๖ พิธา กทม. ๑๒.๑ ตจว. ๑๔.๕ จุรินทร์ กทม. ๘.๓ ตจว. ๒.๙ ในขณะที่ พล.อ.ประวิตร กทม. ๒.๙ ตจว.๒.๖ เท่านั้น
ใครตามโพลล์มาตลอดจะเห็นได้ว่าการสำรวจก่อนหน้านี้ในลำดับ ๑ ๒ ๓ นั้น คนที่นำมาตลอดในทุกรอบ คือ อุ๊งอิ๊ง พิธา และ กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ขณะทีบิ๊กตู่จะตามมาในอันดับ ๔ ตลอด แต่มาเที่ยวนี้เมื่อหรือเวลาเลือกตั้งไม่นานเกิน ๓ เดือน ปรากฎว่าคะแนนของบิ๊กตู่กลับโผล่พรวดขึ้นมาเป็นอันดับสองในฐานะรองพระเอก แถมมาอยู่หลักเดียวกับอุ๊งอิ๊งชนิดจ่อคอหอยหัวหน้าครอบครัวพท.ลูกสาวคนสุดท้องของโทนี่ ที่คาดว่าน่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพท. แบบมีลุ้นเบียดกันสนุกไปยาวๆ จนถึงเข้าคูหา ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลคะแนนของบิ๊กตู่ขึ้นมาก็มีหลายปัจจัย ประการแรกการออกมาประกาศจะกลับบ้านของโทนี่ทำให้คนกลัวว่าประเทศในมือฝ่ายทักษิณจะฉิบหายวายป่วงอีกเลยขออยู่กับบิ๊กตู่ดีกว่า ประการที่สองผลงาน ๘ ปีเศษของบิ๊กตู่เป็นที่ประจักษ์ชัด ทำเพื่อชาติทำเพื่อคนส่วนใหญ่ไม่มีโกงกิน ประการที่สามบ้านเมืองสงบจบที่ประยุทธ์ ประการที่สี่กลุ่มที่ไม่ตัดสินใจเลือกใครเริ่มตัดสินใจเลือกและจิ้มที่บิ๊กตู่ ที่สำคัญชัดเจนว่าตอนนี้นอกจากคนภาคใต้จะเทใจเลือกบิ๊กตู่แบบหมดหัวใจสุดๆแล้ว คนกรุงเทพฯคนเมืองหลวงจำนวนมากก็เริ่มเห็นความดีของบิ๊กตู่และปันใจมารักพล.อ.ประยุทธ์จนทำให้สนามเมืองหลวงกลายเป็นฐานที่มั่นสำคัญอีกแห่งของบิ๊กตู่ไปเรียบร้อยแล้ว
ด้านลูกสาวคนสุดท้องของโทนี่แม้จะนำในคะแนนตจว.แต่ก็ในอัตราส่วนที่ลดลง ขณะที่ในกทม.เริ่มถูกบิ๊กตู่ค่อยๆทิ้งห่างแต่คนที่มาแรงสุดๆชั่วโมงนี้ก็คือเสี่ยหนูที่ในต่างจังหวัดก่อนหน้านี้ก็ค่อยขึ้นมาแบบเงียบๆ โดยเฉพาะในภาคอีสาน แต่ที่มาแรงสุดก็คือพื้นที่กทม.หลังจากที่เปิดเครื่องสูบดูดส.ส.ต่างพรรคในสนามกทม.มาได้เกือบ 10 คน ทั้งจากพปชร. พท. ก่อนจะประกาศปักหมุดสนามเมืองกรุงให้ได้ ว่าแล้วก็เดินสายตั้งเวทีย่อยหาเสียงกับคนกรุงแบบถี่ยิบ ตรงนี้เลยทำให้ความนิยมของภท.ของเสี่ยหนูจากเดิมในกรุงเทพฯไม่เคยมีเลย ตอนนี้ก็โผล่พรวดขึ้นมาเป็น ตัวเลือกอันดับ ๓ เกาะกลุ่มผู้นำในการลุ้นเป็นนายกฯรอบใหม่นี้ได้เลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทุกครั้งเป็นแค่พระอันดับ ๖-๘ โดยเบียดพิธาตกคูหล่นโพเดี่ยมเป็นเป็นที่ ๔ หลังก้าวไกลมีปัญหาภายในขัดแย้งกันเองแบบพิธาไปทาง ธนาธรไปทาง ปิยบุตรไปทาง ตอนนี้เลยกลายเป็นพรรคที่น่าจะเละที่สุดในการเลือกตั้งรอบหน้า สะท้อนจากคะแนนนิยมของพิธาที่ตกลงมาเป็นลูกไล่กลุ่มผู้นำอย่าง “อุ๊งอิ๊งค์ – บิ๊กตู่- เสี่ยหนู” แล้ว จากนี้ก็ต้องดูว่าในช่วงที่เหลืออีก ๒-๓ เดือนก่อนถึงวันเลือกตั้งจริงๆ ใครจะเลี้ยงกระแสผู้นำพรรคใดจะรักษาคะแนนนิยมของตัวเองได้ดีจนไปถึงการหย่อนบัตรลงหีบในวันเลือกตั้งจริงได้มากที่สุด
///////////////////////////
