“ศักดิ์สยาม” ตอบปมรถไฟฟ้าสายสีส้ม ต้องรอศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ก่อนเสนอครม.

“ศักดิ์สยาม” ตอบปมรถไฟฟ้าสายสีส้ม ต้องรอศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ก่อนเสนอครม.

20 ก.พ.2566 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่าขณะนี้ในส่วนของขั้นตอนกระบวนการได้มีการชี้แจงในห้วงของการอภิปรายซักถามเสนอแนะและข้อเสนอแนะรัฐบาลมาตรา 152 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในเรื่องนี้ เป็นพ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2562 ซึ่งมีด้วยกัน 5 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1-4 เป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) โดยในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะมีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่มีการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

 

โดยขณะนี้ทางด้านรฟม.ได้มีการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการว่าการดำเนินการอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น และเมื่ออยู่ในกระบวนการยุติธรรมทางด้านกระทรวงคมนาคมก็มีนโยบายอย่างชัดเจนว่าจะต้องรอให้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดของกระบวนการยุติธรรมว่ามีผลออกมาเช่นไร ก็พร้อมที่จะปฏิบัติไปตามแนวทางดังกล่าว

 

 

นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการนำเรื่องนี้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่าไปมโนมาก โดยตนเองมองว่า แต่ละฝ่ายมีหน้าที่มีความรับผิดชอบ ตามอำนาจ ตามกฎหมายที่ให้ไว้ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ในการออกกฎหมายเพื่อกำกับรัฐบาล พร้อมเสนอแนะในการทำงาน ไม่ได้มีหน้าที่มาวินิจฉัยแทนอำนาจของตุลาการ เพราะมาทำเช่นนี้ เหมือนไม่เข้าใจอำนาจตัวเอง โดยหลายเรื่องที่ตนได้ชี้แจงในสภาถือว่ามีความชัดเจน แม้กระทั่งเรื่องการลงทะเบียนทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ซึ่งตนเองก็ได้มีการชี้แจงได้ชัดเจน โดยมองว่าท่านที่ไม่เข้าใจอำนาจตัวเองควรไปอ่านรัฐธรรมนูญและกฎหมายด้วย

 

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก ที่จะต้องรอให้คดีสิ้นสุด คือ สิ้นสุดทั้ง 4 คดี ใช่หรือไม่ นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ขณะนี้ประเด็นที่เป็นข้อสงสัย คือ เรื่องของ TOR ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีการชี้มา และขณะนี้คดียังไม่ถึงที่สุด กระทรวงคมนาคมจะรอให้ถึงที่สุด ว่า ศาลจะให้ดำเนินการอย่างไร และที่ได้ดำเนินการมาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งหากศาลวินิจฉัยว่าดำเนินการไม่ถูกต้องก็จะต้องกลับไปทำให้ถูกต้อง จึงจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยืนยันจะต้องรอการวินิจฉัยของศาลเท่านั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

นายศักดิ์สยาม ยอมรับกังวลสายสีส้มด้านตะวันออกใกล้เสร็จแต่ยังไม่มีผู้เดินรถ แต่ขอให้รอข้อยุติดีกว่า ถ้ามีข้อยุติอย่างไร ก็ไปอย่างนั้น ซึ่งมีแนวทางดำเนินการตามระเบียบ ขั้นตอนอยู่แล้ว

 

 

 

 

ส่วนกรณีที่ รฟม.มีการชี้แจงเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีการนัดพิจารณาคดีนั้น นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงาน และไม่ทราบว่าศาลได้นัดและพิจารณาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องภายในของกระบวนการยุติธรรมจึงไม่สามารถก้าวล่วงได้ และไม่มีใครทราบว่าศาลจะวินิจฉัยว่าอย่างไร

 

 

ทั้งนี้หากเป็นรัฐบาลรักษาการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ก็จะต้องนำเสนอต่อกกต. ซึ่งจะมีข้อวินิจฉัยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับกกต. หากเห็นว่า ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และมีความเรียบร้อย ก็จะมีการดำเนินการส่งเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ยืนยันว่า แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการก็สามารถดำเนินการได้ เพียงแต่มีขั้นตอนของกกต. เข้ามาร่วมตรวจสอบเพื่อให้การดำเนินการไม่เป็นภาระของประเทศ และเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเป็นรัฐบาลรักษาการ

ส่วนโครงการของกระทรวงคมนาคม ที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน นายศักดิ์สยาม ระบุว่า การดำเนินการของกระทรวงคมนาคมจะต้องดำเนินการให้ครบทั้ง ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีเวลาในการเสนอในห้วงเวลาที่สภายังอยู่ และรัฐบาลยังเป็นรัฐบาลปกติ ซึ่งหากเป็นไปตามเงื่อนเวลาปกติ คือภายในวันที่ 23 มีนาคม 2566 แต่หากมีการยุบสภาและมีรัฐบาลรักษาการ ก็ยังสามารถที่จะเสนอโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรืออยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงคมนาคมได้ แต่จะต้องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. พิจารณา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการดำเนินการงานของกระทรวงคมนาคม

โดยขณะนี้หลายโครงการได้มีการส่งเรื่องมาให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบให้ความถูกต้อง เพราะไม่ต้องการที่จะเสนอโครงการไปแล้วถูกครม.ตั้งคำถามที่ตอบไม่ได้

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จำนวนท่าเรือ ข้ามแม่น้ำเมยบริเวณอำเภอแม่สอด ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (บ่อนคาสิโน) มีรายงานจากในพื้นที่ว่า ปัจจุบันมีท่าเรือข้ามฟากดังกล่าว อยู่เกือบ 50 ท่าแล้ว กระทรวงคมนาคม ได้รับรายงานเรื่องนี้หรือไม่

 

นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ในเรื่องนี้เป็นการดำเนินการระหว่างประเทศขณะนี้กรมเจ้าท่าพยายามที่จะจัดการประชุมเพื่อหาความร่วมมือและเจรจาในการกำหนดวิธีการรวมถึงมาตรการขออนุญาติในการดำเนินการท่าเรือข้ามฝาก ซึ่งฝั่งของประเทศไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ คาดว่าการเจรจาจะก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดี แต่หากมีข้อกังวล หรือมีข่าวที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ สามารถแจ้งมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมทวิภาคีของทั้งสองประเทศต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น