นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐได้แจ้งให้รัสเซียทราบว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเดินทางไปยูเครน โดยสหรัฐได้มีการแจ้งล่วงหน้าหลายชั่วโมง ก่อนที่ไบเดนจะออกเดินทาง เพื่อจุดประสงค์ในการลดความขัดแย้ง อย่างไรก็ดี ซัลลิแวนก็ไม่ได้ระบุว่า ทางรัสเซียตอบสนองถึงเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งในเวลาต่อมา ทางด้านของอดีตประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ก็ได้โพสต์ผ่านช่องเทเลแกรมของตัวเองว่า ไบเดนได้รับการรับประกันความปลอดภัยจากรัสเซียเรียบร้อยแล้ว สำหรับการไปเยือนยูเครน
ทั้งนี้ ซัลลิแวนได้ระบุต่อว่า ไบเดนได้ทำการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่าจะเดินทางไปยูเครน หลังจากมีการหารือกับที่ปรึกษาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สำหรับการเยือนครั้งนี้ มีการเตรียมการมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งจากฝ่ายกลาโหมของสหรัฐ รวมถึงหน่วยข่าวกรอง ก็ได้มีการรายงานสรุปมาถึงไบเดนอย่างสม่ำเสมอ เกี่ยวกับการเตรียมการ และยังมีการประเมินภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ซัลลิแวนยังได้เน้นว่า นี่เป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคปัจจุบัน ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเดินทางไปเยือนเมืองหลวงของประเทศที่เกิดสงคราม ทั้งๆที่เมืองนั้น กองทัพสหรัฐ ไม่ได้เข้าควบคุมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญใดๆเลย ไบเดนต้องการให้การเยือนครั้งนี้ เป็นการส่งข้อความที่ชัดเจน ถึงการสนับสนุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงของสหรัฐ ที่มีต่อยูเครน
สำหรับการเดินทางของไบเดนนั้น ไบเดนได้เดินทางร่วมไปกับผู้ช่วยอาวุโสเพียงไม่กี่คนและนักข่าว 2 คน ทั้งกลุ่มออกจากฐานทัพร่วมแอนดรูว์ ของรัฐแมรี่แลนด์ ในช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ โดยมีการแวะจอดพักที่ฐานทัพอากาศแรมสไตน์ในเยอรมนี ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังยูเครน
และสำหรับการพบกันของไบเดน และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนนั้น ทั้ง 2 ได้มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาที่ยูเครนกำลังเผชิญ ทั้งในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน, การให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ, และความต้องการด้านมนุษยธรรม โดยไบเดน ใช้เวลาอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนประมาณ 5 ชั่วโมง และขณะนี้ ไบเดนได้เดินทางไปถึงโปแลนด์ ตามกำหนดการที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้า เรียบร้อยแล้ว