เปิดตัวลงเล่นการเมืองมาปีเศษแล้วตั้งแต่ ๒๘ ต.ค.๒๕๖๔ สำหรับ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องของโทนี่นักโทษหนีคดีแดนไกล ที่ปัจจุบันอุ๊งอิ๊งรั้งตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พ่วงประธานการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม แม้ตอนนี้พรรคเพื่อไทย(พท.) คอกทักษิณจะยังไม่ประกาศแคนดิเดตนายกฯของพรรคออกมา แต่เชื่อแน่ว่า ๑ ใน ๓ ของบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยจะต้องมีชื่อทายาทนายห้างอย่างแน่นอน เพราะเป็นสายเลือดทางการเมืองที่ทักษิณไว้วางใจที่สุดและเชื่อใจที่สุดถึงขนาดเคยบอกว่าถ้าจะกลับมาเมืองไทยจะกระซิบบอกอุ๊งอิ๊งเพียงคนเดียว
ตลอดระยะเวลาปีเศษที่เปิดตัวทำงานการเมืองในนามพท. ต้องบอกว่าตัวของแพทองธารเองสร้างความฮือฮาให้คนในแวดวงการเมืองได้มากพอสมควร แต่ไม่ได้ถึงขั้นสะเทือนวงการ เพราะอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าฝ่ายโทนี่หมดตัวเล่นแล้ว ในบรรดาลูก ๓ คนก็มีแต่แพทองธารนี้แหละที่ดูเข้าเค้า น่าจะเป็นความหวังให้ทักษิณได้มากที่สุด ทักษิณใช้โมเดล “นายกฯน้องสาว” เอาสูตรสำเร็จตอนดัน “เจ๊ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯสำเร็จมาใช้กับลูกสาวคนเล็ก สมัยตอนยิ่งลักษณ์ลงชิงชัยนายกฯก็ใช้เวลาหาเสียงเพียงแค่ ๔๙ วันเท่านั้นก่อนจะผงาดเป็นนายกฯหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของไทย และเป็นผู้นำคนที่ ๒๘ ของไทย
ความจริงการที่โทนี่เดินตามสูตรสำเร็จยิ่งลักษณ์เพื่อปูทางให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯก็ไม่น่าจะมีอะไรผิด เพียงแต่ในรายละเอียดของเจ๊ปูกับอุ๊งอิ๊งนั้นมีเรื่องที่แตกต่างกันและกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบมาพูดถึงพอสมควร ยิ่งลักษณ์กระโดดลงเล่นการเมืองตอนนั้นด้วยวัย ๔๔ ปี แถมก่อนหน้านั้นก็ทำธุรกิจมามากพอสมควร มีประสบการณ์บริหารงาน บริหารคน เพราะเคยเป็นถึงระดับประธาน บ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และเป็น ประธานกรรมการบริหาร บ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เรียกว่าเก๋าเกมพอสมควรและมีประสบการณ์คุมธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้ว เพราะเป็นซีอีโอ ๒ บริษัทยักษ์ใหญ่ แม้จะถูกมองว่าโตมาจากการเป็นน้องโทนี่ก็ตาม ผิดกับแพทองธารที่เข้ามาเล่นการเมืองตอนอายุ ๓๔ ปี ปัจจุบันอายุ ๓๖ ปี ไม่เคยผ่านประสบการบริหารธุรกิจใหญ่ๆ ส่วนมากจะเป็นผู้ถือหุ้นซะส่วนใหญ่ อาทิ ผู้ถือหุ้นอันดับ ๑ ของ บ.เอสซี แอสเสท ฯ โรงแรมโรสวู๊ด กทม. , เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ เดอะซิสเตอร์ เนลส์ แอนด์ มอร์ ในปี ๖๕ มีการประเมินการถือหุ้นใน ๒๑ บริษัทของอุ๊งอิ๊งว่ามีมูลค่าราว ๖.๘ หมื่นลบ.
เรื่องอายุกับประสบการณ์นี้แหละที่ทำให้แพทองธารมีปัญหาคาใจ เพราะคนไทยหลายคนยังคิดว่าเธอยัง “มือไม่ถึง” แม้จะเก่งเป็นคนรุ่นใหม่หัวคิดทันสมัย แต่ยังขาดความเก๋า ประสบการณ์ ลูกล่อลูกชน ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำหน้าที่นายกฯ ช่วงหลังพอใกล้ถึงวันเลือกตั้งเข้าคูหาจริงๆ ปรากฎว่าคะแนนนิยมของอุ๊งอิ๊งก็เลยตกลง ส่วนหนึ่งเกิดจากคุณสมบัติที่ว่าของเธอ แต่อีกส่วนก็มาจากพ่อโทนี่ ที่ “นิ่งไม่พอ รอไม่เป็น” ดันออกมาพูดเรื่องจะกลับไทยปีนี้ โดยไม่พึ่งกฎหมาย ไม่ใช่บริการพท. ไม่ไปเลียตีนลูบขาพล.อ.ประวิตร ไม่ง้อพปชร. พลอยทำให้คนไทยตกใจว่าบ้านเมืองจะกลับมาวุ่นวายอีกแน่ แถมระยะหลังในการขึ้นเวทีปราศรัยแกนนำพรรคพท.ก็ส่งสัญญาณจะเอาโทนี่กลับไทย พูดแต่เรื่องพาพ่อแม้วกลับบ้านตลอดแทนที่จะหาเสียงเรื่องปากท้องชาวบ้านชูนโยบายช่วยคน ชาวบ้านได้ยินก็เลยขยาด ถ้าเลือกอุ๊งอิ๊งทักษิณมาแน่ นอกจากนี้การที่พท.ยังกั๊กไม่ยอมเปิดตัวเสียทีว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพท.ก็เลยทำให้ไม่มีการพูดถึงคุณสมบัติ จุดเด่น จุดขาย ตัวตนของแพทองธารให้ชาวบ้านรู้แบบชัดๆกันไปเลยว่าจะเป็นนายกฯคนใหม่ การกั๊กแบบนี้เลยทำให้ส่งผลเสียกับตัวอุ๊งอิ๊งเอง เพราะทำให้การรับรู้การโปรโมตตัวอุ๊งอิ๊งทำได้น้อย ส่งผลให้ชาวบ้านไม่รู้จักไม่ผูกพัน
ไม่แปลกที่ผลโพลล์หลายสำนักล่าสุดคะแนนของอุ๊งอิ๊งแม้ยังอาจจะนำอยู่แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์ลดลง นอกจากนี้ยังถูกบิ๊กตู่กับเสี่ยหนูตามจี้มาติดๆ จากแต่ก่อนที่ห่างกันเป็นวาตอนนี้ตามมาจี้คอหอบแล้ว ด้วยเหตุที่แพทองธารคะแนนตก กระแสพท.ไม่พุ่งอย่างทีควรจะเป็น จึงมีความพยายามจะผ่าทางตันจากแกนนำพท.เสนอให้พรรคเอาตัวแม่อย่าง “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ณ ป้อมเพชร นายหญิงเจ้าแม่ตัวจริงเสียงจริงของพท.มาลงสนามให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย โดยเฉพาะ เกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทยสายอีสานถึงขนาด ปราศรัยตอนหนึ่ง บนเวทีโรงเรียนมัธยมเดชอุดม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อ ๑๗ ก.พ.ที่ผ่านมาความว่า ” ปีที่แล้วได้คุยกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ คุณแม่ของน.ส.แพทองธาร ถึงบ้าน เพื่อไปชวนคุณหญิงพจมาน มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่ช่วงนั้นท่านปฏิเสธ ผมจึงเรียนกับท่านตรงๆ ว่า ไม่มีใครที่จะมีความรู้ความสามารถที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในยุคนี้ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยรวมบุคคลหลายสาขาทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ทุกคนต่างให้การยอมรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถ้าเอาคนอื่นที่ไม่ใช่ชินวัตรเข้ามาเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก็ไม่มีทางรวมพวกเราไว้ได้ วันนี้เพื่อไทยโชคดีที่น.ส.แพทองธาร ตัดสินใจลงเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯของเรา ที่ผ่านมาที่เป็นพรรคพลังประชาชน จนมาเป็นพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้ เคยเอาคนที่ไม่ใช่ตระกูลชินวัตรมาอยู่ แต่ก็ไม่สามารถตุ้มโฮมพวกเราชาวเพื่อไทยได้”
เกรียงเป็นเด็กในคาถาของคุณหญิงพจมานปปีก่อนนู้นก็เคยแนะนำทักษิณให้เอาเมียมาคุมพรรค แต่โทนี่ก็บอกว่าไม่เหมาะ เพราะคุณหญิงไม่ชอบออกหน้า พูดแบบนี้เอาจริงๆก็คงไม่ทำให้คุณหญิงพจมาน ที่ปัจจุบันอายุ ๖๖ ปี เป็นระดับนางพญามังกรผู้นำคอกตัวจริง กระโดดลงมาเล่นการเมืองเป็นแคนดิเดตนายกฯของพท.ในคราวนี้หรอก เพราะระดับคุณหญิงอ้อคงไม่ลงมาเกลือกกลั้วให้คนด่า แต่เรื่องนี่้มันก็สะท้อนให้เห็นว่าในพท.ไม่มั่นใจอุ๊งอิ๊งเลย และยิ่งแล้วใหญ่ถ้าโทนี่หรือแกนนำพรรคตัดสินใจชูคนอื่น อย่าง “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอสแสนสิริ หรือ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.ตปท. เพราะบารมีคงไม่พอรับมือบรรดา “เสือ สิง กระทิด แรด” สารพัดพิษในพรรคดาวเทียมได้ ไปๆมาๆ ตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ คนที่จะไปเป็นหัวให้พท.ชงเก้าอี้สร.๑ ก็ทำให้โทนี่วุ่นวายไม่น้อยเช่นกัน อุ๊งอิ๊งก็ไม่แรงจริง เสี่ยนิดกก็ห่างพรรครากหญ้าไม่รู้จัก สุรเกียรติ์ก็สูงไปชาวบ้านจับต้องยากเดินตลาดหาเสียงไม่ได้ ทั้งหมดจึงกลายเป็นเรื่องปวดกบาลโทนี่ก่อนการเลือกตั้ง
/////////////////
