สุดหดหู่ “มูลนิธิกระจกเงา” เผยอีกมุมของ “นิ่ม” ปูมหลังชีวิต ก่อนก่อเหตุสลดกับ “น้องต่อ”

สุดหดหู่ "มูลนิธิกระจกเงา" เผยอีกมุมของ "นิ่ม" ปูมหลังชีวิต ก่อนก่อเหตุสลดกับ "น้องต่อ"

หลังจากที่มีรายงานความคืบหน้าคดีการหายตัวปริศนาของเด็ก “น้องต่อ” วัย 8 เดือน หลังแม่ของเด็กรับสารภาพแล้วว่า ทำลูกพลัดตกจากมือ เสียชีวิตนั้น

จากการสอบปากคำแม่ของหนูน้อยวัย 8 เดือน ที่ สภ.บางหลวงเสร็จสิ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ก่อนจะคุมตัวแม่เด็กไปฝากขังที่ศาลเยาวชนฯ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา คือ 1.ซ่อนเร้นอำพรางศพ

2.ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

3.แจ้งข้อความเท็จต่อเจ้าพนักงาน

โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเวลา 10.30 น. วันพรุ่งนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2566) อีกครั้งนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดนครปฐม ได้อนุญาตให้ประกันตัว น.ส.นิ่ม ในวงเงิน 9,000 บาท โดยมีนายสาน คุ้มพิมพ์ อายุ 58 ปี พ่อของ น.ส.นิ่ม เป็นคนยื่นประกัน พร้อมกับมี เจ้านายของ นายสาน เป็นผู้ค้ำประกัน โดยมีเงื่อนไขต้องมารายงานตัวตามนัด และรายงานตัวกับเจ้านายพ่อตามที่ศาลกำหนด จากนั้นญาติได้มารับ น.ส.นิ่ม ไปอยู่ในความดูแลของครอบครัวต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของ “นิ่ม แม่น้องต่อ” หลังจากเจ้าตัวเจอกระแสโซเชียลถล่ม ทั้งเรื่องความคิดในการนำลูกไปทิ้งน้ำ หรือการโกหกในเรื่องให้ปากคำก่อนหน้านี้ โดยมีข้อความระบุว่า

 

 

“หนูไม่เคยมีความฝัน ตอนเด็กๆ ไม่เคยคิดฝันว่าอยากเป็นอะไร แค่คิดว่าจะได้ทำงานที่พอเลี้ยงตัวเองได้ ไม่คิดมีความฝันว่าจะเป็นอาชีพอะไร ต้องเป็นหมอ ต้องเป็นพยาบาล หนูไม่เคยคิดไปไกลขนาดนั้น ดูความเป็นอยู่ของที่บ้านหนูสิ หนูคิดว่าหนูไปถึงตรงนั้นไม่ได้”

“หนูไม่มีบ้าน เกิดมาไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง อยู่แต่บ้านเช่า และบ้านในบ่อปลา ที่พ่อรับจ้างเฝ้าบ่อ หนูอยู่ในครอบครัวที่ลำบากตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีความพร้อมอะไรสักอย่าง สมัยก่อนพ่อทำงานอยู่ในโรงรับซื้อของเก่า บางวันหนูก็ไปช่วยพ่อคัดแยกขวด”

“หนูไม่เคยมีเพื่อนสนิท มีแค่เพื่อนที่รู้จักกัน อาจไปไหนด้วยกันบ้าง แต่ไม่เคยได้รู้เรื่องส่วนตัว ไม่สนิทกันจริง ๆ เพราะตอนที่อยู่โรงเรียนไม่ได้มีอะไรได้ทำด้วยกัน”

“ที่โรงเรียน หนูโดนบูลลี่ ทั้งคำพูด และการกระทำ เพื่อนที่โรงเรียนทำเหมือนหนูไม่มีตัวตน เป็นอากาศ หนูก็ต้องอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว มันเลยรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน พ่อก็ถามว่าวันนี้ไม่ไปโรงเรียนเหรอ หนูก็ตอบว่าไม่อยากไปแล้ว ลึกๆใจอยากเรียนนะ แล้วผลการเรียนหนูก็ไม่ได้แย่นะ”

“หนูแทบไม่เคยกอดแม่เลย ไม่ได้แสดงความรักต่อกัน ตั้งแต่หนูอยู่ชั้นประถม แม่หูตึง พูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน ทำให้พอเราคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ค่อยๆ ห่างกันไป เหมือนไม่สนิทกัน อยู่ด้วยกันในบ้านแต่เราอยู่กันแบบห่าง ๆ จนแม่ล้มป่วยติดเตียงก็ได้ดูแลแม่มากขึ้น พาไปกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล”

“หนูรักพ่อนะ มีอะไร ก็มาบอกพ่อ คุยกับพ่อ แต่ไม่ชอบเวลาพ่อกินเหล้าเมาแล้วโวยวาย หนูเห็นพ่อทะเลาะกับแม่ตลอด มันบ่อยมาก เห็นตั้งแต่เด็ก ๆ หนูไม่ชอบเลย ตอนเล็ก ๆ หนูนั่งร้องไห้ พยายามขอร้องให้พ่อหยุด แต่เขาก็ไม่หยุด”

“หนูร้องไห้บ่อยมาก จะหยุดก็ตอนเขาเลิกทะเลาะกัน พอหนูโตขึ้น ความรู้สึกมันก็ชาชิน ชินแต่เจ็บปวด ยายบอกว่า ปล่อยเลย มึงไม่ต้องไปสนใจว่าเขาจะทะเลาะ เดี๋ยวเขาก็หยุดกันเอง แต่ในใจหนูมันก็ยังร้องอยู่ จากหยุดร้องไห้กลายเป็นไปด่าพ่อแทน เหมือนเราเริ่มเป็นปากเป็นเสียงให้กับแม่ รู้สึกว่าบ้านหนูไม่มีความสุขเลย”

“ความสุขของหนู มันคือการออกมานอกบ้าน ตั้งแต่มาอยู่กับพุดได้ใช้ชีวิตอยู่เอง ถ้าหนูมีอะไรไม่สบายใจ เขาก็จะพูดให้หนูสบายใจ เหมือนเป็นหลักในชีวิต ที่คุยกันได้ ปรึกษากันได้”

“ตอนคลอดน้องต่อ เจ็บท้องมาก เป็นความเจ็บที่สุดในชีวิต ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีน้อง แต่หลุดมา รู้ตัวว่ามีลูกตอนท้องได้เดือนนึง พอรู้ หนูตั้งใจเก็บไว้ คิดว่ามีก็มี ไม่เคยคิดว่าจะเอาเขาออก เราไม่มีเงินเก็บสำหรับคลอดลูกเลย เราไม่มีอะไรเลยจริงๆ มีแต่ของที่คนอื่นให้มา ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหนูก็ยังไม่มีอะไรเลย”

“ถามว่า ถ้ากลับไปแก้ไขอดีตได้ จริง ๆ มันก็แก้อะไรไม่ได้แล้ว วันนี้เป็นวันที่หนูรู้สึกไม่เหลือใคร ไม่เหลือใครจริง ๆ”

น้องนิ่ม เด็กหญิงวัย 17 ปี
ให้สัมภาษณ์เมื่อค่ำวันที่ 23 ก.พ. 66

ทั้งนี้เพจมูลนิธิกระจกเงาได้ชี้แจงว่า ทีมงานได้สัมภาษณ์น้องนิ่ม โดยการขออนุญาตและแจ้งช่องทางเผยแพร่ สัมภาษณ์เมื่อ 23 ก.พ. 2566 เมื่อเรียบเรียงบทความเสร็จในวันรุ่งขึ้น ทีมงานตัดสินใจไม่เผยแพร่ เนื่องจากช่วงเวลานั้นมีกระแสข่าวค่อนข้างรุนแรง เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงวันนี้แล้ว จึงขอลงบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ เพื่ออยากให้สังคมได้มองเห็นว่าเส้นทางการมีชีวิตของเด็กหญิงคนนึงก่อนที่จะมาสู่ผู้กระทำความผิดในวันนี้มีรากฐานและเติบโตขึ้นมาจากสิ่งใด

 

 

 

 

ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก : มูลนิธิกระจกเงา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สก.นภาพล" ชงสภากทม. ชี้จำเป็นลดภาระดอกเบี้ยวันละ 5 ล้าน ควรยึดคำพิพากษา "ศาลปกครองสูงสุด" เร่งชำระหนี้ BTS งวด 2 กว่า 2 หมื่นล้าน
ผู้นำจีนลั่นจะยกระดับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเอเชีย
“พิพัฒน์” ย้ำดูแลผู้ประสบภัยเหตุตึกสตง.ถล่ม พร้อมรับข้อเสนอ ส.ส.ผลักดันมาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
กลุ่ม ปตท. จับมือกับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จุดประกายอนาคตนักวิทย์ไทย ผ่านโครงการส่งเสริมสะเต็มศึกษา 2568
รองผบช.น. เผยสอบพยานแล้ว 98 ปาก เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง "ตึกสตง." ถล่ม เร่งตรวจวัตถุพยานที่เกิดเหตุ
"สหพัฒนพิบูล" ชวนชอปคลายร้อน ต้อนรับซัมเมอร์ สหพัฒน์เดลิเวอรี พร้อมส่งตรงความสุขถึงหน้าบ้านด้วยโปรโมชันส่งฟรี
"บ.ไชน่าเรลเวย์" ล้มโต๊ะเจรจาค่าจ้าง ปัดไม่เคยค้างเงิน ด้าน "9PK" โชว์เอกสารเบิก ขอช่วยจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน
"อนุทิน" แจง "ไชยชนก" ผิดคิว แสดงจุดยืนค้านกม.กาสิโน พร้อมเคลียร์นายกฯ เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติภูมิใจไทย
"DITP" เชิญสื่อนานาชาติร่วมสัมผัสศักยภาพสินค้าไทย ในงาน "STYLE Bangkok 2025" ที่ศูนย์สิริกิติ์ ดันสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก
ทริสเรทติ้งประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่กระทบ คงอันดับเครดิตองค์กรสูงสุด ให้ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ ทิพยประกันภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น