ตร.ไทยปิดจ๊อบ! จับมือฆ่าแหม่มสวิสฯ สารภาพหมดเปลือก สอบประวัติพบเคยต้องคดีมาแล้ว

ตร.ไทยปิดจ๊อบ! จับมือฆ่าแหม่มสวิสฯ เจ้าตัวสารภาพหมดเปลือก พบเคยต้องคดีมาแล้ว

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 พบศพ นางนิโคล ซอเวน ไวซคอฟ (Nicole Sauvain Weisskopt ) อายุ 57 ปี สัญชาติ สวิสเซอร์แลนด์ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการมาพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวในโครงการ ” Phuket Sandbox ” บริเวณ ชั้น 3 บนน้ำตกโตนอ่าวยน หมู่ที่ 8 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

เวลา 10.30 น. พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวจับกุมคนร้ายบัญชีดำ ฆ่าชิงทรัพย์ นักท่องเที่ยวสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ ภูธรจังหวัด จังหวัดภูเก็ต พร้อมเผยไทม์ไลน์ชี้แจงกับสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งคดีนี้มีผลกระทบต่อโครงการ ” Phuket Sandbox ” ที่นายกรัฐมนตรีฯ ได้เดินทาง มาเป็นประธานพิธีเปิดเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ซึ่งผู้ตายได้เดินทางมาประเทศไทยใน วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เข้าโครงการ ” Phuket Sandbox ” ครบกำหนดอนุญาตอยู่ในประเทศถึง วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ในระหว่างที่พักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆทั้งในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง

 

ต่อมา วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 11.30 น. ผู้ตายได้ออกจากโรงแรมที่พัก บริเวณอ่าวยนเพียงลำพัง เดินเท้าไปตามถนนมุ่งหน้าน้ำตกโตนอ่าวยน ไปถึงบริเวณทางเข้าน้ำตก เวลาประมาณ 11.49 น. โดยระหว่างทางมีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ตายได้ตลอดเส้นทาง และไม่ได้กลับออกมาจากที่เกิดเหตุอีกเลย

จนกระทั่ง เวลา 14.00 น. วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบศพ นางนิโคล ซอเวน ไวซคอฟ นักท่องเที่ยวในโครงการ “ Phuket Sandbox ” เสียชีวิตอยู่บริเวณ ชั้น 3 บนน้ำตกโตนอ่าวยน หมู่ที่ 8 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อกล้ามสีครีมและมีเสื้อแจ็คเก็ตพันอยู่รอบเอว ท่อนล่างเปลือยเปล่าถูกผ้าพลาสติกสีเข้มข้นศพคลุมปิดไว้ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต เข้าตรวจสอบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบูรณาการร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน จนตรวจพบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ ขึ้นไปน้ำตกโตนอ่าวยน เวลา 11.00 น. ของวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ก่อนหน้าผู้ตายจะมาถึงประมาณ 12 นาที และอีกประมาณ 3 ชั่วโมง ผู้ต้องสงสัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกจากที่เกิดเหตุ

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมีความมั่นใจว่าเป็นคนร้ายจึงทำการติดตามจนทราบรายละเอียดรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ หมายเลขทะเบียน ขมข 493 ภูเก็ต ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง มี นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่ อยู่บ้านเลขที่ 11/7 หมู่ที่ 3 ตำบลปากคลอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าของ มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จึงได้เชิญตัวมาทำการซักถาม โดยให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฎอยู่ในภาพวงจรปิด

 

จากการตรวจสอบตามร่างกาย นายธีรวัฒน์ พบมีรอยแผลที่เพิ่งเกิดหลายแห่ง สภาพบาดแผลประมาณ 4 – 5 วัน จากการซักถาม พบมีพิรุธไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ ให้การวกไปวนมาอยู่หลายชั่วโมง จน นายธีรวัฒน์ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง โดยให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากที่ได้เดินขึ้นไปบริเวณชั้นบนของน้ำตกโตนอ่าวยน เพื่อไปหากล้วยไม้พืชพันธุ์ต่างๆนำมาขายแต่ไม่เจออะไร จึงเดินกลับลงมาพบ นางนิโคล ซอเวน ไวซคอฟ นั่งอยู่ บริเวณโขดหินน้ำตก ชั้น 3 สภาพถอดกางเกงเลยยืนแอบดูอยู่สักครู่ แล้วตัดสินใจเดินอ้อมไปด้านหลังใช้มือทั้งสองข้างล๊อคคอผู้ตายจึงเกิดการต่อสู้ขัดขืนจนตกลงไปในแอ่งน้ำด้วยกัน ต่อมาผู้ตายนอนคว่ำหน้าแน่นิ่ง นายธีรวัฒน์ เลยคิดว่าเสียชีวิตแล้วแน่นอน จึงใช้พลาสติกสีเข้มที่อยู่ในบริเวณนั้นมาคลุมปิดศพไว้เพื่ออำพราง และใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่ง แล้วเก็บเงินจำนวน 300 บาท เข้ากระเป๋ากางเกงก่อนนำกระเป๋าเป้ไปซ่อนไว้ที่บริเวณหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าของตายได้โยนทิ้งห่างจากศพผู้ตายออกไป จากนั้นได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ระหว่างทางได้นำเงินที่หยิบติดมามาแวะซื้อน้ำส้มที่ร้านขายของชำ ราคา 30 บาท และ น้ำแข็ง 10 บาท จากนั้นนำเงินที่เหลือ 260 บาท เอาซื้อกัญาชามาดูดกับเพื่อน แล้วค่อยกลับที่พัก

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้เดินทางเข้าจับกุม นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับที่ 219/2564 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2564 โดยกล่าวหาว่า ” ฆ่าผู้อื่น ” และ ” ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ” นายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ยังพบว่า นายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหา เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ภ.จว.ภูเก็ต จับกุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ในความผิด ” ครอบครองยาเสพติดให้โทษ (แมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย “ตามคดีอาญาที่ 1278/2563 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 2 ปี อยู่ระหว่างคุมความประพฤติ 1 ปี

 

 

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้คลี่คลายลงได้ โดยใช้เวลาไม่กี่วัน ต้องขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่มาเข้าร่วมในการสืบสวนสอบสวน หาคนร้าย โดยเฉพาะชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 8 ที่ทำงานกันอย่างหนัก จนสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้โดยเร็ว ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยร่วมมือกันแสดงความรับผิดชอบไม่ไปรบกวนกับผู้เสียชีวิตและญาติขอเน้นย้ำเรื่องนี้ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ประชาชนเชื่อมั่นประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว โครงการ ” Phuket Sandbox ”

 

 

ด้าน นายยัน แคธเนอร์ ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามทุ่มเทกำลังสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดจนคลี่คลายคดีได้สำเร็จ ตนเชื่อมั่นว่าการทุ่มเทจัดการทำงานหนักของชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้ ผบ.ตร. คนนี้บรรลุสำเร็จผ่านไปได้อย่างงดงาม ตนจึงอยากขอขอบคุณหน่วยงานราชการไทย สำหรับการทุ่มเททำให้จังหวัดภูเก็ต กลับมาเป็นจังหวัดพื้นที่ปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิชัย" นำทีมพณ.เจรจา รมต.การค้า 7 เขตเศรษฐกิจเอเปค เพิ่มเชื่อมั่นไทยเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าอุตฯสมัยใหม่
หนุ่มเจ้าของบริษัท ผวา พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องรถยนต์เก๋ง
แนะยุบ กกต.ทิ้ง เทพไท แฉ เลือกตั้ง อบจ.เมืองคอนซื้อเสียงเปิด เผย โวย กกต.นั่งดูตาปริบๆ แนะยุบทิ้งดีกว่ามั้ย
"เชน ธนา" พาสื่อทัวร์โกดัง ยันสินค้าอยู่ครบ ไม่ได้แอบขายเอาเงินไปใช้ตามข่าว ย้ำชัดไม่ได้โกงคู่กรณี
ตร.จ่อเรียก “เอก สายไหมฯ” สอบอีกครั้ง หลังให้การขัดแย้งพยาน
"สปป.ลาว" ออกแถลงการณ์ "เสียใจสุดซึ้ง" ปม นทท.เสียชีวิตดื่มเหล้าเถื่อน ยันเร่งนำตัวคนร้ายมาลงโทษ
บุกจับ ! พ่อค้ายากระโดดระเบียง สูงกว่า 2.5 เมตร หนี คิดว่าจะหนีรอด เพราะ ปลัดหน้าไม่โหด
ไฟไหม้ ! ร้านกาแฟวอดหมดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่คาดสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรมูลค่าความเสียหายกว่า 700,000 บาท
ทั้งเจ็บ ทั้งจำ หนุ่ม เบญจเพสซวยสองเด้ง ถูกวัยรุ่นทำร้าย ถูกจับพกยาไอซ์ซ้ำ
หนุ่มจิตเวชคลั่ง จุดไฟ-ถือมีดขู่ชาวบ้าน ตำรวจกู้ภัยระงับเหตุทันควัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น