วานนี้ (28 ก.พ.2566 ) หลังประชุมครม.ที่ ทำเนียบรัฐบาลแล้วเสร็จ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นร้อนๆทางการเมืองหลายเรื่อง ประเด็นแรกคือเรื่องวัน ว. เวลา น.ในการยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน ที่ตอนนี้ยังแกว่งอยู่ยังไม่แน่ว่าบิ๊กตู่จะเลือกวันไหนแน่ แต่ก็มีวันที่เก็งกันไว้อยู่ 3 วัน คือ 1. วันพุธที่ 15 มี.ค.2566 ที่เป็นวันธงชัย ทำอะไรก็สำเร็จลุล่วงไปหมด 2. วันอังคารที่ 21 มี.ค.2566 ที่เป็นวันอธิบดีคิดการใหญ่ใดๆก็สำเร็จ จะมีพวกมากมีบริวาร แถมยังตรงกับวันประชุมครม.นัดสุดท้ายของรัฐบาล และตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 69 ปีของบิ๊กตู่ด้วย และ 3. วันพุธที่ 22 มี.ค.2566 ที่เป็นวันธงชัยเช่นกัน แถมเป็นวันเลขสวย เพราะ 22 เป็นเลขนำโชคของพล.อ.ประยุทธ์ที่เคยใช้รัฐประหาร 22 พ.ค.2557 มาแล้ว ประเด็นนี้บิ๊กตู่ตอบสื่ออย่างเผ็ดร้อนหลังเซ้าซี้ไม่หยุดในเรื่องวันยุบสภา โดยเฉพาะเมื่อถูกถามว่าอาจเลือกยุบสภาในวันที่ 21 มี.ค. ให้ตรงกับวันเกิดพอดี “ ก็เป็นวันเกิดของผมไม่ใช่หรือ แล้วทำไมจะต้องยุบในวันเกิดของผมล่ะ …..อ๋อ ให้เป็นของขวัญของผม เพราะคนเขารังเกียจผม หรืออย่างไร จะให้ยุบสภา เอาผมออกไป เพราะว่าเป็นวันเกิดของผมหรืออย่างไร ที่สื่อพูดหมายความว่าอย่างนั้น….เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น สื่อจะรีบร้อนอะไรกันนักหนา”นายกฯระบุ แถมประชดว่ายุบสภาพรุ่งนี้เลยไหม
นอกเหนือจากประเด็นยุบสภาวันไหนที่ถูกสื่อไล่ถามจนขัดใจ ประเด็นเรื่องที่ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทย ออกมาไล่บี้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รวมถึงลูกพี่ใหญ่อย่างเนวิน ชิดชอบ และ น้องชายอย่าง “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ทั้งเรื่องเรียกรับผลประโยชน์รถไฟฟ้าสายสีส้มหลายหมื่นล้านบาท เรื่องความไม่ชอบมาพากลประมูลงานของกระทรวงคมนาคม นโยบายกัญชาเสรีแต่มีการปลูกกัญชาไว้ที่บุรีรัมย์หลายแสนไร่ สารพัดเรื่องจิปาถะที่ชูวิทย์ออกมาปาดอนุทินซัดเนวินอัดศักดิ์สยาม ลามปามไปถึงพรรคภูมิใจไทยว่าเป็น “ศัตรูของชาติ” ที่ชูวิทย์ถึงขั้นประกาศจะตามล้างตามเช็ดเผารังหนูบุกรังพี่เนถึงบุรีรัมย์ ที่ประเด็นนี้ฝ่ายพรรคภูมิใจไทยมองว่ามีคนอยู่เบื้องหลังความบ้าของชูวิทย์ในครั้งนี้แน่นอน ไม่งั้นไม่กล้าออกมาเปิดศึกกับเสี่ยหนูถ่มน้ำลายรดรูปภาพของครูใหญ่เนกับน้องโอ๋ทำการห้าวหาญถึงเพียงนี้
ภูมิใจไทยโฟกัสไปที่เบอร์ให้ 3 คนที่ให้ท้ายชูวิทย์ออกมาป่วนรอบนี้ หนึ่งคือ “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ อดีตนายทหารผู้กว้างขวางน้องรักบิ๊กตู่ อีกคนคือ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง และ รองผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่ชูวิทย์รักและให้ความเคารพเป็นอย่างมาก อีกคนก็คือบิ๊กตู่ที่ถูกมองว่าปากว่าตาขยิบกับเรื่องนี้ ที่งานนี้บิ๊กตู่ออกมายืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ” เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผม ผมเป็นนายกฯ จำเป็นต้องรักษาความเป็นพรรคร่วมอยู่แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลร่วมกันมาเกือบ 4 ปีแล้ว ในส่วนของพรรคการเมืองก็ได้ให้นโยบายไปแล้วว่าจะไม่ไปก้าวล่วงใครทั้งสิ้น เราต้องเป็นสุภาพบุรุษและทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกา ไม่ไปก้าวล่วงใคร ใครจะว่าอะไรก็เฉยๆ เพราะถือว่าเป็นเรื่องการหาเสียงก็ว่ากันไป” บิ๊กตู่ยืนกรานหนักแน่น ขณะที่เสธ.หิก็ออกมาให้สัมภาษณ์ไม่คิดชั่วคิดเลวแบบนั้น และไปสั่งชูวิทย์ไม่ได้ พร้อมยืนกรานเคารพเนวินและอนุทินไม่คิดทำชั่วให้ขัดแย้งกัน
อีกเรื่องวานนี้ที่บิ๊กตู่ออกมาพูดเป็นเนื้อเป็นหนัง และถือว่าเป็นประเด็นใหญ่เช่นกัน คือการพูดถึงความสัมพันธุ์ของ 2 ป. “ประวิตร -ประยุทธ์” ที่ตอนนี้ต่างคนต่างเดิน ต่างมีเส้นทางคนละดวงแต่มีเป้าหมายต้องการเป็นนายกฯ คว้าเก้าอี้สร.1 เหมือนๆกัน ล่าสุดบิ๊กตู่ยืนยันความสัมพันธุ์กับพี่ป้อมยังแนบแน่นเหมือนเดิม ” ผมกับท่านได้คุยกันตลอดเวลา วันนี้ฉันก็คุยกันมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก็ยังรักเคารพเหมือนเดิมนั่นแหละ วันนี้ใครจะพูดอะไรก็พูดกันไป ใครจะเขียนก็เขียนไปเถอะ จะกี่ร้อยก็ว่าไปเถอะ” นายกฯระบุ ก่อนจะอุบไต๋เรื่องการตั้งรัฐบาลของ 2 ป. หรือการจับมือกันระหว่างพรรคพี่ พรรคน้อง พลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติ ที่เจ้าตัวบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ” เอาไว้รอให้เลือกตั้งก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน เขาไม่พูดกันตอนนี้หรอก เขาพูดกันตอนเลือกตั้งเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ ยังไม่พูดอะไรทั้งนั้นแหละ เรื่องส่วนพรรคก็ส่วนพรรค อยู่ที่การเลือกตั้งได้มากน้อยก็ว่ามา แต่การร่วมรัฐบาลเป็นการคุยที่หลังอยู่แล้ว ครั้งที่ผ่านมาตนก็อยู่ในกระบวนการนี้อยู่แล้ว พูดทีหลังหมด ไม่ได้มาพูดกันก่อน” บิ๊กตู่ออกตัว ก่อนจะเปิดสัญญาใจระหว่างพี่น้องที่บิ๊กตู่การันตีว่าพี่ป้อมไม่คิดไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีทางจะไปซูเอี๋ยะกับฝ่ายทักษิณ ” ไม่ได้ถามอะไรหรอก เป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านก็บอกว่าไม่ได้พูด ไม่ได้ไปจับมือกับใคร ท่านพูดอย่างนั้นกับผม ท่านก็บอกว่าไม่ได้ไปสัญญาอะไรกับใครไว้ทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ยืนกรานคำพูดพล.อ.ประวิตรไม่ได้ไปสัญญาตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอยู่กับฝ่ายทักษิณ
เรื่องการจับมือกันระหว่างพลังประชารัฐกับเพื่อไทยเป็นข่าวมาตลอด ถ้าใครจำได้ก่อนหน้านี้ย้อนไปไกลๆ ก็มีช่วงที่ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตแม่บ้านพลังประชารัฐ เคยมีข่าวจับมือกับโทนี่หวังคว่ำบิ๊กตู่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจปี 2564 แจกกล้วยเป็นหวีแต่ก็ไม่สำเร็จ แถมผู้กองยังถูกบิ๊กตู่เชือดนิ่มๆปลดจากรัฐมนตรีหลุดพ้นครม.เรือแป๊ะกลายเป็นคนไม่มีอนาคต ต่อมาพอปี 2565 ก็มีความพยายามจะล้มบิ๊กตู่อีกครั้ง ระหว่างอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะพรรคเล็กไม่เอาด้วย 2 ครั้งที่ว่าถ้าล้มบิ๊กตู่ได้ ก็มีความพยายามจะดันก้นลุงป้อมขึ้นเป็นนายกฯ มีเพื่อไทยเป็นกองหนุนนั้นแหละแต่ไม่สำเร็จ เลือกตั้งเที่ยวนี้ก็มีความพยายามจะจับมือกันอีกดีลกันลับๆ ระหว่างคนใกล้ตัวลุงป้อมกับฝ่ายทักษิณ ที่อยากดันพล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯให้ได้ ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยก็อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น เพราะเพื่อไทยรู้ดีว่าต่อให้ชนะเลือกตั้งทั่วประเทศมาเป็นอันดับ 1 แต่ก็ไม่มีทางแลนด์สไลด์ไม่มีทางเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ ยังไงก็ต้องใช้บริการลุงป้อมพึ่งพาส.ว. 250 คน ถ้าไม่ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายทางเดียวที่เพื่อไทยจะเข้าสู่อำนาจได้ก็ต้องอยู่ใต้ตีนลุงป้อมยอมเป็นน้ำใต้ศอกพลังประชารัฐ
ประเด็นเรื่องนี้ไม่ได้เกินเลยความจริงไม่งั้น “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานนปช. ปัจจุบันเป็นแกนนำคณะหลอมรวมประชาชน คงไม่ออกมาขย่มทักษิณดักคอเพื่อไทยแบบหนักหน่วงพร้อมเรียกร้องให้ประกาศจุดยืนชัดๆ ว่าจะไม่ผสมพันธุ์กับลุงป้อมไม่ร่วมกับพลังประชารัฐ เพราะจตุพรอ่านเกมออกว่าเป็นตายยังไงเพื่อไทยไม่มีวันแลนด์สไลด์ การจับมือกับลุงป้อมจึงเป็นทางเดียวที่เพื่อไทยคอกแม้วจะเข้าสู่อำนาจได้ คือต้องยืมมือลุงป้อมเกาะขาพลังประชารัฐใช้เสียงส.ว.ในสภาเป็นสะพานกลับไปเป็นรัฐบาล จากนั้นค่อยออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมหรือหาแนวทางให้แม้วกลับบ้านอย่างเท่ห์ๆแบบไหนก็ค่อยว่ากันอีกที แต่เบื้องต้นก้าวแรกต้องเป็นรัฐบาลให้ได้ก่อนไม่งั้นทุกอย่างพังหมด ดีลลับระหว่างลุงป้อมกับโทนี่ จึงถูกอธิบายด้วยเหตุผลประการฉะนี้ กรณีบิ๊กตู่ออกมายืนยันพี่ใหญ่ไม่เคยคิดจับมือแม้ว ไม่เคยสัญญาจะสังฆกรรมกับเพื่อไทย ชัดเจนว่าเป็นเรื่องภายในระหว่าง 2 คน ไม่มีใครรู้ว่า 2 ป.คุยอะไรกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถึงขนาดบิ๊กตู่มั่นใจเอามาให้สัมภาษณ์สื่อเป็นตุเป็นตะแบบนี้ก็แสดงว่ามั่นใจพี่ใหญ่ป้อมไม่เทกันไม่แกงกันไม่ทิ้งกันแน่นอน จากนี้ก็ต้องพิสูจน์กันยาวๆ ว่า “สัญญาใจ” ระหว่าง 2 ป.จะจริงแท้แน่นอนแค่ไหน อย่าลืมว่าความอยากของลุงป้อมก็มากโขอยู่เพราะเที่ยวนี้น่าจะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายแล้ว แถมมีส.ว.ช่วยอีกปีครึ่งก่อนจะหมดวาระ อย่าลืมว่าความต้องการผลักดันพี่ใหญ่ป่ารอยต่อของพวกลูกขุนพลอยพยักที่แวดล้อมข้างกายก็มีมาก ทั้งเพื่อนตท.6 ทั้ง น้องรักป.ที่ 4 สารพัด ไหนจะพวก “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” ในพลังประชารัฐอีกที่อยากดันนายให้เป็นใหญ่ตาเป็นมัน คำสัญญาใจที่ให้ไว้กับน้องรักอาจจะถูกฉีกทิ้งได้ง่ายๆ รักกันแทบตายก็แยกทางแตกพรรคกันมาแล้ว นับปะสาอะไรจะไม่ทิ้งกันอีก จับตาสัญญาใจ 2 ป.
///////////////