“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นสะบั้น “ทักษิณ” ไม่เคยมีอยู่ในหัว หลังปรากฎภาพต้อนรับ “หมอหนู” อนุทินในงานอุปสมบทอดีตนายกฯ อบต.คูขวางตอกย้ำยไปภูมิใจไทย ซัดคนปล่อยข่าวเป็นถึง ส.ส.แต่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย เตรียมส่งทนายฟ้อง ยันไม่คิดตีจากหรือไปรับปากใครเพื่อแลกตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ยอมรับคนใกล้ชิดหนีซบภูมิใจไทยจริง

มีรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตัดสินใจหันหลังให้กับพรรคเพื่อไทย ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะไม่สามารถผลักดันผู้สมัครของตัวเองได้ และมีการจับตาว่าอาจจะย้ายขั้วไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพราะก่อนหน้าก็ส่งคนของตัวเองมาลงสมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นทีมงานของพล.ต.ท.คำรณวิทย์

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันที่ 4 มีนาคม 2566 ที่วัดบ่อทอง ต.คูขวาง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ระหว่างงานฉลองอุปสมบทของนายภาคภูมิ ขาวขำ หลานชายนายมนัส ขาวขำ อดีตนายกฯ อบต.คูขวาง ที่จัดงานใหญ่ฉลอง5วันวันคืน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ต้อนรับ และรับประทานอาหารร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมี “เจ๊สมทรง” นางสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ที่ลูกชายเป็นส.ส.และหลานสาวเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย สมาชิกพรรคภูมิใจไทยอื่น ด้วย นายฉลอง เรี่ยวแรง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย นายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำมีการลือกันว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อาจช่วยสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (5 มี.ค.2566) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า การเมืองตอนนี้เริ่มรุนแรง และจะร้อนแรงเพิ่มขึ้นอีกพอยุบสภาก็มีเลือกตั้ง มีการแบ่งเขตและการต่อสู้กัน แต่ผลกระทบก็คือ คนที่ออกไปต่อสู้ในแต่ละพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นคนใกล้ชิดทั้งหมดเลย โดยสจ.ในทีม 3 คน คนหนึ่งไปสมัครพรรคเพื่อไทย คนหนึ่งไปสมัครภูมิใจไทย ส่วนอีกคนไปสมัครพรรคพลังประชารัฐ แตถ้าคิดในแง่ดีถือว่าเป็นการแข่งขันต้องว่าไปตามกติกา ทั้งนี้ตั้งแต่ตั้งทีมคนรักปทุมขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าทุกคนที่เคยอยู่ในทีมคนรักปทุมตั้งแต่ สจ. ที่ปรึกษา หรือรองนายก ฯ ทุกคนต่างก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ทำให้พรรคการเมืองจึงพยายามทาบทามพวกเขาไปลง เพราะคิดว่าศักยภาพเขาเพียงพอ ซึ่งส่วตัวดีใจว่า เลือกคนไม่ผิดนะที่มาร่วมทำงานเพื่อพัฒนาปทุมธานี

“ส่วนกระแสข่าวว่าผมสะบั้นกับ (เพื่อไทย) ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยอยู่ในหัวเลย คนอย่างผมจะไปสะบั้นจะไม่รักพี่ทักษิณเป็นไปไม่ได้ การผูกผันกับมีมาตั้งแต่ที่เรียนจนจบจากสามพรานมาด้วยกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ผูกผันกันมานาน แล้วเรื่องการเลือกพรรคต่าง ๆ พวกนี้มันเรื่องเล็ก ผู้สมัครคนนั้นคนนี่มาลงพรรคไหนก็เป็นสิทธิของพรรคเขา เมื่อพรรคไม่เลือก เขาก็มีสิทธิที่จะไปพรรคอื่นเป็นธรรมดาไม่ใช่เฉพาะในจังหวัดปทุมธานี แต่แค่ในกลุ่มนี้กลายเป็นคนใกล้ชิดผมทั้งหมด”

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวต่อ ส่วนคนที่มาฟ้องว่าไปขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวก็รู้ว่ามาจากใครที่ไปฟ้องนายทักษิณ แต่คนที่ฟ้องพูดไม่หมด ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง จะไปฟ้องว่าขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย พูดใหม่หมดสิว่าเป็นงานอะไร เป็นถึง ส.ส. ทำไมพูดไม่หมด เมื่อคุณมีคู่แข่งขึ้นมาคุณเริ่มหวั่นไหว แล้วคุณก็มาใส่ความกันแบบนี้มันไม่ใช่

“การขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทยต้องพูดให้หมดว่า เป็นงานอะไร เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของ สจ.สมร แต่งอ่อน ซึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว มี สจ.อยู่ 2 คน คือ สจ.ชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ตอนนี้เป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ สจ.สมร วันนั้นเขาได้จัดเวที ซึ่งตนก็เป็นนายก อบจ. พูดง่ายๆ เป็นหัวหน้าทีม และเขาให้เป็นประธานในพิธีฯ แต่มากล่าวหาว่าไปขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย และสจ.สมรก็ไม่ใช่ภูมิใจเลย และในงานวันนั้นจะไม่ขึ้นก็ไม่ได้ เพราะมีคนหลายพันคนมาร่วมงาน แต่คนที่ใส่ร้ายก็ไปสร้างประเด็นขึ้นมา และขอยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทีมทนายฟ้องที่เขียนข่าวให้ผมเสียหาย”

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ว่าใครจะมาที่ จ.ปทุมานีก็ไปต้อนรับทุกคน เช่น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาในพื้นที่ปทุมธานีก็ไปรับ มาตรวจน้ำท่วม พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาก็ไปรับ หรือแม้กระทั่ง น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร เดินหาเสียงก็ก็เอาช่อดอกไม้ไปให้ เพราะเป็นหน้าที่เถือว่า ใครก็ตามที่เป็นรัฐบาลมาในพื้นที่ส่วนตัวต้องประสาน แต่ไม่มีการรับปากรับคำว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี่ มีการพูดกันเองว่า ถ้าได้ ส.ส. มากต้องเป็นรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ใช่

“จำไว้เลยว่าถ้าเห็นผมเป็นรัฐมนตรี พี่น้องเสื้อแดงมาประจานผมได้เลย ชีวิตนี้ผมไม่เอาแล้วผมจะอยู่ของผมแค่นี้ ถ้าปทุมไม่เจริญผมไม่ไปเด็ดขาด ผมไม่เคยที่จะลบหลู่พี่ษิณแม้แต่นิดเดียว ผมยังเคารพรักพี่เขาเหมือนเดิม อย่างคำพูดนักเรียนนายร้อยตำรวจเรา ยศถาบรรดาศักดิ์มันตามกันทัน แต่รุ่นพี่รุ่นน้องมันตามกันไม่ทัน รุ่นน้องคือรุ่นน้องรุ่นพี่คือรุ่นพี่ คนที่ไม่รู้จริงแล้วคุณไปเขียนข่าว คุณเป็นนักข่าวเป็นสื่อมวลชนเป็นกระจกเงาสะท้อนความจริง เมื่อคุณไม่สะท้อนความจริงแต่สะท้อนมโนความคิดของคุณ ผมว่าแบบนี้ใช้ไม่ได้นักข่าว ผมจึงให้รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่ว่า สะบั้นกับทักษิณ หากเข้าข่ายผมฟ้องแน่นอน” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

“ พูดกับน้อง ๆ ที่ไปพรรคต่าง ๆ ว่า คนที่อยู่เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ถ้าได้เป็น ส.ส.ต้องช่วยผลักดันโครงการต่าง ๆ หากใครได้ไปอยู่พรรคคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ช่วยผลักดันโครงการให้ผ่านให้ได้ เราได้คุยกับน้อง ๆ อย่างนี้ เพราะทุกคนมีเจตนามาเพื่อช่วยพัฒนาปทุมธานีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็สู้กันไป เมื่อเสร็จแล้วกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ทำปทุมธานีให้เจริญ ไม่ใช่ไปทะเลาะ เอาเป็นเอาตายเหมือนที่ผ่านมา ขนาด ส.ส.พรรคเดียวกันยังไม่ถูกกัน แบบนี้ก็ไม่ใช่” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนใกล้ชิดที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นำร่องเอาคนของตัวเองไปอยู่ภูมิใจไทยนั้น ประกอบไปด้วย น.ส. ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย ลูกสาวเสี่ยเหน่ง สมศักดิ์ เกียรติพัฒนาชัย ผู้กว้างขวางย่านรังสิต ที่เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครเขต 4 ภูมิใจไทย และพล.ต.ต.วัฒนา วงศ์จันทร์ ที่ปรึกษาด้านยาเสพติดของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่เปิดตัวเป็นผู้สมัครเขต 2 จังหวัดปทุมธานี ของภูมิใจไทย

ทั้งนี้กระแสข่าว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตีจากพรรคเพื่อไทยในสู้ภูมิใจไทยนั้นเกิดขึ้นหนาหูในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวิเคราะห์การเมืองในเมืองปทุมของพรรคเพื่อไทยพบว่ามีความวุ่นวายและมีภาพของการแตกหักอยู่ทุกเมื่อ เพราะตอนนี้พื้นที่ปทุมธีของเพื่อไทยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มของนายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล 2.ทีมจ่ายุทธ หรือนายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ และ 3.นายสายัณ นพขำ อดีตนายกเทศมนตรีบ้านกลาง ปทุมธานี บิดาของนายศุภชัย นพขำ ส.ส.ปทุมฯ เพื่อไทย โดยทั้ง 3 ฝ่าย ต่างมีบทบาทในพื้นที่ จึงไม่ยอมลงให้กัน

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่สามารถทำอะไรโดยเฉพาะการจะแทรกตัวเข้ามามีบทบาทในเพื่อไทยแทบเป็นไปไม่ได้ ทำให้การผลักดันคนใกล้ชิดลงสมัครส.ส.ในนามเพื่อไทยเป็นเรื่องยาก และที่ผ่านมาจึงได้เห็นว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ส่งคนใกล้ชิดอย่าง น.ส. ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 4 และ พล.ต.ต.วัฒนา วงศ์จันทร์ ที่ปรึกษาด้านยาเสพติดของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดตัวเป็นผู้สมัครเขต 2 จังหวัดปทุมธานีเมื่อช่วงต้นก.พ.ที่ผ่านมา และด้วยเหตุผลดังกล่าวได้มีแกนนำภูมิใจไทยเข้ามามีความเชื่อมโยงกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์

โดยยื่นข้อเสนอให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ คุมทีมว่าที่ผูสมัคร ส.ส. ปทุมฯ ให้ภูมิใจไทย ภายใต้เป้าหมาย ชนะเลือกตั้ง 4 จากทั้งหมด 7 เขต ได้แก่ พล.ต.ต.วัฒนา เขต2 น.ส.ณัฐธิดา เขต4 นายพิษณุ พลธี เขต5 และ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร เขต7

โดยมีปัจจัยอัดกระสุนสนับสนุนอย่างไม่อั้น พร้อมข้อเสนอล่อใจคือโควต้ารัฐมนตรีให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซึ่งจากกระแสข่าวดังกล่าวทำให้นายทักษิณ โมโห พล.ต.ท.คำรณวิทย์อย่างมาก ซึ่งคงต้องจับตาสถานการณ์เลือกตั้งเมืองปทุมอย่างใกล้ชิด แม้ว่าล่าสุด พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะออกมาปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวแล้ว

ทักษิณ, การเมือง, บิ๊กแจ๊ส, ย้ายขั้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นสะบั้น “ทักษิณ” ไม่เคยอยู่ในหัว ตอบชัด ปมย้ายขั้ว ทิศทางเล่นการเมืองหลังจากนี้