ทรภ.1 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 1 และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบเรือขนน้ำมันเถื่อนกว่า 7 แสนลิตร ปรับ 14 ล้านบาท หลังเข้าจับกุมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา

ทรภ.1 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 1 บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้อง จับกุมและร่วมตรวจสอบ เรือบรรทุกน้ำมันผิดกฎหมาย จำนวน 7.1 แสนลิตร สั่งปรับ 14 ล้านบาท ยังพบเรือและลูกเรือ ผิด พ.ร.บ.เดินเรืออีกด้วย นับเป็นน้ำมันผิดกฏหมายล๊อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับกุมมา

จากกรณี เมื่อวันที่ 5 มี.ค.66 เวลา 03.00 น. จากการปฏิบัติการด้านการข่าวทัพเรือภาคที่1 (ทรภ.1) ได้สั่งการให้ เรือ ต.115 ซึ่งเป็นเรือในบัญชีกำลังของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ดำเนินการตรวจสอบและจับกุม เรือบรรทุกน้ำมันที่มีพฤติกรรมลักลอบขนน้ำมันผิดกฎหมาย บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ ผลการปฏิบัติ นำไปสู่การจับกุมเรือ ชื่อธนสิทธิ์ มีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือจำนวน 6 คน บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นบุคคลบนเรือให้การสารภาพว่ามีของกลางเป็นน้ำมันเบนซิน ที่ไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากรอยู่บนเรือจริง จึงได้ได้ควบคุมเรือดังกล่าว ไปยังท่าเทียบเรืออู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป

ล่าสุดในวันนี้ (6 มี.ค.66) เวลา 10.30 น. พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศรชล.ภาค 1 ได้แถลงการจับกุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัด และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสมุทรปราการ สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิตร สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ ชุดปฏิบัติการสืบสวน กองบังคับการตำรวจน้ำ และส่วนสืบสวนปราบปราม 2 กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร โดยแจ้งว่าเรือธนสิทธิ์ ได้มีการรับน้ำมันจากเรือ TANKER ซึ่งอยู่นอกบริเวณบังคับใช้กฎหมาย เข้ามาในพื้นที่บริเวณปากร่องแม่น้ำเจ้าพระยา จึงได้สั่งการให้เรือ ต.115 เข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยหลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่า มีปริมาณน้ำมันเบนซิน ที่ไม่ผ่านการเสียภาษีและมีความผิด ตาม พรบ.สรรพสามิต จำนวน 710,000 ลิตร ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้รับสารภาพและยินยอมชำระค่าปรับเป็นจำนวนเงินประมาณ 14 ล้านบาท นอกจากนี้ ในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรือเพิ่มเติมยังพบว่ามีความผิดตาม พรบ.เดินเรือในน่านน้ำไทย เช่น ใบอนุญาติใช้เรือหมดอายุ ผู้ควบคุมเรือและช่างเครื่องไม่มีประกาศนีบัตรฯ เป็นต้น ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ จะได้ดำเนินการกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผบ.ทรภ.1 / ผอ.ศรชล.ภาค 1 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การลักลอบนำน้ำมันเข้ามาโดยไม่ผ่านการเสียภาษีนั้น ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก เมื่อตรวจพบจะต้องทำการจับกุมทันที และการจับได้ในครั้งนี้ ถือเป็นจำนวนล็อตใหญ่ครั้งหนึ่งที่กองทัพเรือ เคยจับกุมมา

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น