AFP และ CNN รายงานว่ากลุ่มผู้ประท้วงชาวจอร์เจียที่ฝักใฝ่กลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียูจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมประท้วงในกรุงทบิลิซี่ ก่อนที่จะบุกไปยังอาคารรัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากร่างกฎหมาย “สายลับต่างชาติ” ผ่านการโหวตรับรองด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 76-13 ในการลงคะแนนเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลงมติครั้งแรกจากทั้งสิ้น 2 ครั้ง เพื่อผ่านการรับรองเป็นกฎหมายบังคับใช้ ทำให้เกิดการปะทะเดือดระหว่างตำรวจปราบจลาจลที่ใช้วิธีฉีดน้ำและพ่นแก็สน้ำตาเข้าสกัดกั้นฝูงชนที่พยายามจะบุกเข้าไปในอาคาร โดยกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งโบกธงชาติจอร์เจียและอียู ได้ขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งพยายามทำลายแผงกั้นและสิ่งกีดขวาง
กลุ่มผู้ประท้วงลุกฮือต่อต้านร่างกฏหมายสายลับต่างชาติ ที่มีเนื้อหากำหนดให้กลุ่ม NGO, หน่วยงานและสื่อมวลชนที่รับทุนช่วยเหลือจากต่างชาติเกิน 20% จะต้องลงทะเบียนว่าเป็น “สายลับต่างชาติ” หากละเมิดจะถูกลงโทษปรับเป็นเงินก้อนใหญ่ ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวหาว่าร่างกฏหมายดังกล่าวมีเนื้อหาเหมือนกับกฏหมายกวาดล้างกลุ่มต่อต้านและกลุ่ม NGO ของรัสเซียที่ออกในปี 2555 ซึ่งจะทำให้ประชาธิปไตยในจอร์เจียยิ่งถดถอย และสวนทางกับความต้องการของจอร์เจียที่อยากเป็นสมาชิกอียู
และในระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวสัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกสภาฝ่ายต่อต้านร่างกม.ก็ได้เปิดฉากตะลุมบอนชกต่อยกับสมาชิกสภาจากพรรครัฐบาลที่ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน จนเกิดเหตุวุ่นวาย
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีซาโลเม ซูลาบิชวิลี ของจอร์เจียออกมาประกาศสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วง และบอกว่าจะใช้สิทธิ์วีโต้ร่างกฏหมายฉบับนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิราค-ลี การีบาชวิลี ยืนยันจะใช้นโยบายเป็นกลางระหว่างรัสเซียและอียู เพื่อความสงบสุขและมั่นคงของจอร์เจีย