ยุบสภาใกล้เข้ามาทุกที พรรคเพื่อไทย (พท.) ดูเหมือนจะเครื่องร้อนเร่งเครื่องเดิมเกมตามจังหวะก้าวของการเมืองทุกขณะ ย้อนไปก่อนหน้านี้ไม่นานก็เปิดตัว “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอสแสนสิริ กระโดดเข้ามาเล่นการเมืองเต็มตัว โดยเข้ามารับบทเป็นประธานที่ปรึกษาของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทำหน้าที่แกนนำหาเสียงในช่วงที่ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร กำลังท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ถัดมาก็รุกคืบเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้งแบบสุดๆ ด้วยการตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเพื่อคิดค้นนโยบายเศรษฐกิจที่จะใช้ในการหาเสียง งานนี้มีการระดมบรรดา “มันสมอง” ระดับหัวกะทิของคอกแม้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมากันครบ โดยมอบหมายให้ “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกฯ รมว.พลังงาน และ เลขาธิการนายกฯ 2 คนสนิทชิดตัวทักษิณ เป็นประธานกรรมการ ส่วนเบอร์ 2 รองประธานกรรมการของชุดนี้ก็วางตัว “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ รมว.คลัง รมว.พาณิชย์ พี่เลิฟสุดรักของ “เจ๊ปูว์” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมัยเป็นนายกฯ มาประกบ
ส่วนไฮไลต์ก็คงอยู่ที่ที่ปรึกษา ซึ่งเอาพวกหัวๆของกงสีมาหมด ไล่ตั้งแต่ “ปรมาจารย์หูกระต่าย” พันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3 นายกฯ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของไทย “ด็อกเตอร์ตั๊ก” ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้า อดีตประธานบอร์ดปตท.ยุคนายกฯยิ่งลักษณ์ งานนี้ก็เพื่อเร่งระดมสมองคิดค้นนโยบายวางยุทธศาตร์ด้านเศรษฐกิจในช่วงของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ล่าสุดพรรคเพื่อไทยจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค งานนี้หมลชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคหุ่นเชิด ประกาศเลื่อนหมุดเป้าหมายแลนด์สไลด์ทั่วประเทศ จากเดิมที่เคยประกาศไว้ 250 คน ตอนนี้ขยับหมุดหมายใหม่ไปที่ 310 คน เพื่อที่จะได้มากกว่าจำนวนส.ว.250 คน ที่ฝ่ายทักษิณมองว่าเป็นฐานกำลังสำคัญของระบอบประยุทธ์
“เราเคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายของการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายคือแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้องได้ส.ส.มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป แต่ในเวลานี้สิ่งที่เรามุ่งหวังตรงนั้น และสิ่งที่เราวางแนวทางเอาไว้ว่าจะต้องชนะส.ว. 250 ที่นั่งที่มีอยู่ในวุฒิสภา เมื่อถึงเวลานี้กราบเรียนด้วยความมั่นใจว่า เราไม่กังวลกับหน้าที่และอำนาจของส.ว.ต่อไปอีกแล้ว เพราะเรามีความมั่นใจว่าเราผ่านจุด 250 เสียงขึ้นมาแล้ว ในเวทีนี้ผมจึงกล้าที่จะเชิญชวนทุกท่านประกาศคือ เราต้องได้อำนาจจากพี่น้อง 310 เสียงขึ้นไป ซึ่งเป็นเสียงที่จะบอกกับผู้มีอำนาจขณะนี้ว่าเราต้องการกำจัดให้สิ้นซากซึ่งระบอบประยุทธ์ เป็นระบอบที่อันตรายมาก ที่ทำลายโอกาสของพี่น้องประชาชน ดังนั้น 310 เสียงเป็นหมุดหมายที่สำคัญที่เราจะร่วมสู้ร่วมก้าวกันต่อไป เพื่อให้ได้รัฐบาลของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” นพ.ชลน่านพูดไปเรื่อย ถามว่าความหวังของหมอชลน่านของพรรคเพื่อไทยของฝ่ายทักษิณของอุ๊งอิ๊งมีความเป็นไปได้ไหม บอกว่าว่าคอกทักษิณคงมั่นใจผลงานในอดีตที่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) เคยสร้างประวัติศาสตร์แลนด์สไลด์ใหญ่ๆมา 2 ครั้ง คราวแรกคือ 6 ม.ค.2544 ตอนนั้นทักษิณถีบหัวส่งพรรคพลังธรรมของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่อุตส่าห์ไปชวนมาเล่นการเมืองให้เป็นรมว.ต่างประเทศ จากนั้นก็ยกพรรคให้ทักษิณดำเนินการ หวังจะสร้างวีรบุรุษทางการเมืองให้กับคนไทยแต่สุดท้ายตกม้าตายกลายเป็น “โมฆะบุรุษ” สร้างวิบากรรมใหญ่หลวงให้กับชาติบ้านเมือง ทักษิณทิ้งพรรคอุดมการณ์ดีอย่างพลังธรรม ก่อนชวน “เจ๊หน่อย”สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวบรวมนักการเมือง นักธุรกิจ บุคคลหลากหลายสาขาอาชีพตั้งพรรคไทยรักไทย โดยสมาชิกผู้ก่อตั้งตอนนั้น 22 คน อาทิ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, ทนง พิทยะ, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์, พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา สุดารัตน์ และ นพ.พรหมินทร์ ฯลฯ
แต่ที่เป็นไฮไลต์สำคัญคือกรณีที่ทักษิณดึงพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ อดีตคนใกล้ชิดของ “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่ถูก “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง เจ้าพ่อวังน้ำเย็นดึงตัวมาช่วยงานเข้ามาพรรคไทยรักไทย พิทักษ์ก็เลยหนีบเสนาะมาอยู่กับเสี่ยแม้วด้วย โดยที่ทั้งหมดก็มีการเกี่ยวเนื่องเอื้อประโยชน์ต่างตอบแทนกันในเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เป็นประเด็นฉาวโฉ่ หลังนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา บริจาคที่ดินให้วัดธรรมิการามวรวิหาร แต่ต่อมาถูกขายต่อให้บ.อัลไพน์ ที่มีอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยาของป๋าเหนาะถือจากนั้นสนามกอล์ฟดังกล่าวก็ถูกขายต่อมาให้คุณหญิงพจมานในราคา 500 ลบ. และที่ดินแปลงนี้แหละที่ทางยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้ยกเลิกโฉนดที่ดินซึ่งจดทะเบียนในนามสนามกอล์ฟอัลไพน์จากการโอนที่ธรณีสงฆ์โดยมิชอบ จนทำให้ติดคุกติดตารางขายขี้หน้าเขาไปทั่ว ทักษิณ-คุณหญิงพจมานทำธุรกิจสีเทา ทำนิติกรรมอำพรางสารพัด ด้านหนึ่งก็ได้ผลประโยชน์กับตัวเอง อีกด้านก็สร้างบุญคุณทางการเมืองให้กับคนในแวดวง คนเลยตกเป็นบริวารเป็นขี้ข้าทักษิณจำนวนมาก ผลของการรวมพลตั้งพรรคไทยรักไทยมาแบบนี้จึงทำให้ทักษิณชนะการเลือกตั้งครั้งแรกด้วยเสียง 248 (เขต 200 คน + บัญชีรายชื่อ 48 คน) คน ทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์ของนายหัวชวนที่ได้ 128 คน ( เขต 97 + บัญชีรายชื่ อ 31 คน) แบบไม่เห็นฝุ่น ทักษิณเป็นนายกฯครั้งแรก
ถัดมาก็เป็นช่วงเลือกตั้ง 6 ก.พ. 2548 ตอนนั้นก็เป็นช่วงทักษิณเทอม 2 ที่โทนี่กำลังมีอำนาจล้นฟ้า บารมีคับประเทศ เพราะเป็นนายกฯสมัยแรกแบบครบเทอม เรียกว่า ” Absolute Power” แบบสุดๆ ตอนนั้นทักษิณหมายมั่นปั้นมือที่จะเป็นนายกฯ สมัย 2 ให้ได้ โดยให้สมุนลูกน้อง จัดการรวบรวมนักการเมืองจากพรรคต่างๆในวงการมาทั้งหมด ใช้วิธีตกเขียวส.ส กวาดต้อนผู้แทนแบบหน้าด้านไล่ยางอาย เพราะ ไล่ ” ซื้อยกพรรค เหมายกเข่ง” ทั้งกลุ่มชลบุรีของสนธยา คุณปลื้ม กลุ่มบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ กลุ่มบุรีรัมย์ของเนวิน ชิดชอบ กลุ่มชาติพัฒนาของอนุทิน ชาญวีรกูล กลุ่มความหวังใหม่ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กลุ่มมัชฌิมาของสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มวังพญานาคของพินิจ จารุสมบัติ กลุ่ม 3 จังหวัดชายแดนใต้ของวันมูหะมัดนอร์ มะทาร์ กลุ่มวาดะห์ ฯลฯ ไม่แปลกที่การเลือกตั้งคราวนั้นทักษิณจะกวาดส.ส.มาได้มากสุดถึง 377 คน (เขต 310 คน + บัญชีรายชื่อ 67 คน) เพราะเล่นซื้อยกพรรคดูดทุกก๊วนมารวมกันหมด สุดท้ายพรรคสีฟ้ายุคบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็พ่ายแพ้แบบราบคาบเพราะได้ไปแค่ 96 คน (เขต 70 คน + บัญชีรายชื่อ 26 คน ) เท่านั้น
จะเห็นได้ชัดว่า 2 ครั้งที่ทักษินแลนด์สไลด์ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ก็เพราะสร้างตำนาน “ตกปลาในบ่อเพื่อน” กับ “ตกเขียว” ผู้แทนแบบยกพรรคจากมุ้งอื่น คนในวงการเมืองทุกคนรู้ดี ทักษิณใช้สารพัดวิธี ทั้งบีบด้วยเรื่องต่างๆ ทั้งจ่ายเงิน ทั้งหว่านล้อม ทั้งสัญญาว่าจะให้ เป็นใครจะทนไหว มาถึง 3 ก.ค.2554 ยุคยิ่งลักษณ์ที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งมาได้ด้วยคะแนนส.ส. 265 คน (เขต 204 คน + บัญชีรายชื่อ 61 คน) ก็เพราะอาศัยกระแสต่อต้านการปราบปรามคนเสื้อแดง รวมถึงมีความพยายามสร้างข่าวเท็จสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลบิดเบือนว่าอภิสิทธิ์สั่งให้เข่นฆ่าประชาชนล้างบางคนเสื้อแดง ทำให้อภิสิทธิ์ต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งไปในที่สุด เพราะได้ส.ส.มาแค่ 159 คน (เขต 115 คน + บัญชีรายชื่อ 44 คน) ทั้งที่ความจริงก็รู้กันอยู่ว่ามีความพยายามขุดหลุมพรางให้ทหารเข้าไปติดกับ สร้างเรื่องป้ายผิดให้อภิสิทธิ์ต้องมัวหมองจนแพ้ยิ่งลักษณ์ในที่สุด
เลือกตั้งปีนี้ 2566 คอกทักษิณก่อนหน้านี้ตั้งเป้า 250 คน ล่าสุดลูกหาบชลน่านออกมาตีปี๊บขยับเป้าเป็น 310 คน ปัดโธ่ ส.ส.เขตมี 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน เที่ยวนี้คู่แข่งมีบานตะเกียง พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย ฯลฯ ถามตรงๆ ทักษิณโทนี่คิดว่าพรรคอื่นไม่มือไม่มีตืนหรืออย่างไร คนไทยหูตาสว่างหมดแล้ว รู้กำพืดพรรคเพื่อไทยดีในใจไม่มีอะไรนอกจากเอาโคตรพ่อกลับบ้าน อ้างชาวบ้านบังหน้าแท้จริงอยากพาแม้วกลับไทยใจจะขาด สิบปียี่สิบปีหนีไม่พ้นวังวนอุบาทว์นี้ สาวกที่ยังรักทักษิณจมปลักกับเพื่อไทยก็คงมี แต่เชื่อว่าอีกมากตาสว่างไม่ยอมให้ทุนนิยมสามานย์ ประชาธิปไตยจอมปลอม ตระกูลโกงชาติปล้นเมืองอย่างโทนี่มาจูงจมูก บริหารบ้านเมืองให้เหลวแหลกทำชาติให้ฉิบหายอีก 310 คนจะถึงเป้าหมายไหมไม่รู้ จะแลนด์สไลด์หรือแลนด์ถล่ม คนไทยเท่านั้นที่จะให้คำตอบ
////////////////////////////