ก่อนหน้านี้ถ้าใครยังจำกันได้ แกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้งนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แม้กระทั่งทักษิณ ชินวัตร เจ้าของคอกเพื่อไทย เคยประกาศเรื่องแลนด์สไลด์ทั่วประเทศปักหมุดว่าจะได้ส.ส.ในการเลือกตั้งคราวหน้าไว้ที่ 250 คนขึ้นไป ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีดีลลับระหว่างทักษิณกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่างสองพรรคคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะฝ่ายเพื่อไทยคอกทักษิณแม้จะมั่นใจว่าการเลือกตั้งคราวหน้าจะชนะการเลือกตั้งแบบนอนมา เพราะกติการเลือกตั้งกลับมาเข้าทางตีนแบบเต็มๆคือใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน แถมใช้การคิดคะแนนแบบสูตรหาร 100 ยิ่งเป็นคุณกับพรรคเพื่อไทยสุดๆ
แรกเริ่มเดิมทีฝ่ายเพื่อไทยก็ไม่มั่นใจหรอกว่าจะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ใครจำได้ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนยังออกมาแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องการจับมือกับพรรคขั้วรัฐบาลแบบไม่ปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคภูมิใจไทย เพราะฝ่ายแม้วคอกโทนี่ก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ชนะการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมากมายขนาดไหนก็ไม่มีทางที่จะกลับไปชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายเหมือนสมับพรรคไทยรักไทย (ทรท.) พ.ศ. 2544 กวาดไป 248 คน พ.ศ. 2548 กวาดไป 377 คน หรือสมัยพรรคเพื่อไทยยุคยิ่งลักษณ์ พ.ศ.2554 ที่ได้ส.ส.ไป 265 คน ยิ่งการเลือกตั้งยุคนี้การโหวตตัวนายกฯต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 2 สภา คือส.ส.500 คน ส.ว.250 คน รวมกัน 2 สภามี 750 คน เกินกึ่งหนึ่งต้องได้เสียงสนับสนุนจากส.ส.และส.ว.ถึง 376 คน ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยจะไปถึง เพราะส.ว.250 คนก็ของลุงป้อมกับบิ๊กตู่
ด้วยเหตุนี้พรรคเถ้าแก่หน้าเหลี่ยมคอกทุนสามานย์จึงต้องดึงพรรคการเมืองอื่นเข้ามาร่วมด้วย และพรรคที่ดูจะคุยกันง่ายและน่าจะมีส.ส.เข้ามเติมเต็มความต้องการสมประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยมากที่สุดก็คือพรรคพลังประชารัฐของลุงป้อมนี้แหละ จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้แกนนำทั้งสองพรรคก็ทอดไมตรีกันมาตลอดและไม่เคยปฏิเสธเรื่องจับมือกัน แต่ที่มาโป๊ะแตกต้องตัดสัมพันธ์กันก็เพราะพรรคเพื่อไทยถูกพรรคพี่พรรคน้องอย่างพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมถึงพรรคแนวร่วมล้มเจ้าชังชาติอย่างพรรคก้าวไกล(กก.) หยิบประเด็นนี้ไปตีกินตอนลงหาเสียง เอาประเด็นนี้ไปฟ้องชาวบ้านไปบอกเล่าคนเสื้อแดงว่าพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณทรยศหลักการไม่รักษาคำพูดทำการเมืองเอาแต่ได้ หน้าไว้หลังหลอก ทั้งๆที่ความจริงก็คือความตอแหลทางการเมืองเวลาอยู่กับชาวบ้านก็บอกว่าไม่เอาประยุทธ์ไม่จับมือลุงป้อมเกลียดทหารชังเผด็จการ แต่ลับหลังก็แอบต่อสายจับมือกันหลวมๆ เผื่อมีโอกาสตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง การเมืองตื้นๆแบบนี้ใครก็เดาออกว่าแล้วพรรคไทยสร้างไทยกับพรรคก้าวไกลเลยเอาเรื่องนี้ไปถล่มแหลกพรรคเพื่อไทยว่าหลอกชาวบ้านความจริงก็ยังต้องอยู่ใต้ตีนทหาร หากต้องการเป็นรัฐบาล เพื่อไทยเสียรังวัดเรื่องนี้เป็นอย่างมากเพราะถูกพรรคเสื้อส้มกับพรรคหญิงหน่อยเอาไปขยายต่อตอนเคาะประตูหาเสียงกับชาวบ้าน ว่าพรรคเพื่อไทยทำการเมืองแบบลิงหลอกเจ้าหลอกชาวบ้านไปวันๆ
บวกลบคูณหารแล้วมีแต่เสียกับเสีย โดนทั้งขึ้นทั้งร่องแถมยังเสียฐานมวลชนที่มีมหาศาลในภาคอีสาน ภาคเหนือ และทั่วประเทศ สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็ต้อง “กลัลลำ” ประกาศปรับเป้าหมายใหม่ขยับหมุดหมายแลนด์สไลด์ทั่วแผ่นดินตั้งเป้าคว้าส.ส.จาก 250 คนมาเป็น 310 คน พร้อมประกาศเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ไม่พึ่งบริการลุงป้อมไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐ ไม่ไปซูฮกทหาร ทั้งๆที่ความจริงอยากให้พรรคลุงป้อมมาช่วยใจจะขาด เพราะอยากเป็นรัฐบาลจนเนื้อเต้นตัวสั่น ” ถ้าเราไม่คิดใหญ่โอกาสของประชาชนจะไร้ทิศทาง ถ้าเพื่อไทยไม่ได้ส.ส. 310 เสียง จะไม่มีการเลือกนายกฯในรัฐสภาฯ เพราะส.ว. 250 เสียงบวก ส.ส.ของเขา ขณะที่ของเราได้ 270 เสียงจะไม่มีฝ่ายไหนถึง 376 เสียง จะเป็นรัฐบาลรักษาการไปอีก 2 ปี จนถึงปีที่ส.ว.หมดวาระ คือปี 2567 อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ถึงปี 67 หรือไม่ นี้คือสิ่งที่เขาวางแผนไว้ ต้องไปถามเขาว่าจริงหรือไม่…..มีคนบอกว่าจะมีการเตรียมซื้อเสียงส.ส.บัญชีรายชื่อ 10 ล้านเสียงด้วยเสียงละ 500 เป็นเงิน 5 พันล้าน แต่ตนไม่เชื่อ มั่นใจว่าประชาชนซื้อไม่ได้” หมอชลน่านพูดไปเรื่อยบนเวทีปราศรัยที่ พิษณุโลก โกหกคำโตเป็นนิจใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นเป็นอาจิณ
พรรคเพื่อไทยปากกล้าขาสั่น ต่อหน้าก็ประกาศแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวบริหารประเทศหาลู่ทางเอาโคตรพ่อจากดูไบกลับบ้าน แต่ลับหลังทำสารพัดวิธีเพื่อดูดส.ส.พรรคอื่นเข้าพรรคตัวเอง ก็เลวพอๆกัน รอบนี้กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยเพื่อไทยเอาหมด เพราะกลัวแพ้ไม่ได้แลนด์สไลด์อย่างที่ประกาศไว้ อย่าลืมว่า 2544 ที่ชนะเพราะขี้ใหม่หมาหอม 2548 เพราะตกเขียวทุกพรรค ซื้อยกเข่งเหมาทั้งวงการ 2554 ก็ป้ายสีอภิสิทธิ์หยิบคน(เสื้อแดง) ตายมาหากิน รอบนี้หมดมุกที่จะเอามาเป็นประเด็น ไร้เรื่องราวที่จะเอามาใส่ร้าย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ 8 ปีเห็นกันชัดแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นของจริง ” ในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยประกาศกวาดเสียงแลนด์สไลด์ 310 เสียง โดยไม่แบ่งให้พรรคพี่พรรคน้อง ซึ่งหมายถึงพรรคไทยสร้างไทย และมีก้าวไกล อยู่ในฝ่ายค้านร่วมด้วยกันจะไม่ได้ ส.ส. สักคน ซึ่งในทางการเมืองคงเป็นไปได้ยากยิ่ง เพราะในพื้นที่คะแนนเสียงของเพื่อไทยมีผู้สมัครเด่นๆของก้าวไกลและไทยสร้างไทย ดังนั้น สองพรรคนี้ย่อมมีโอกาสแบ่งส่วน ส.ส.มาได้หลายคน …..แรงเหวี่ยงแบบตัดญาติขาดมิตร ยิ่งแสดงถึงจิตใจคับแคบเท่าไร ย่อมจะถูกตอบโต้กลับจากฝ่ายเดียวกันมากขึ้น ” จตุพรอ่านเกมขาด ไม่มีวันที่เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์
310 คนจะได้หรือป่าวก็ไม่รู้ แต่ต่อให้ได้จริงๆ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันที่เหลืออีก 190 คน พอไปรวมกับส.ว.อีก 250 คน ก็ได้ 440 คน มากกว่าฝ่ายเพื่อไทยคอกแม้วอยู่ดี แพทองธารกับเศรษฐาจะเป็นนายกฯได้อย่างไร ในเมื่อเสียงในสภาไม่เกินกึ่งหนึ่ง ขนาดรอบที่แล้วเจ๊ปูว์พีคๆ กระแสเพื่อไทยดีๆ ได้แรงส่งเรื่องเสื้อแดง เพื่อไทยยังได้ส.ส.รวมกันแค่ 265 คน เขต 375 คน ได้มา 204 คน บัญชีรายชื่อ 125 คน ได้มา 61 คน มารอบนี้พรรคการเมืองโผล่ขึ้นเป็นดอกเห็ด ลำพังขั้วล้มเจ้าชังชาติก็มีทั้งพรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย ที่จะมาแบ่งแชร์คะแนนในภาคอีสาน เหนือ กลาง ฝ่ายขั้วรัฐบาลเก่าก็มีอีกเพียบทั้ง พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ ถามว่าเพื่อไทยคอกแม้วไปเอาความมั่นใจ 310 คนจากทั่วประเทศมาจากไหน ถ้าไม่ฝันกลางวันก็คงเมากัญชาที่มีขายเกลื่อนกลาดในตอนนี้
///////////////////////////
