พลเอกแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกองทัพอากาศของกลาโหมสหรัฐ ออกแถลงกับผู้สื่อข่าวว่า กองบัญชาการยุโรปของสหรัฐได้รายงานมาว่า เครื่องบิน Su-27 ของรัสเซีย 2 ลำ ทำการสกัดกั้นการลาดตระเวนของโดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ MQ-9 ของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งปฏิบัติการภายในน่านฟ้าสากลเหนือทะเลดำ การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเครื่องบินรบได้ทิ้งเชื้อเพลิงใส่โดรนลำนี้ แล้วยังเข้ามาใกล้ด้วย จนทำให้ใบพัดของโดรนเสียหาย และเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้น สหรัฐจึงตัดสินใจปล่อยโดรนตกลงไปในทะเลดำ
อย่างไรก็ดี เมื่อถูกถามว่าโดรนลำนี้ บรรทุกอาวุธไปด้วยหรือไม่ ไรเดอร์ได้ตอบว่า ตนจะไม่ลงไปในรายละเอียดเฉพาะเจาะจงของโดรนลำนี้ แต่อย่างที่รู้กันอยู่คือ MQ-9 มีความสามารถในการติดอาวุธ และขณะนี้ รัสเซียก็น่าจะยังไม่ได้ไปเก็บกู้ชิ้นส่วนขึ้นมา ส่วนเครื่องบินรบของรัสเซีย ก็น่าจะได้รับความเสียหายเช่นกัน
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า โดรนกำลังบินไปยังชายแดนรัสเซีย โดยไม่ได้มีช่องสัญญาณใดๆ ที่เปิดใช้งาน ซึ่งเป็นการละเมิดต่อพื้นที่หวงห้าม ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารพิเศษอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี โดรนของสหรัฐนั้น ขึ้นบินแล้วควบคุมไม่ได้, สูญเสียระดับความสูง และชนเข้ากับผิวน้ำ ส่วนเครื่องบินรบรัสเซียไม่ได้ใช้อาวุธ, ไม่ได้มีการแตะต้องตัวโดรน, และกลับมาที่ฐานทัพได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น ทางนายอนาโตลี อันโทนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ ก็ได้ถูกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เรียกตัวเข้าพบ ต่อมาอันโทนอฟได้มีแถลงการณ์ออกมาระบุว่า ตนได้ปฏิเสธทุกคำพาดพิงของฝ่ายสหรัฐเกี่ยวกับเรื่องนี้ และอธิบายถึงจุดยืนของรัสเซีย นอกจากนี้ ยังแจ้งไปว่า โดรนของสหรัฐกำลังรวบรวมข้อมูลการลาดตระเวน เพื่อส่งให้กองกำลังยูเครนใช้สำหรับการโจมตีดินแดนรัสเซียและกองทหารรัสเซีย ซึ่งเป็นการกระทำใกล้พรมแดนของรัสเซีย ที่ยอมรับไม่ได้
ก่อนหน้านี้ นายจอห์น เคอร์บี โฆษกฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวสหรัฐ ได้เคยยอมรับว่า โดรนของสหรัฐ ทำการบินข้ามแบบนี้เป็นประจำ และสหรัฐได้ให้ข้อมูลข่าวกรอง รวมถึงการลาดตระเวนแก่ยูเครนด้วย แม้จะไม่ได้เป็นฝ่ายที่ทำการสู้รบก็ตาม ซึ่งอันโทนอฟได้ระบุต่อว่า โดรนเหล่านี้ ไปทำอะไรในที่ๆอยู่ห่างจากสหรัฐหลายพันไมล์ คำตอบนั้นชัดเจน คือการรวบรวมข่าวกรอง ซึ่งต่อมารัฐบาลยูเครนก็ได้นำไปใช้โจมตีกองกำลังติดอาวุธ และดินแดนของรัสเซีย
นอกจากนี้ อันโทนอฟยังได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแทสของรัสเซียด้วยว่า ตนคิดว่านี่คือ การยั่วยุอย่างแท้จริง พวกเขายั่วยุให้รัสเซียต้องดำเนินการบางอย่าง ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถกล่าวหารัสเซียได้ว่า ไม่เป็นมืออาชีพ แต่นักบินรัสเซียทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียไม่มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี การพูดคุยกับกระทรวงต่างประเทสสหรัฐนั้น เป็นการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีการขู่ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมอง ที่มีความแตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น