ทางเลือกเหลือน้อย “ดร.สามารถ” แนะทางรอด “รถไฟฟ้าสีส้ม-สีเขียวBTS”

ทางเลือกเหลือน้อย "ดร.สามารถ" แนะทางรอด "รถไฟฟ้าสีส้ม-สีเขียวBTS"

วันที่ 21 มีนาคม 2566 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แนะทางแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเขียวในวงเสวนา “รถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเขียวมีปัญหา หากพรรคการเมืองของท่านได้เป็นรัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร” ซึ่งจัดโดยสภาองค์กรของผู้บริโภค

1. รถไฟฟ้าสายสีส้ม

ดร.สามารถ กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับการมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพราะจะเป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การประมูลจะต้องโปร่งใส ไม่มีช่องทางนำไปสู่การทุจริต ด้วยเหตุนี้ ตนจึงขอเสนอทางแก้ปัญหาการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และเดินรถตลอดสายทั้งช่วงตะวันตกและตะวันออก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) 2 ทางเลือก ดังนี้

1.1 ทางเลือกที่ 1: รอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครอง

คดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองมี 2 คดี ประกอบด้วย

(1) คดียกเลิกการประมูลครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด แต่ศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาแล้วว่าการยกเลิกการประมูลครั้งที่ 1 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

(2) คดีกีดกันและเอื้อประโยชน์เอกชนรายใดรายหนึ่งในการประมูลครั้งที่ 2 หรือไม่ ? ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น

คดีกีดกันและเอื้อประโยชน์เอกชนรายใดรายหนึ่งในการประมูลครั้งที่ 2 หรือไม่? นี้ เป็นคดีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่สามารถชี้แจงให้สิ้นข้อสงสัยได้ เช่น

ก. การเปิดให้ผู้เดินรถไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้าร่วมประมูลได้ ทำให้ผู้เดินรถไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ หรือ Incheon Transit Corporation (ITC) เข้าร่วมประมูลกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ได้ ซึ่งในการประมูลครั้งที่ 1 ITD ร่วมกับ ITC ไม่สามารถเข้าประมูลได้

ข. การเปลี่ยนคุณสมบัติของผู้รับเหมาในการประมูลครั้งที่ 2 นี้ ทำให้ในโลกใบนี้มีผู้รับเหมาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแค่เพียง 2 รายเท่านั้น ประกอบด้วยบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ ITD ส่งผลให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ร่วมกับบริษัท ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ที่เคยยื่นประมูลครั้งที่ 1 ไม่สามารถยื่นประมูลครั้งที่ 2 ได้

ค. กรรมการคนหนึ่งของ ITD ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก อาจทำให้ ITD มีคุณสมบัติต้องห้ามที่จะยื่นประมูล ซึ่งถ้า ITD มีคุณสมบัติต้องห้ามแล้ว รฟม. จะต้องไม่เปิดซองข้อเสนอด้านเทคนิค และซองข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนของ ITD ร่วมกับ ITC แต่ทำไม รฟม. จึงเปิดซองข้อเสนอทั้ง 2 ซองดังกล่าว ?

ง. การยอมให้ผู้รับเหมาสามารถเป็นผู้นำกลุ่มนิติบุคคลยื่นประมูลได้ ทำให้ ITD สามารถเป็นผู้นำกลุ่ม ITD Group ซึ่งประกอบด้วย ITD และ ITC ได้ หากผู้รับเหมาไม่สามารถเป็นผู้นำกลุ่มได้ ผู้เดินรถไฟฟ้าจะต้องเป็นผู้นำกลุ่มเหมือนกับการประมูลครั้งที่ 1 ถามว่า ITC จะยอมเป็นผู้นำกลุ่มหรือ ? เนื่องจากเขาจะต้องถือหุ้นในกลุ่มนิติบุคคลมากที่สุด และไม่น้อยกว่า 35% ในทางที่ถูกต้องผู้นำกลุ่มควรเป็นผู้เดินรถไฟฟ้า เนื่องจากเขาจะต้องรับผิดชอบการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้ารวมทั้งซ่อมบำรุงรักษารถไฟฟ้าสายสีส้มตลอดทั้งสายเป็นเวลาถึง 30 ปี ไม่ใช่ผู้รับเหมาที่ทำการก่อสร้างสายสีส้มตะวันตกเพียง 6 ปี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.สามารถ กล่าวว่ากรณีรอผลการพิจารณาของศาลปกครอง ตนขอเสนอแนวทางดังนี้

(1) หากศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าทั้ง 2 คดี ชอบด้วยกฎหมาย และ รฟม. สามารถชี้แจงต่อสังคมได้ ตนขอเสนอให้ รฟม. เจรจาต่อรองกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ชนะการประมูลครั้งที่ 2 ให้ลดรับเงินสนับสนุนสุทธิจาก รฟม. จาก 78,287.95 ล้านบาท เหลือใกล้เคียงกับเงินสนับสนุนสุทธิที่ BTSC ขอรับจาก รฟม. ในการประมูลครั้งที่ 1 คือ 9,675.42 ล้านบาท หาก BEM ไม่ยอม ตนขอเสนอให้ รฟม. ยกเลิกการประมูลครั้งที่ 2 แล้วเปิดประมูลใหม่

(2) หากศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าคดีใดคดีหนึ่งหรือทั้ง 2 คดี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดร.สามารถ กล่าวว่าตนขอเสนอให้ รฟม. ยกเลิกการประมูลครั้งที่ 2 แล้วเปิดประมูลใหม่

1.2 ทางเลือกที่ 2: ไม่รอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครอง

การรอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองอาจต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะคดีกีดกันและเอื้อประโยชน์เอกชนรายใดรายหนึ่งในการประมูลครั้งที่ 2 หรือไม่ ? เนื่องจากคดีนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น ทำให้รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกซึ่งใกล้แล้วเสร็จไม่สามารถเปิดให้บริการได้ และต้องเสียค่าบำรุงรักษาโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งได้ประเมินความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากความล่าช้าในการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 4.6 หมื่นล้านบาท/ปี ด้วยเหตุนี้ ดร.สามารถ จึงเห็นว่าหากไม่ต้องการรอผลการพิจารณาขอศาลปกครอง การยกเลิกการประมูลครั้งที่ 2 แล้วเปิดประมูลใหม่ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

2. รถไฟฟ้าสายสีเขียว

ดร.สามารถ กล่าวว่าปัญหาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 (แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-คูคต) คือหากผู้เดินรถไม่ใช่ BTSC ผู้โดยสารจะต้องเปลี่ยนขบวนรถ ไม่สามารถเดินทางแบบต่อเนื่องได้ และจะต้องเสียค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน กทม. (โดยคณะกรรมการตามคำสั่ง คสช. ที่ 3/2562) จึงแก้ปัญหาโดยต้องการให้ BTSC เป็นผู้รับสัมปทานลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า อาณัติสัญญาณ สื่อสาร และระบบตั๋ว และให้บริการเดินรถ เพื่อให้มีการเดินรถแบบต่อเนื่อง และไม่มีค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน ทั้งนี้ กทม. ต้องรับโอนหนี้งานโยธาส่วนต่อขยายที่ 2 มาจาก รฟม.

ปัญหาที่ตามมาก็คือ กทม. ไม่มีเงินชำระหนี้ให้ BTSC และ รฟม. ซึ่งถึงวันนี้ กทม. เป็นหนี้ BTSC เกือบ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้จากค่าจ้างเดินรถและค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลส่วนต่อขยาย อีกทั้ง ยังมีหนี้จากเวลานี้จนถึงปีสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคือปี พ.ศ. 2572 อีกก้อนใหญ่ กทม. (โดยคณะกรรมการตามคำสั่ง คสช.) จึงเจรจากับ BTSC ให้ BTSC รับหนี้ทั้งหมดแทน กทม. แลกกับการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลักให้ BTSC เป็นเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2572-2602 โดยมีเงื่อนไขให้ BTSC แบกภาระหนี้สินทั้งหมดที่ กทม. มีอยู่กับ BTSC และ รฟม. พร้อมกับแบ่งรายได้ให้ กทม. ไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท อีกทั้ง กำหนดให้ BTSC เก็บค่าโดยสารในอัตรา 15-65 บาท การแก้ปัญหาโดยวิธีนี้ ผู้ว่าฯ กทม. คนที่แล้ว (ท่านผู้ว่าฯ อัศวิน) เห็นด้วย แต่ผู้ว่า กทม. คนปัจจุบัน (ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ) ไม่เห็นด้วย

 

ด้วยเหตุนี้ ดร.สามารถ จึงขอเสนอแนวทางการแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นแนวทางที่ตนได้พูดตลอดมา ประกอบด้วย 2 ทางเลือก ดังนี้

(1) ทางเลือกที่ 1: ชำระหนี้ให้ BTSC แล้วเปิดประมูลหาผู้เดินรถไฟฟ้าใหม่ก่อนถึงปี พ.ศ. 2572
(2) ทางเลือกที่ 2: หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลักให้ BTSC เช่นเดียวกับที่ รฟม. แก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย โดยการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนหลักให้ BEM

3. สรุป

ดร.สามารถ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเขียวโดยไม่ผูกโยงกัน ตามที่เคยถูกตั้งข้อสังเกตว่าความล่าช้าในการแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเพราะ BTSC ผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อสู้อย่างไม่ยอมถอยในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทั้งนี้ ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการทั้งสองอย่างเต็มที่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น