“ผู้การ ตม.1” เซ็นให้ออกจากราชการ “พ.ต.ต.-ด.ต.” อุ้มสาวจีนรีดเงิน 10 ล้าน

"ผู้การ ตม.1" เซ็นให้ออกจากราชการ "พ.ต.ต.-ด.ต." อุ้มสาวจีนรีดเงิน 10 ล้าน

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 66 มีรายงานว่า พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ออกหนังสือคำสั่ง กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ที่ 31/2566 ให้ พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, ร.ต.ท.ประวิต พลจังหรีด รองสารวัตร กองกำกับกรสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, ร.ต.ท.สุริยะ รุกขชาติ รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน (สายงานสืบสวน) กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ ด.ต.พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

ให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลสอบสวนพิจารณาทางวินัย หลังมีคำสั่งที่ 30/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวน พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ พร้อมพวกรวม 5 นาย เนื่องจากข้าราชการตำรวจดังกล่าวถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาหรือถูกฟ้องคดีอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์ อันไม่น่าไว้วางใจ หากให้ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไป อาจเกิดความเสียหายแก่ราชการโดยส่วนรวม อันเป็นเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ตาม กฎ ก.ตร.

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ พร้อมพวกรวม 5 นาย ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติออกหมายจับข้าราชการตำรวจดังกล่าวต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกชมขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปตามหมายจับ

 

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่งและหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พายุฝนพัดถล่มปากพนังเมืองคอนอ่วมอรทัย น้ำท่วมต้นไม้หักโค่นขวางถนน ฝนตกน้ำท่วมและคลื่นลมแรงพัดพัดหอบหอยกาบเกลื่อนชายหาดชาวบ้าน แห่เก็บขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
รวบแล้ว “พี่สาวเมียทนายตั้ม” หลังตกเป็นผู้ต้องหา “ร่วมกันฟอกเงิน” เร่งสอบปม 39 ล้าน
"ดร.ทันกวินท์" เล่านาที "ไอซ์ รักชนก" โดดเดี่ยว มาศาลฟังไต่สวนถอนประกันสส. ดูไม่มั่นใจเหมือนอยู่สภาฯ
‘สามารถ’ ห่วงแม่อายุมาก มอบทีมทนายยื่นโฉนดมูลค่า 1.2 ล้าน ขอประกันตัว
เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น