ความขัดแย้งและปัญหาในพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นั้นมีมานานแล้ว และเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ส่วนมูลเหตุที่เกิดขึ้นก็มีมากมาย ทั้งขัดแย้งทางการเมือง ไม่ได้รับความเป็นธรรม น้อยใจผู้บริหารพรรค ฯลฯ สารพัดสารพันปัญหาจิปาถะ แม้แต่พรรคสีฟ้ายุคปัจจุบันก็หนีไม่พ้นวังวนที่พรรคการเมืองทุกพรรคไม่เฉพาะแต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเจอปัญหาแบบนี้ เพียงแต่ในยุคพรรคสีฟ้ายุคปัจจุบัน ที่อยู่ภายใต้อำนาจของ 3 เสือแกนนำ คือ ” จุรินทร์ ลักษณวิศิฎ์ -เฉลิมชัย ศรีอ่อน -นิพนธ์ บุญญามณี ” ดูเหมือนสัญญาณความขัดแย้งและแตกแยกในพรรคสีฟ้าจะหนักหน่วงและรุนแรงมากกว่ายุคอื่นๆ
เอาที่ย้ายออกหนีพรรคเก็บผ้าหอบผ่อนในอยู่กับพรรคอื่นในยุค 3 เสือที่ว่านี้ก็ปาเข้าไป 30-40 คนแล้ว เท่าที่พอจำได้ ไล่เรียงกันไม่หมดสะกดชื่อกันไม่ไหว พูดแบบนี้ไม่ได้บอกว่ายุค 3 สหาย”จุรินทร์-เฉลิมชัย-นิพนธ์” ครองพรรคสีฟ้าตกต่ำเสื่อมทรุดที่สุด เพราะการเลือกตั้งยังไม่จบผลคะแนนวัดความศรัทธาจากประชาชนทั้งประเทศยังไม่ออก เพียงแต่บอกได้เลยว่ายุคนี้เป็นยุคที่คนในปชป.หนีพรรค เลือดสีฟ้าไหลออกจากองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผมมากที่สุด แถมส่วนใหญ่ที่ไปก็มีแต่ระดับหัวกะทิ เกรดเอของพรรคทั้งนั้น เอาชื่อดังๆที่คนรู้จัก อาทิ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรณ์ จาติกวณิช นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กษิตย์ ภิรมย์ ถาวร เสนเนียม ถวิล ไพรสณฑ์ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ วิทยา แก้วภราดัย เอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ชุมพล กาญจนะ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อนุชา บูรพชัยศรี จุติ ไกรฤกษ์ ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รังสิมา รอดรัศมี เจือ ราชสีห์ ฯลฯ เอาง่ายๆ ถ้าเอาบรรดาส.ส.ที่ลาออกจากปชป.ยุคนี้มารวมกันทั้งหมดสามารถตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้เลย
ความจริงหลายคนก็คิดว่าปัญหาเลือดไหลในพรรคสีฟ้าน่าจะจบแล้ว หลังการออกไปของแม่เลี้ยงติ๊ก จุติ ชัยวุฒิ ฯลฯ ที่น่าจะเป็นล๊อตใหญ่ก๊วนสุดท้ายที่ย้ายออกไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติประกาศหนุนบิ๊กตู่เป็นนายกฯ แต่ล่าสุดก็มีเค้าลางว่าในพรรคน่าจะมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นมาอีก หลัง “ตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคออกมาโพสต์ในทำนองตัดพ้ออนาคตของตัวเองในพรรคที่ไม่ “โต” ไม่ไปไหนเสียที ทั้งๆที่อยู่กับพรรคมา 13 ปี เข้าพรรคมาตั้งแต่อายุ 25 แล้ว “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ …เส้นทางการเมืองนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ผ่านมาทุกรูปแบบ งานในสภา ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน ตั๊นก็ขอทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติตลอดไปค่ะ” คือความในใจล่าสุดที่ตั๊นโพสต์ออกมา
ถ้าไม่หนักหนาไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ตั๊นคงไม่ออกมาโพสต์แบบนี้ เพราะอยู่ทนและทนอยู่กับพรรคมาตั้งนาน ผ่านอะไรมาก็มาก คงสุดจะทนคงไปต่อไม่ไหวจริงๆ อย่างที่รู้พรรคประชาธิปัตย์มีสูตรในการเรียงส.ส.บัญชีรายชื่อแบบ 5 : 1 ผู้ชาย 5 คนขั้นด้วยผู้หญิงหนึ่งคน ในบรรดาส.ส.หญิงของพรรคก่อนหน้านี้ อาวุโสอันดับหนึ่ง ก็คือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่ขึ้นชั้นเป็นรมช.ศึกษาธิการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถัดมาก็คือแม่เลี้ยงติ๊กที่อยู่ในลำดับ 6 จากนั้นก็เป็น “ซ้อเจน” ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ในลำดับที่ 11 และต่อด้วยตั๊นในลำดับที่ 15 อย่างไรก็ตามปัจจุบันทั้งแม่เลี้ยงติ๊กกับซ้อเจนไม่ได้อยู่กับพรรคแล้ว แม่เลี้ยงติ๊กไปซบไออุ่นบิ๊กตู่ซ้อเจนไปเคียงข้างลุงป้อม ตามหลักตั๊นต้องเป็นเบอร์ 1 ที่จะต้องถูกโปรโมทให้ขึ้นมาอยู่ในลำดับแรกของบัญชีรายชื่อฝ่ายหญิง โดยอนาคตถ้าพรรคสีฟ้าได้เป็นรัฐบาล ตั๊นก็ต้องขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของพรรค
แต่อนิจจาจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตั้นจะดูเป็นชื่อแรกของฝ่ายหญิง หรืออย่างน้อยระดับอาวุโสต้องตามหลังคุณหญิงกัลยาแค่คนเดียว แต่ปรากฎว่ายังไม่มีความแน่ชัดจากผู้บริหารพรรคออกมาว่าตั๊นอยู่ลำดับไหน อยู่ในเซฟโซนหรือปล่าว อย่างน้อยรายชื่อ 1-10 ควรจะมีชื่อเธออยู่ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีความชัดเจนจากพรรคจากผู้ใหญ่เสียที แถมยังมีข่าวว่าลำดับของส.ส.หญิงพรรคสีฟ้าต้องมาหารือกันใหม่ ระหว่าง 4 ชื่อ คือ ตั๊น “เจ๊ติ่ง” มัลลิกา บุญมีตระกูล “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และ รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ที่แต่ละคนก็มีจุดเด่น จุดด้อย มีผลงาน มีแบ็ก มีคนหนุนหลัง มีคนเอาใจช่วยมากน้อยไม่ต่างกัน ตั๊นอาจจะได้เรื่องอาวุโสเรื่องอยู่พรรคมานานแต่ช่วงนี้เหมือนผู้ใหญ่ไม่เอ็นดู ผิดจากเจ๊ติ่งที่เป็นเงาข้างกายจุรินทร์ มาดามเดียร์ก็ขึ้นหมอมีเงินมีสื่อเกินครึ่งวงการในมือ ให้คุณให้โทษกับหัวหน้ากับพรรคได้ รัชดาก็มีผลงานเข้าตาตอนไปเป็นทีมโฆษกรัฐบาล เที่ยวนี้สงครามนางฟ้าก็เลยอุบัติในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนสุดท้ายผลจะลงเอยจะออกมาแบบใดก็ตามสุดกัน แต่งานนี้มันส์หยดติ่งหนิงซิงกิแน่นอน เพราะนางฟ้าแต่ละคนมีของมีกองหนุนมีพลังภายในไม่น้อยไปกว่ากัน ล่าสุดประชุมกก.บห. องอาจออกมาแถลงว่าตั๊นยังมีอนาคตยังมีชื่ออยู่ในลิสต์ 100 คน แต่อยู่ลำดับไหนอำนาจการตัดสินใจเป็นของหัวหน้ากับเลขาฯ ส่วนนางฟ้าคนไหนจะเข้าวินก็รอลุ้นกัน
//////////////////