หลังจากอุบไต๋กันมานาน ล่าสุดบรรดาพรรคการเมืองใหญ่ๆ ที่เป็น “ตัวเก็ง-เต็งหาม” ต่างก็ถูกไฟท์บังคับต้องเปิดรายชื่อผู้สมัครแบบปาร์ตี้ลิสต์เพื่อนำมาลงสมัครเลือกตั้งในวันนี้ 4 เม.ย.2566 ล่าสุดก็เลยทำให้เราได้เห็นรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ ของ พรรคเพื่อไทย (พท.) 100 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องบอกว่ารายชื่อส่วนใหญ่ที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด โดยไม่มีชื่อของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กับ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อยู่ในลิสต์ 100 คนแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดเพราะก่อนหน้านี้อุ๊งอิ๊งก็เคยออกมาบอกแล้วว่าไม่ประสงค์เป็นส.ส.ไม่ถนัดงานในสภา ขณะที่เศรษฐายิ่งแล้วใหญ่เพราะออกตัวก่อนเลยว่าไม่สนใจเป็นส.ส.ไม่ถนัดงานนิติบัญญัติ อยากเป็น “นายกฯ” ตั้งใจบริหารประเทศเพียงอย่างเดียวอย่างอื่นไม่สนไม่เอาเลย ล่าสุดก็ประกาศลาออกจากแสนสิริเป็นที่เรียบร้อยหวังลงมาลุยการเมืองเต็มตัว
หากลองไปส่องลำดับต้นๆของปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยจะเห็นว่าอันดับต้นๆจะให้เกียรติ อดีตหัวหน้าพรรคคนเก่าก่อน คือ 1. พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรค 2. สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรค จากนั้นก็ไล่เรียงแกนนำพรรคระดับอาวุโสในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสายบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นเด็กในคาถาของ “นายหญิง” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น 3. ประเสริฐ จันทรรวงทอง 4.ชูศักดิ์ ศิรินิล 5.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 6.เกรียง กัลป์ตินันท์ 7.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 8.สุชาติ ตันเจริญ 9.สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน 10.ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย 11.สมศักดิ์ เทพสุทิน 12.วิสุทธิ์ ไชยณรุณ 13.จาตุรนต์ ฉายแสง 14.ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร 15.นพดล ปัทมะ ทนายทักษิณ เป็นต้น
ขณะที่ลำดับท้ายซอยพวกหลังห้อง จะเป็นพวกที่อยู่ในฝ่ายบริหารและไม่ประสงค์จะเป็นส.ส.อยู่แล้ว อาทิ 96 พิชัย นริพทะพันธุ์ 97 พงศกร อรรณนพพร 98 มาดามนครบาล “เจ๊แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด 99 “บิ๊กแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม และ 100 “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ดูจากลำดับที่ปรากฎออกมาก็ชัดเจนว่าส่วนใหญ่ล้วนเป็นบรรดา “ข้าเก่าเต่าเลี้ยง” ของ “นายใหญ่-นายหญิง” ทุกคน ไม่มีอะไรที่เซอไพรซ์ เพราะส่วนใหญ่ก็อยู่คอกแม้วด้วยความซื่อสัตย์ ทำงานรับใช้ “ทักษิณ -พจมาน” เป็นบริวารตระกูลชินวัตรมาเป็นสิบๆปี เพราะฉะนั้นเป็นธรรมดาที่ต้องได้รับการตอบแทนความ “สัตย์ซื่อ” ให้รางวัลความจงรักภักดีและ “เชื่อง” กับกงสีตระกูลชินเป็นธรรมดา
แม้กระทั่งบริวารที่เคยแหกคอกไปอย่าง “สุริยะ -สุชาติ -สมศักดิ์” ก็ยังกลับมาได้อยู่ในลำดับที่ดีแบบน่าเหลือเชื่อ สุริยะ 7 สุชาติ 8 สมศักดิ์ 11 ไม่รู้คนในเพื่อไทยที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ต่อสู้เพื่อพรรคมาอย่างยาวนาน ไม่เคยแหกคอก ไม่เคยทิ้งพรรค ไม่เคยหนีเอาตัวรอดไปอยู่กับพรรคอื่น ช่วยงานตระกูลชิน เป็นทาสแม้วมาตลอด ลำดับยังดีสู้สามคนนี้ไม่ได้ ไม่รู้ว่า 3 ส.มีดียังไง กลับบ้านเก่ามาปุ๊บก็ได้ขึ้นหิ้งอยู่ในลำดับเซฟโซนที่ได้เป็นส.ส.100 % แบบนอนมา ผลงานก็ไม่มี ช่วยพรรคก็ไม่ช่วยเพราะเพิ่งกลับมา เลือกแต่เฉพาะร่วมสุขไม่ร่วมทุกข์ คิดอย่างอื่นไม่ได้เลย ถ้าไม่เพราะ “ปัจจัย” หรือ “น้ำเลี้ยง” ให้ตายก็ไม่มีทางขึ้นลิฟท์พิเศษมาอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยเหนือกว่าคนอื่นแบบนี้แน่นอน และปัจจัยที่เอามาถวายพรรคก็คงสะสมมาจากตอนเป็นรัฐมนตรียุคเรือแป๊ะของลุงตู่นี้แหละเชื่อแน่ว่าในพรรคเพื่อไทย คงมีคนหมั่นไส้ 3 ส. แน่นอน เพราะมาทีหลังแต่ดันชุปมือเปิบ หยิบชิ้นปลามันในลำดับสำคัญในครอง อนาคตเชื่อขนมกินได้เลยว่าในเพื่อไทยน่าจะมีคลื่นใต้น้ำไม่พอใจพวกมาใหม่แน่นอน
ที่จะมีเซอไพรซ์ให้พูดถึงได้หน่อยก็คือกรณีของ ประวีณ์นุช อินทปัญญา ลำดับ 22 ที่เป็นภรรยาคนสวยของ “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนซี้เตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.ค) เพื่อนคนสนิทของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แปลกแต่จริงที่ไม่ไปอยู่กับพลังประชารัฐที่น่าจะได้ลำดับดีกว่านี้ เพราะคิดต่างกัน เพราะมุมมองไม่เหมือนกัน หรือเพราะยุทธศาสตร์การเมือง ฯลฯ จึงเลือกที่จะอยู่กับเพื่อไทยไม่ไปพลังประชารัฐ เพราะต่อให้อยู่ในลำดับดีที่พลังประชารัฐแต่ตัวพรรคเต็มที่อาจจะได้เสียงแค่ไม่กี่ล้าน สู้อยู่กับเพื่อไทยแม้อันดับที่ 22 แต่มีโอกาสได้ลุ้นเป็นส.ส.มากกว่าโขเพราะยังไงเพื่อไทยก็ได้คะแนนพรรคมากกว่าพลังประชารัฐอยู่แล้ว
ย้อนกับไปที่ประวีณ์นุช หรือ “ซ้ออร” ชื่อเดิม คือ “ประวีณ์นุช เลิศจิตติสุทธิ์” จดทะเบียนสมรสเป็นคู่ชีวิตกับบิ๊กกี่ เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ก่อนจะจัดงานฉลองวาเลนไทน์ที่ห้องเรสซิเดนซ์ โรงแรมแกรนด์ไฮแอท ราชประสงค์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ปีเดียวกัน ตอนนั้นอายุ 40 ปี ส่วนบิ๊กกี่ขณะนั้น อายุ 72 ปี โดยประวีณ์นุช เป็นน้องภรรยาของน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งปัจจุบันสังกัดพรรคไทยสร้างไทย จบการศึกษาระดับ ม.ต้นที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ป.ตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ป.โท มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันประกอบธุรกิจส่วนตัวมากมาย อาทิ สถานเสริมความงาม ร้านอาหารญี่ปุ่น ฯลฯ จากนี้ก็ต้องดูว่าเพื่อไทยถึงเวลาเลือกตั้งคราวนี้จริงๆ 14 พ.ค.2566 เพื่อไทยจะกวาดส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มาได้กี่คน
////////////////