พุทธศาสนิกชนทึ่ง เกิดอัศจรรย์ขณะทำพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลของ “หลวงปู่เฮง” เมฆบังท้องฟ้าคล้ายเกล็ดพญานาค

สุรินทร์-พุทธศาสนิกชนทึ่ง เกิดอัศจรรย์ขณะทำพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลของหลวงปู่เฮง ปภาโส รุ่นชนะจน แดดร้อนๆ อยู่ๆก็มีเมฆมาบังท้องฟ้าคล้ายกับเกล็ดพญานาค ขณะที่พุทธศาสนิกชนแห่รอรับแจกพระเครื่องหลายพันคนด้วยความศรัทธา

วันที่ 7 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ( 3 เม.ย. 2566) ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล มหาพุทธาภิเษก พระเครื่องรุ่นชนะจน โดยจัดสร้างโดย “กบบ่อวิน” ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นในขณะทำพิธีปลุกเสก ซึ่งปรกติแดดจะร้อนจ้า อบอ้าว อยู่ที่ 41 องศา แต่หลังจากที่หลวงปู่เฮง ปภาโส ได้เข้าไปในปะรำพิธี เพื่อปลุกเสกพระเครื่องรุ่นชนะจน จู่ๆก็มีเมฆ ลอยมาปิดบังพระอาทิตย์จนกลายเป็นรูปคล้ายเกล็ดพญานาค ซึ่งชาวบ้านต่างพากันถ่ายรูปและยกมือสาธุด้วยความศรัทธา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก เพราะว่าเมฆที่เป็นลูกคลื่นคล้ายๆกับเกล็ดพญานาคที่ลอยมาปิดบังนั้น ลอยมาปิดบังจนเสร็จพิธีถึงได้สลายออกไป ชาวบ้านต่างพากันโจดขานไปต่างๆนาครโดยเฉพาะที่วัดก็มีรูปปั้นพญานาคอยู่ 2 ตน ที่อยู่ใกล้ๆกับปะรำพิธีด้วย ซึ่งชาวบ้านให้ความศรัทธาและมาขอพรประสบความสำเร็จมาหลายต่อหลายรายแล้ว

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งภายหลังจากเสร็จพิธีทั้งหมด ทางวัดได้มีการแจกเหรียญวัตถุมงคลของหลวงปู่เฮง ปภาโส รุ่นชนะจน ที่แช่น้ำมนต์ตลอดกาลพิธีปลุกเสก จำนวน 1,696 เหรียญ โดยมีชาวบ้านว่าหลายพันคนแห่เข้าไปรอรับเหรียญด้วยความศรัทธาหลวงปู่เฮง แต่ก็ไม่พอกัน และยังมีเซียนพระจากทั่วทั้งประเทศไทยไปขอรับบูชาเหรียญแจกต่อจากชาวบ้าน อยู่ที่หน้างานหรือหน้าวัดด้วยอย่างคึกคัก ชาวบ้านบางคนก็เอามาปล่อยบูชา แต่ชาวบ้านบางคนก็เก็บเอาไว้เพื่อบูชา ซึ่งวัตถุมงคลรุ่นนี้ เป็นที่ต้องการของเซียนพระเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม ปัจจุบันสิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ มีวัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น โดยศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 จนกระทั่งหลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน หลวงปู่เฮง ปภาโส เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ธนากร มณีศรี ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นิพิฏฐ์" โพสต์เดือด "ทนายความหรือปีศาจ" ชี้ขนาดทนายดัง ยังมีคดีอิรุงตุงนัง
“ดิ ไอคอน” ประกาศปิดสำนักงานชั่วคราว หลังดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ
ฝนยังไม่หมด กรมอุตุฯ เตือน 28 จว. รับมือฝนตกหนัก กทม.ก็ไม่รอด
ฮาโลวีนแปดริ้วผีแดนซ์และเหมือนจนเด็กร้องกรี๊ด
ผบช.ทท. สั่งการ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา คุมเข้ม ดูแล นทท. คืนปล่อยผี พร้อมแจกอมยิ้มสร้างสีสัน
“พิชัย” เร่งเจรจา FTA ไทย-ยูเรเซีย เปิดการค้าการลงทุน
ตร.บช.ก.สอบ "เจ๊อ้อย" มาราธอนนานกว่า 10 ชั่วโมง ปมเงิน 71 ล้านบาท
ฮือฮา วัตถุมงคล "หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์"  ด้าน "สำนักปฏิบัติธรรมฯ" แจงฆราวาสเป็นผู้จัดสร้าง นิมนต์พระไปอธิษฐานเท่านั้น
อบจ.อยุธยา เตรียมจัดงานแสง สี เสียง ลอยกระทงกรุงเก่า อาบน้ำเพ็ญเดือน12กับเกจิชื่อดัง ชมแข่งขันชกมวยเยาวชนไทย
20 ปี “เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ” เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ตอกย้ำความประทับใจ ชวนสัมผัสธรรมชาติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น