วันที่ 7 เมษายน 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่า ประเทศไทยตอนนี้คนไทยอ่อนแอมาก ไม่มีทางที่จะสร้างประเทศที่เข้มแข็งได้หากคนไทยยังอ่อนแอแบบนี้ ซึ่งในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คนไทยมีเงินเก็บลดลง หนี้สินครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างประเทศที่เข้มแข็งจากคนที่อ่อนแอ พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าในระยะสั้นมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างระบบรัฐสวัสดิการดูแลคนตั้งแต่เกิดจนตายให้ได้ เพื่อทำให้คนมีความมั่นคงในชีวิต
“คนที่ไม่มีความมั่นคงในชีวิต มองชีวิตกันเป็นวันเป็นสัปดาห์ สัปดาห์หน้าจะกินอะไร เดือนหน้าจะกินอะไร วางแผนชีวิตไม่ได้ ถ้าเราสร้างรัฐสวัสดิการจะดูแลคนได้ เขาจะวางแผนเป็นเดือนได้ เดือนนี้ต้องผ่อนรถให้เสร็จก่อน ปีหน้าค่อยเริ่มซ่อมบ้าน” นายธนาธรกล่าว
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ จึงขอโอกาสพรรคก้าวไกลขับเคลื่อนสังคมไทยให้ไปข้างหน้า
เมื่อถามว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาทสามารถ กระตุ้นเศรษฐกิจไปถึง 6 เดือนได้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า คงต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าทางทีมนโยบายพรรคคิดเห็นอย่างไร ส่วนตัวอยากเห็นรูปแบบสวัสดิการที่ยั่งยืนมากกว่านี้ ทำให้ประชาชนมั่นคงได้ความสำคัญคือต้องมีความต่อเนื่องและชัดเจน จะสามารถทำให้คนออกแบบชีวิตได้
เมื่อถามว่าหากมีโอกาสร่วมรัฐบาลกันพรรคก้าวไกลจะนำข้อเสนอรัฐสวัสดิการต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ตนคิดว่า การร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยคงต้องมีการปรับหลายอย่าง นโยบายหลายอย่างที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นนโยบายที่ดีพรรคก้าวไกลพร้อมสนับสนุน
ขณะเดียวกันก็เชื่อว่ามีนโยบายของพรรคก้าวไกลหลายตัวที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะหยิบยกนโยบายของพรรคก้าวไกลไปใช้เช่นกัน ดังนั้นหากหลังเลือกตั้งแล้วคงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันเพื่อดูว่าหากตัวรัฐบาลแล้วจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างไร