“มาร์ค พิตบูล” ผู้สมัคร ส.ส.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ลงพื้นที่ทะเลระยองดำน้ำหาคราบน้ำมัน

“มาร์ค พิตบูล” ผู้สมัคร ส.ส.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ลงพื้นที่ทะเลระยองดำน้ำหาคราบน้ำมัน หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวประมงชายฝั่งว่าสัตว์ทะเลมีปริมาณลดลง ขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยองส่งเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตุการณ์

วันที่ 9 เมษายน 2566 ที่ศาลาประชาคมกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กบางกระเฉอ หาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ“มาร์ค พิตบูล”ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นำทีมนักประดาน้ำ พร้อมกล้องบันทึกภาพใต้น้ำดำดูระบบนิเวศน์ใต้ทะเลระยอง หลังได้รับร้องเรียนจากกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กบางกระเฌอ และกลุ่มประมงชายฝั่งหาดแม่รำพึง มาร์ค พิตบูล กล่าวว่า การมาลงพื้นที่วันนี้เพราะมีชาวประมงในพื้นที่จังหวัดระยองร้องเรียนไป ในฐานะที่ทางพรรคเรามีนโยบายในการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงอยากมาพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเอง ไม่ใช่หลายๆหน่วยงานที่มารับหนังสือแล้วกลับ เรื่องนี้เราจะตามต่อเนื่องแบบกัดไม่ปล่อยเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมง ให้อาชีพการทำประมงชายฝั่งกลับมาสร้างคุณภาพชีวิตแบบยั้งยืนต่อไป

ด้านนายประเสริฐ แสงเมฆ ประธานกลุ่มประมงบางกระเฌอ กล่าวว่า ปกติก่อนจะมีเหตุการณ์น้ำมันรั่วกลางทะเล เมื่อนำเรือออกจับสัตวน้ำทุกครั้ง จะพบฝูงปลาเล็กๆ จำพวก ปลาหัวอ่อน ปลารัง ปลาหลังเขียว ขึ้นเป็นฝูงให้เห็น ซึ่งปัจจุบันไม่มีให้เห็นเลย ทั้งนี้ กลุ่มประมงมีความกังวลอย่างมาก ไม่รู้ว่าสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ใต้น้ำเจอน้ำมันดิบกับสารเคมีหรือเปล่า จึงไม่สามารถดำรงชีวิต และขยายพันธุ์ได้ ต้องขอขอบคุณคณะของคุณมาร์ค ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้
ช่วงเย็นวันเดียวกัน มาร์ค พิตบูล ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนได้นำคณะลงไปดำน้ำดูระบบนิเวศน์ใต้ทะเลที่ทัศนสัยการมองเห็น 2 เมตร ความลึก 15 เมตร ห่างจากชายฝั่งหาดแม่ระพึง ประมาณ 2 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นจุดวางปะการังเทียม ที่ภาครัฐทำไว้เป็นบ้านปลา เมื่อตนตักทรายขึ้นมาก็พบว่าใต้ผิวทรายมีสีดำมีความเหนียวผิดจากทรายปกติทั่วไป สาเหตุน่าจะเกิดจากปฎิกริยาทางเคมี ที่มีการใช้สารกำจัดคราบน้ำมันแล้วตกตะกอนลงไปที่ใต้ทะเล บริเวณดังกล่าวแทบจะไม่พบสัตว์ทะเลที่หากินบริเวณหน้าผิวดินเลย

จึงอยากให้บริษัทต้นตอปล่อยน้ำมันรั่วเร่งเข้ามาฟื้นฟูระบบนิเวศน์บริเวณทะเลชายฝั่งโดยเร็ว ไม่ใช่แค่จ่ายเงินเยียวยาให้ชาวบ้านแล้วจบ หลังจากนี้จะได้ประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา ในการฟื้นฟูทะเลระยอง โดยจะเชิญชาวบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาร่วมประชุมหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป

อัจฉรา วิเศษศรี…ระยอง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กินเนสก์บุ๊ค" เตรียมบันทึกสถิติโลก ฟ้อนเล็บคุ้มเจ้าหลวงอัตลักษณ์เชียงใหม่ ฉลองสมโภชเชียงใหม่ 729 ปี
"อนุทิน" เปิดกระทรวงมหาดไทย ให้ขรก.อวยพรสงกรานต์ ขอบคุณ ทุกคนทำงานเต็มที่
กรมการค้าต่างประเทศ สั่งคุมเข้มสินค้าเฝ้าระวัง 49 รายการ เสี่ยงสูงส่งออกสหรัฐฯ
“เอกนัฏ” ปรับแผน สั่งทีมสุดซอย นำหมายศาลค้น “ซิน เคอ หยวน” เก็บคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หาข้อมูล
"ถ.มิตรภาพ" โคราช รถเริ่มมาก ปชช.ทยอยเดินทางกลับอีสาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หญิงชาติพันธ์ุไทเกล้า'มวยผมนกยูง'รับเทศกาลสาดน้ำในยูนนาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สุดล้ำ! จีนสร้าง 'อาคารสองชั้น' ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
สงกรานต์ปลอดภัย รัฐบาลคุมเข้มทางน้ำ! กรมเจ้าท่าขอความร่วมมือ “งดดื่มแอลกอฮอล์” บนเรือ ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาล
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) นักท่องเที่ยวหย่อนใจใต้ 'ดอกท้อ' ในกุ้ยโจว
สงกรานต์ 2568 "PEA" ห่วงใยผู้ใช้ไฟฟ้า แนะตรวจเช็กอุปกรณ์ในบ้าน เพื่อความปลอดภัย ก่อนออกเดินทาง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น