จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว เนื่องในวันสลายชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในปี 53 ระบุว่า ครบรอบ 13 ปี 10 เมษา 53 ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย ให้กำลังใจทุกคนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคเท่าเทียม และขอประณามทุกความรุนแรงที่ผู้มีอำนาจกระทำต่อประชาชน สิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย และการอำนวยความยุติธรรม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเช่นกัน 13 ปีเราไม่ลืม
ส่วนทางด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พรรค พท. และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเช่นเดียวกันว่า 13 ปีแล้ว วันแรกของการส่งทหารเข้ายึดพื้นที่และใช้กระสุนจริงกับประชาชน มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก 13 ปี 10 เม.ย. 13 ปีเราไม่ลืม ถึงวีรชนผู้ต่อสู้ทุกท่าน ไม่มีวันไหนที่พวกเราจะลืม และขอยืนยันว่าจะเรียกร้องให้คืนความยุติธรรมแก่ผู้เสียสละ เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนต่อการทำงานของพวกเราในอนาคต เราสูญเสียไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
ต่อมาในโลกโซเชียลได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการออกมาโพสต์ข้อความของนายเศรษฐา และ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร “ถ้าเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นเมื่อไหร่ จะกลับมาประเทศไทย ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดง ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
โดยถ้อยคำดังกล่าวที่ว่า “ถ้าเมื่อไหร่ เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพทันที”
นายทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2552 ผ่านระบบวิดีโอลิงค์ ขึ้นจอภาพ บนเวทีกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
ส่วนกรณีของนายเศรษฐา ชาวโซเชียลก็มีคอมเมนต์ว่า ตอนสู้ไม่เคยไปสู้กับเขา มาวันนี้เอาเรื่องนี้มาโหนเลือกตั้งซะดื้อ ๆ