“จตุพร” ฟันธง “เพื่อไทย” พังก่อนแน่นอน ไร้โอกาสแจกเงินดิจิทัล ลั่นจะต่อต้านถึงที่สุด

“จตุพร” ฟันธง เงินดิจิทัล 10,000 บาทไม่มีทางเกิดขึ้นจริง “เพื่อไทย” ไม่มีโอกาสแจก เพราะพังก่อน ยันไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจคนรวย 32 ล้านคนไม่เดือดร้อน ลั่นจะต่อต้านถึงที่สุด จับสัญญาณ กกต.บินตปท.ยกชุด เชื่อคนแก่หมดวัยเที่ยว คาดซุ่มพูดคุยกัน รอแบงก์ชาติเชือดเงินดิจิทัล บี้ เพื่อไทย-เศรษฐา ขอโชคดี

14 เม.ย.2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ตอน “ร่วมต่อต้านการหาเสียง แจกเงินคนรวยเท่าคนจน” โดยยืนยันแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทต้องจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจคนจนเท่านั้น พร้อมคัดค้านแจกคนรวย และเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ให้โครงการแจกเงินของพรรคเพื่อไทยผ่านไปได้ด้วยดี พร้อมกล่าวแสดงความมั่นใจว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย จะไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นจริงได้ โดยมีข้อสังเกตุคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจส่งเรื่องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธนาคารชาติพิจารณาว่า ทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ตามที่เพื่อไทยแถลงธนาคารชาติคงปล่อยให้ทำกันไปแล้ว

 

 

“คาดว่า ดาบเชือดจะออกมาจากธนาคารชาติ แล้วส่งผ่านกกต. ดังนั้น เรื่องนี้จะพิจารณากันอย่างรวดเร็ว อีกอย่างกกต.ไปต่างประเทศ อาจหลีกเลี่ยงจะเป็นข่าว แล้วไปซุ่มพูดคุยกันก็ได้ กกต. 6 คนแก่แล้ว คงหมดวัยเที่ยว และอาจไม่ได้ไปเที่ยวก็เป็นได้ จึงอย่าคิดชั้นเดียว มั่นใจว่า นายเศรษฐาและเพื่อไทย ไม่มีโอกาสได้แจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทแน่ เพราะจะพังก่อน เนื่องจากธนาคารชาติจะไม่มีวันยอมให้ทำสกุลเงินดิจิทัลแน่ เพราะพฤติกรรมนักการเมืองเพื่อไทยเป็นเครื่องชี้เจตนา ที่จะบอกถึงจิตใจต้องการอะไร ” นายจตุพร กล่าว

 

 

May be an image of 3 people

 

นายจตุพร กล่าวว่า ความอยากได้ตะแนนเสียงแบบง่าย ๆ จึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการอธิบายกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สมเหตุสมผล โดยพรรคเพื่อไทยใช้เงิน 5.4 แสนล้านจะกระตุ้นได้แค่แจกคนจน 22 ล้านคนเท่านั้น ส่วนคนรวย 32 ล้านคนที่ได้รับแจกด้วย ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจเลย เพราะพวกนี้ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีเดือดร้อนเรื่องปากท้องอดอยาก การพยายามกล่าวอ้างเอาเงินประเทศไปแจกให้คนรวยแล้วตัวเอง (นายเศรษฐา ทวีสิน) ได้รับด้วย จึงเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากเคยมีตัวอย่างแก้ รธน. ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่กล้าโหวตวาระสาม ในประเด็น ส.ว. สมัครเลือกตั้งได้สองสมัยติดต่อกัน ซึ่งศาล รธน.ชี้ว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะแก้ รธน.เพื่อตัวเอง ถ้ากลับกันเมื่อแจกหมื่นบาทแล้ว นายเศรษฐา ก็ได้ จะตอบอย่างไรกับการแจกเงินเพื่อตัวเอง

ข่าวที่น่าสนใจ

นายจตุพร กล่าวพร้อมยกตัวอย่างให้เงินกู้กับพม่าว่า หลักการดี ไทยเป็นประเทศผู้ให้กู้ แต่พม่าได้รับเงินกู้นำมาซื้อสินค้าในเครือ AIS ก็เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนทันที อีกทั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ชาวนาได้ประโยชน์กันจริง แต่พ่อค้าไม่ได้นำไปขายจีทูจีจริง และได้ประโยชน์ที่มากกว่าอีก ประเทศและประชาชนจึงเสียหาย

ถึงที่สุดต้องยืนหยัดต่อสู้กับความอยากได้อยากมีของคนรวยบางคนจึงเป็นสิ่งที่ยากที่สุด เพราะเงินค่าวิ่งรถผ่านสะพาน 10-20 บาทยังเก็บ ย่อมแสดงถึงพฤติกรรมเอาประโยชน์ส่วนตัว ไม่เผื่อแผ่สังคม ดังนั้น ขณะที่ประเทศเป็นหนี้สาธารณะ 10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนยังแบกอีก 14 ล้านล้านบาท แล้วบ้านเมืองอยู่ในสภาพใกล้ล้มละลาย แต่นายเศรษฐา คิดแจกเงินหมื่นบาท ตัวเองก็ได้รับแจกด้วย และยังเอาอีก สิ่งนี้จึงเป็นพฤติกรรมเห็นแก่ตัวแล้วมาเสนอแจกให้คนรวยเห็นแก่ตัวตามนักการเมืองไปด้วย

 

“หลักคิดการแจกเงินหมื่นบาทต้องเพื่อคนจนเท่านั้น จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อคนรวยก็ต้องเป็นอีกเศรษฐกิจหนึ่ง หรือคิดโครงการธุรกิจเอสเอ็มอี ก็ว่ากันไป แต่การแจกคนจนโดยคิดการตลาดการเมืองระยะสั้น จะเกิดความฉิบหายระยะยาว ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง” นายจตุพร กล่าว

 

นายจตุพร กล่าวว่า คนรวยไทยต้องกล้าที่สวนทางการแจกเงิน ถ้ารักชาติบ้านเมือง ต้องไม่เอาเงินบ้า ๆ แบบนี้ โดยให้คนจน 22 ล้านคนไปเลย ส่วนคนรวย 32 ล้านคนต้องปฏิเสธ ต้องกล้าประกาศไม่รับ เนื่องจากสภาพประเทศยังย่ำแย่ แบกหนี้สินจนล้นพ้นตัวกันแบบนี้ รวมทั้งเห็นว่าการแจกเงินหมื่นบาทนั้นทำให้พรรคก้าวไกลและไทยสร้างไทยได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะคะแนนเสียงอยู่บนฐานการเมืองเดียวกัน นอกจากนี้พรรคการเมืองอื่นก็มีการแจกเงินเช่นกัน แต่เป็นการแจกเฉพาะกลุ่มบุคคลที่รับ เช่น คนสูงวัย คนจนในบัตรคนจน หรือบัตรประชารัฐ และบัตรสวัสดิการรัฐ แล้วแต่จะเรียกชื่อกันไป แต่สิ่งสำคัญไม่ได้แจกให้คนรวยนำเงินไปละลายเล่น ก่อหนี้ให้ประเทศเสียหาย และประชาชนต้องแบกหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก

“เราต้องกล้าหวังให้ประเทศนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อที่มาของเงินแจกไม่สุจริต เราจะไปหวังว่า เขาจะบริหารประเทศโดยสุจริตได้อย่างไร การอ้าง รธน.เท่าเทียมก็ยังแจกไม่ครบ เด็กแรกเกิดถึงอายุ 16 ปีไม่ได้รับ อย่างไรก็ตาม หัวเด็ดตีนขาด ผมไม่เห็นด้วย และต้องต่อต้านการแจกเงินหมื่นบาทให้คนรวยจนถึงที่สุด”

นายเศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย เป็นคนรวยระดับสูงเช่นกัน ยังกล้าพูดหน้าบานว่า ก็ได้รับเงินหมื่นบ้านด้วย ดังนั้น ประเทศนี้ไม่มีใครมีสิทธิ์จะมาปล้นได้ปล้นเอา แต่เรามีสิทธิ์จะพาประเทศให้รอดพ้นได้อย่างไร ส่วนหลักคิดการแจกเงินดิจิทัลคือการนำพาหายนะมาให้ประเทศอย่างชัดเจน พร้อมย้ำว่า การแจกเงินครั้งนี้ เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน แล้วหวังผลทางการเมืองระยะสั้น แต่ประเทศฉิบหายระยะยาว จึงถามนักการเมืองพรรคนี้ว่า ยังไม่เข็ดอีกหรือกับพฤติการอ้างประชาชนมาหาประโยชน์ส่วนตน

 

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน และ ข้อความพูดว่า "JILSANDER"

 

อาจเป็นรูปภาพของ 5 คน

 

 

 

“ผมยืนยันคนที่สมควรได้เงินแจกหมื่นบาทในจำนวนทั้งประเทศประมาณ 54 ล้านคน คือคนจน 22 ล้านคน อีก 32 ล้านคนเป็นคนรวยไม่สมควรได้ และไม่มีเหตุผลมีผลต้องไปแจกเงินให้คนไม่เดือดร้อนด้วย เพราะพวกนี้ไม่ใช่คนจน แต่เงินนี้ต้องช่วยให้เฉพาะคนจนเท่านั้น”นายจตุพร กล่าว

 

May be an image of 1 person and text that says 'พท พรรคเพื่อไทย FAQ FAQ ทำไมเพื่อไทยกล้าเสนอนโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท? โพสต์นี้มีคำตอบ'

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น